ผู้เชี่ยวชาญเตือน! โอมิครอน JN.1 กำลังปรับกลยุทธ์คล้ายกับไวรัสเมอร์ส

ด้านศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็ได้ โพสต์เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกประเมินว่าโอมิครอน JN.1 กำลังปรับกลยุทธ์ด้วยการกลายพันธุ์ส่วนหนามแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน กล่าวคือปรับส่วนหนามจากเดิมที่จะจับจำเพาะกับเซลล์เยื่อบุปอดให้สามารถแพร่ลงลึกจับกับเซลล์เยื่อบุลำไส้ร่วมด้วยคล้ายกับ“ไวรัสเมอร์ส(MERS)”เพราะหลายประเทศตรวจพบโอมิครอน JN.1 ในน้ำเสีย(ที่ปนเปื้อนอุจจาระและปัสสาวะ) เพิ่มมากขึ้น

แหล่งที่มา: Center for Medical Genomics
โอมิครอน JN.1

แม้จะยังไม่มีข้อพิสูจน์โดยตรงที่แน่ชัดว่าโอมิครอน JN.1 จะทำให้เกิดปัญหาการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับโอมิครอนสายพันธุ์ก่อนๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายสถาบันสังเกตเห็นแนวโน้มจากการตรวจพบโอมิครอน JN.1 ในน้ำเสียเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ออสเตรีย เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ อินเดีย และสิงคโปร์ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา

การเฝ้าติดตามการเพิ่มจำนวนและการอุบัติขึ้นของสายพันธุ์เก่าและใหม่ของเชื้อโควิด-19 จากน้ำเสียที่ยังไม่ได้บำบัด (wastewater surveillance of SARS-CoV-2) จากแหล่งชุมชนที่มีการปนเปื้อนปัสสาวะและอุจจาระจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีและไม่มีอาการ โดยสามารถตรวจจับเชื้อไวรัสโควิด-19 จากน้ำเสียได้ก่อนที่จะมีผู้ป่วยปรากฏให้เห็นในสถานพยาบาลประมาณ “1-2 สัปดาห์”  ทำให้การตรวจเชื้อโควิด-19 จากน้ำเสียเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพสำหรับการเตือนภัยล่วงหน้าและการติดตามการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งโรคติดเชื้ออุบัติซ้ำหรืออุบัติใหม่อื่นๆ และเนื่องจากโอมิครอน JN.1 ได้รับการจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่าสนใจ หรือ “Varian of interest " โดยองค์การอนามัยโลกเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ทำให้มีการตรวจหาโอมิครอน JN.1 ในน้ำเสียร่วมด้วย

  • ในสหรัฐอเมริกา ตรวจพบโอมิครอน JN.1 ในตัวอย่างน้ำเสียจากหลายรัฐในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุการระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะลุกลาม
  • ในสิงคโปร์ มีการตรวจพบโอมิครอน JN.1 ในตัวอย่างน้ำเสียเมื่อต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งส่งผลให้มีการทดสอบและเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
  • ในอินเดีย ตรวจพบโอมิครอน JN.1 ในตัวอย่างน้ำเสียจากรัฐปุเณ ต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐเพิ่มการเฝ้าระวังและติดตามเพิ่มมากขึ้นในรัฐมหาราษฏระและเกรละ ซึ่งเป็นที่ซึ่งมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น
  • ในประเทศไทย ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ร่วมมือกับสำนักงานวิจัย วิชาการและนวัตกรรม รพ. รามาธิบดี เคยตรวจไวรัสโคโรนา 2019 จากน้ำเสียในช่วงที่สายพันธุ์เดลตา และโอมิครอนดั้งเดิมกำลังระบาด สามารถเริ่มการตรวจกรองน้ำเสียเพื่อคัดกรองโอมิครอน JN.1 ได้หากมีความจำเป็น 

ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริการะบุว่าระดับปริมาณไวรัสโอมิครอนจากน้ำเสียในปัจจุบัน (พ.ศ. 2566) เพิ่มสูงมากเกินกว่าระดับของโอมิครอนในน้ำเสียที่สังเกตได้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (พ.ศ. 2565) ที่มีผู้ป่วยเกือบ 40,000 รายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโอมิครอนในสหรัฐอเมริกา

ในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลากรุงเทพฯ กระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่จำนวน 752 ราย ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

กลุ่มความร่วมมือจีโนมิกส์ SARS-CoV-2 ของอินเดีย (the Indian SARS-CoV-2 Genomics Consortium: Insacog) รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโอมิครอน JN.1 จำนวน 21 รายจากทั่วประเทศ โดย 19 รายอยู่ในรัฐกัว และในรัฐมหาราษฏระและเกรละ รัฐละ 1 ราย  กรณีของโอมิครอน JN.1 ในอินเดียยังไม่พบการติดเชื้อที่รุนแรง 

การตรวจพบโอมิครอน JN.1 ในอินเดียนำไปสู่มาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติปุเณ  รัฐมหาราษฏระ และการติดตามบุคคลที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่และมีอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง

การศึกษาในอดีตพบว่าไวรัสเมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome: MERS) ซึ่งเป็นไวรัสโคโรนาตระกูลหนึ่งที่มีจุดเด่นในการติดเชื้อที่เซลล์เยื่อบุระบบทางเดินอาหารเป็นการเฉพาะ และเร็วๆนี้พบว่าการกลายพันธุ์บางตำแหน่งบนจีโนมของโอมิครอน JN.1 ไปคล้ายกับไวรัสเมอร์ส อันอาจทําให้มีพันธุกรรมที่เอื้อต่อการติดเชื้อในเซลล์เยื่อบุลำไส้ สังเกตจากหลายประเทศขณะนี้ตรวจพบโอมิครอน JN.1 ในน้ำเสีย(ที่ปนเปื้อนอุจจาระปัสสาวะ) เพิ่มมากขึ้นอันบ่งชี้ว่าโอมิครอน JN.1 มีการกลายพันธุ์เพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันในบริเวณ “เซลล์เยื่อบุปอด” อันสืบเนื่องมาจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อโควิดตามธรรมชาติ ไปเพิ่มจำนวนในบริเวณ “เซลล์เยื่อบุลำไส้” แทน

การที่ไวรัสเปลี่ยนแปลงเซลล์เป้าหมาย (viral tropism) จากเซลล์เยื่อบุปอดมาเป็นเซลล์เยื่อบุลำไส้ของโอมิครอน JN.1 คาดว่าช่วยให้ไวรัสไม่ถูกจับและทำลายจากแอนติบอดีในปอด โดยอาจส่งผลกระทบต่อการเกิดโรคและการแพร่กระจายของเชื้อในอนาคต

 

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากโอมิครอน JN.1 สามารถติดเชื้อในเซลล์เยื่อบุลำไส้

  • มีอาการทางระบบทางเดินอาหาร : ผู้ที่ติดเชื้อโอมิครอน JN.1 อาจมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วง คลื่นไส้ และอาเจียน อาการเหล่านี้อาจพบได้บ่อยหรือรุนแรงกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ อื่นๆ
  • ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการแพร่เชื้อ :หากโอมิครอน JN.1 สามารถแพร่เชื้อในลำไส้ได้ ก็อาจหลั่งออกมาทางอุจจาระได้ สิ่งนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสจากคนสู่คน
  • โรคที่รุนแรงมากขึ้น : ในบางกรณี ไวรัสที่สามารถติดเชื้อในลำไส้อาจทำให้เกิดโรคที่รุนแรงยิ่งขึ้นได้ เนื่องจากลำไส้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีเซลล์ภูมิคุ้มกันจำนวนมาก ซึ่งสามารถตกเป็นเป้าหมายของไวรัสเข้าทำลายได้

ดังนั้นจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบทั้งหมดของความสามารถของโอมิครอน JN.1 ในการติดเชื้อกับเซลล์เยื่อบุลำไส้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อโอมิครอน JN.1 ที่อาจมีเพิ่มขึ้น ดังนั้นประชาชนจึงควรปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันหรือควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันตนเองติดเชื้อ เช่น การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด การสวมหน้ากากอนามัยในที่ที่มีผู้คนหนาแน่น กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...