‘แอสเซทไวส์’เปิดเพิ่ม3โครงการหลังกวาดยอดขาย9เดือนพุ่ง1.1หมื่นล้าน

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2566 บริษัทฯ มียอดขายสะสมรวม (Presale) ประมาณ 11,784 ล้านบาท คิดเป็น 79% ของเป้ายอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 15,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน

สำหรับโครงการหลักที่ผลักดันยอดขายให้มีการเติบโตอย่างน่าพึงพอใจในไตรมาส 3/2566 คือ โครงการ"โมดิซ อาวองการ์ด" ซึ่งเป็น Campus Condo โครงการใหม่ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ จำนวน 751 ยูนิต มูลค่า1,800 ล้านบาท ที่สามารถปิดการขายได้ทั้งหมดหลังจากที่เปิดการขายเพียงไม่นาน เป็นการตอกย้ำว่า ASW เป็นผู้นำตลาด Campus Condo  ด้วยจุดเด่นทางด้านทำเล ราคาที่เหมาะสม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตลคนรุ่นใหม่ถึงกว่า 40 รายการ

ทั้งนี้ เชื่อว่าสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2566 นี้ เป็นต้นไปจะมีความคึกคักเป็นอย่างมาก จากแนวโน้มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดนโยบายเรื่องฟรีวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน ได้ส่งสัญญาณต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจโรงแรมที่ดี รวมถึงตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก รวมทั้งตลาดบ้านพักตากอากาศ ซึ่งภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับภาวะเศรษฐกิจ

โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่าหากรัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตตามเป้าหมายได้เกิน 3% ถ้าเศรษฐกิจเติบโตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตตามไปด้วย โดยน่าจะเห็นแนวโน้มที่ดีอย่างชัดเจนตั้งแต่ปลายปี 2566 จนถึงต้นปี 2567
 

 นายกรมเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดี อุปสงค์ที่มีการฟื้นตัว และเล็งเห็นศักยภาพในหลายๆ ทำเล บริษัทฯ จึงได้ปรับแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มจากเดิม 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท เป็น 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,460 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 4/2566 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่า 11,550 ล้านบาทได้แก่ 1.เคฟ วันเดอร์แลนด์  1,424 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,550 ล้านบาท 2.แอทโมซ แคนวาส ระยอง 674 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท 3.โมดิซ โวยาด ศรีนครินทร์  813 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท 4.เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา  637 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,750 ล้านบาทและ 5.เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี ในยาง 103 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท  โดยจะทยอยเปิดโครงการอย่างต่อเนื่อง
 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...