วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SVI เฝ้าติดตามกันต่อไป

ขณะที่ คาดว่าคำสั่งซื้อของ SVI จะทรงๆในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ (บริษัทคาดยอดขายทรงตัวใน 1Q67-2Q67) แต่อย่างไรก็ดี อาจเห็นการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อขึ้นมาบ้างในช่วงครึ่งหลังของปี จาก i) การกลับมาสั่งซื้อของลูกค้ารายเดิมด้วยแรงหนุนจากการปรับสต๊อกสินค้าคงคลังเรียบร้อยแล้ว และ ii) การเริ่มผลิตสินค้าของลูกค้ารายใหม่ ๆ (คาดจะเริ่มผลิตตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไปด้วยยอดคำสั่งซื้อราว 30-50 ล้านดอลลาร์) SVI ตั้งเป้าหมายยอดขายปี 2567 เอาไว้ที่ 753 ล้านดอลลาร์ฯ ( +15% YoY) (เทียบกับสมมติฐานยอดขายปี 2567 ของเราที่ 695 ล้านดอลลาร์ฯ หรือเติบโต 6% YoY) ทั้งนี้ บริษัทมีคำสั่งซื้อในมือ (backlog) อยู่ประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ฯ สำหรับในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า

ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ระหว่าง 8.5% - 9.0%

SVI ตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 อยู่ระหว่าง 8.5% -9.5% จาก i) การฟื้นตัวของยอดขาย และ ii) ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ (product mix) แม้ว่าเป้าหมายของบริษัทจะสูงกว่าสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 ของเราที่ 8.3% เรายังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นไว้เช่นเดิมเนื่องจากอาจมีความเสี่ยงจากการแข็งค่าเงินบาท ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยช่วงต้นไตรมาสนี้ถึงปัจจุบัน (QTD) อยู่ที่ 35.2 บาทต่อดอลลาร์ ฯ เทียบกับสมมติฐานจากนักเศรษฐศาสตร์ของ KGI อยู่ที่ 33.5 บาทต่อดอลลาร์ ฯ

 

 

แนะนำให้รอคอยและเฝ้าติดตามต่อไป 

เรายืนยันมุมมองของเราต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม (inventory restocking) แต่ ผลการดำเนินงานของ SVI จะทยอยฟื้นตัวอย่างช้าๆในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นอกจากนั้น แนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทยังเป็นความเสี่ยงอีกด้านต่อผลการดำเนินงานของ SVI ด้วยเหตุผลดังกล่าว เราแนะนำให้นักลงทุนรอคอยและเฝ้าติดตามผลการดำเนินงานของ SVI ใน 1H67 เราคาดว่าน่าจะกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งในช่วง 2Q67 เพื่อจับตาดูช่วงที่มียอดขายสูงที่สุด (peak season) ใน 3Q67 ทั้งนี้ กรณีที่บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายตาม guidance ได้ (ยอดขายอยู่ที่ 753 ล้านดอลลาร์ฯ ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ระหว่าง
8.5% - 9.0%) กำไรทั้งปี 2567 จะสูงกว่าประมาณการกำไรปี 2567 ของเราอยู่ราว 16% - 28%

Valuation & action

เราคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 6.80 บาท อิงจาก PER ที่ 15.0x (เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีตของ Hana Microelectronics (HANA.BK/HANA TB) * -0.25 S.D) และคงคำแนะนำ “ ถือ”
 

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนที่ 33.5 บาทในปี 2567-2568) และความล่าช้าในการทดสอบผลิตภัณฑ์

 

 

 

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...