เทรนด์เปลี่ยน!ต่างจังหวัดนิยมซื้อบ้านโครงการได้ของตรงปก-งบไม่บานปลาย

ภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าพฤติกรรมของคนต่างจังหวัดเปลี่ยนไปจากเดิมที่นิยมสร้างบ้านเองหันมาซื้อบ้านในโครงการจากดีเวลลอปเปอร์มากขึ้น โดยยอมที่ซื้อบ้านเดี่ยวในโครงการนอกเมืองที่มีระยะทางไม่เกิน20 กิโลเมตรเพื่อให้ได้บ้านที่มีระดับราคาที่สามารถซื้อได้ตกหลังละ 4-6ล้านบาท  เพราะถ้าซื้อโครงการในเมืองราคาบ้านใกล้เคียงกับราคาในกรุงเทพฯ เพราะต้นทุนค่าที่ดินแพงขึ้น และในต่างจังหวัด"ไม่มี"ปัญหาเรื่องรถติดเหมือนในกรุงเทพฯอยู่ไกลจากตัวเมืองได้

"แนวโน้มลูกค้าในต่างจังหวัดที่ต้องการที่อยู่อาศัยเลือกซื้อโครงการบ้านจัดสรรมากกว่าการปลูกสร้างเอง เพราะการสร้างบ้านเองเรื่องที่ยาก ถ้าใช้บริษัทรับสร้างบ้านราคาสูง ถ้าใช้ผู้รับเหมาหายากเพราะขาดแคลนแรงงาน ยิ่งถ้าไม่มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างลำบากแค่ต่อเติมบ้านปวดหัวแล้ว ลูกค้าจึงเลือกซื้อบ้านในโครงการง่ายกว่า เพราะได้สินค้าที่ตรงตามความต้องการสินค้าตรงปก แต่หากก่อสร้างเอง งบประมาณอาจบานปลายหรือสร้างได้ตามงบประมาณ แต่คุณภาพไม่ได้ตามที่ต้องการ " 

 จากข้อมูลพบว่า คนต่างจังหวัดนิยมซื้อบ้านเดี่ยว/บ้านแฝดระดับราคา4-6ล้านบาทขนาด50ตารางวา แต่ถ้าเป็นทาว์นโฮม2-3 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากพฤติกรรมของคนต่างจังหวัดมีนิสัยมัธยยัด ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จึงมีเงินเก็บมากกว่าคนในกรุงเทพฯ สังเกตจากการที่คนซื้อบ้านในกรุงเทพฯจะขอกู้เต็มจำนวน เพราะไม่มีเงินสด และติดภาระหนี้ ขณะที่คนต่างจังหวัด ไม่กู้เต็ม แถมยังมีบางส่วนซื้อ"เงินสด"ต่างหากคิดเป็นสัดส่วนประมาณ15%  เมื่อเทียบกับคนกรุงเทพฯซื้อสดจะมีสัดส่วนประมาณ10% 

"จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ บริษัทตัดสินใจซื้อที่ดินเพื่อเตรียมพัฒนาโครงการบ้านในหัวเมืองหลักทางภาคอีสานอย่าง จ.ขอนแก่น และจ.นครราชสีมา เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง  โดยเฉพาะระดับราคาบ้านเกินว่า 10 ล้านบาทสัดส่วนการซื้อ"เงินสด" สูงกว่าราคาที่ต่ำกว่า "

สะท้อนให้เห็นว่า คนต่างจังหวัด โดยเฉพาะระดับเศรษฐีมีเงินเก็บค่อนข้างมาก เพราะไม่ค่อยได้ใช้เงิน ส่งผลให้หันขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น แต่ไม่ได้ทิ้งตลาดในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เนื่องจากยังคงเป็นตลาดที่มีส่วนดีมานด์สูง

นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่ขยายตลาดหัวเมืองในภาคใต้อย่าง จ.ภูเก็ต จ.สงขลา จ.สุราษฎร์ธานี  หากจะพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี คงเป็นในพื้นที่ภูเก็ต ส่วนใหญ่เน้นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยมากกว่าจะเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไร  ซึ่งมีทั้งกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวหรือทำงานในภูเก็ต ปัจจุบันตลาดต่างจังหวัดมีสัดส่วนรายได้ 12%  คาดว่าในปีหน้าเพิ่มขึ้น 13%
 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...