‘สศช.’ เปิดความเสี่ยงเศรษฐกิจไทย ภูมิรัฐศาสตร์ – ภัยพิบัติ –สังคมแบ่งขั้ว

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ “สภาพัฒน์” กล่าวในระหว่างงานประชุมประจำปี 2566 หัวข้อ "Transitioning Thailand : Coping with the Future” เมื่อเร็วๆนี้ว่าความไม่ปกติในเศรษฐกิจโลกที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่  3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ในเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งในเรื่องของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่สูงในหลายประเทศยังคงส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยมาอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2565 จนถึงต้นปี 2566 เราพูดกันถึงความไม่ปกติของเศรษฐกิจโลกซึ่งมีปัญหาในเรื่องเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งในขณะนี้แม้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯจะลดลง เราพูดกันถึงเรื่องเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ แต่วันนี้เป็นลักษณะของซอฟต์แลนด์ดิ้ง แต่ภูมิภาคอื่นๆยังมีปัญหาเช่น ในยุโรปยังมีเงินเฟ้อที่สูงมาก ขณะที่ในประเทศจีนเองมีปัญหาเศรษฐกิจซึ่งเราก็ยังไม่รู้ก็คือปัญหาเศรษฐกิจจีนนั้นจะลึกและกว้างขนาดไหน

 

นอกจากนั้นสิ่งที่เป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจไทยยังต้องมองในมติของภัยพิบัติธรรมชาติที่มีความถี่มากขึ้นเกิดบ่อยขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ซึ่งจะกระทบเรื่องของความหลากหลายทางชีวภาพ และกระทบกับในเรื่องของภาคเกษตรของประเทศไทยอย่างมาก

 “จากภาวะความผันผวนของภูมิอากาศที่เกิดขึ้นทำให้ภาวะเอลนีโญกำลังจะเกิดขึ้น ทำให้อินเดีย ไม่ขายสินค้าเกษตรออกนอกประเทศ ขณะที่ไทยยังไปได้อยู่ในเรื่องของการขายสินค้าเกษตรแต่เราก็ต้องดูเรื่องของความมั่นคงทางอาหารในประเทศของเราเป็นสำคัญด้วย”นายดชุชา กล่าว

ขณะที่ปัญหาเรื่องของความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ก็ยังคงมีอยู่ ไม่ใช่แค่ในเรื่องของทหารและความมั่นคง แต่เราเห็นเรื่องของการแบ่งกลุ่มทางเศรษฐกิจออกเป็นขั้วที่มีความชัดเจนมากขึ้น มีความท้าทายมากขึ้น ถึงขนาดมีการพูดกันเรื่องการเปลี่ยนแปลงเงินสกุลหลักของโลก ซึ่งเรื่องเหล่านี้คาดการณ์ได้ยากประเทศไทยต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ไทยต้องพิจารณาและดูทิศทางว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยบ้างในอนาคต  

 

เฟคนิวส์ทำสังคมแบ่งขั้ว

เลขาธิการ “สภาพัฒน์” กล่าวด้วยว่าอีกปัญหาของไทยที่เป็นปัญหาสังคมแต่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยได้เช่นกัน ได้แก่ “เรื่องของสังคมแบ่งขั้ว” ที่มาจากความก้าวหน้าของโซเชียลมีเดีย ที่เกิดจากเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นเฟคนิวส์ที่ทำให้เกิดความคิดเห็นแตกแยกในสังคม

ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะสร้างปัญหาเชิงสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีกลไกในการตรวจสอบว่าข่าวใดเป็นข่าวจริง เป็นเฟคนิวส์ และให้ความรู้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงคนทั่วไปว่าอะไรคือข้อเท็จจริง และสอนให้คนในสังคมสามารถรู้เท่าทันข่าวที่เป็นเฟคนิวส์ สังคมจะสับสนและขัดแย้งมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้จะต้องแก้ไขเพื่อให้สังคมอยู่กันแบบปกติสุข มีสันติมากขึ้น

 

ความเสี่ยงโลกประจำปี 2566 ตามรายงาน World Economic Forum 

เลขาธิการสภาพัฒน์กล่าวต่อด้วยว่าสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ได้เผยแพร่ รายงานความเสี่ยงโลกประจำปี 2566 (Global Risks Report 2023) โดยสำรวจความเห็นผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชนที่มีต่อความเสี่ยงโลกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้นและระยะยาว ประกอบด้วย 5 มิติ ได้แก่

  • มิติเศรษฐกิจ
  • มิติสังคม
  • มิติสิ่งแวดล้อม
  • มิติภูมิรัฐศาสตร์
  • และ มิติเทคโนโลยี

โดยความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดภายในไม่เกิน 2 ปี คือ วิกฤตค่าครองชีพสูง/เงินเฟ้อ ภัยพิบัติทางธรรมชาติและสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว การเผชิญหน้าทางภูมิรัฐศาสตร์ และการแตกความสามัคคีในสังคมและการแบ่งขั้วในสังคม 

ความเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นช่วง 10 ปีข้างหน้า

ส่วนความเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นในระยะยาวภายในช่วง 10 ปีข้างหน้า ส่วนใหญ่เป็นวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งเกิดจากการไม่สามารถจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ ประกอบกับ

  • แรงหนุนจากแนวโน้มทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ จะนำไปสู่ความเสี่ยงจากการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการล่มสลายของระบบนิเวศ(Biodiversity loss and ecosystem collapse)
  • อาชญากรรมและความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ (Widespread cybercrime and cyber insecurity)
  • การย้ายถิ่นฐานขนาดใหญ่โดยไม่สมัครใจ (Large-scale involuntary migration) ซึ่งจะกลายเป็นภัยคุกคามใหม่ต่อเสถียรภาพของโลกในอนาคต 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิดสถานีรถไฟปากีสถาน ดับ 20 บาดเจ็บ 53 ราย

เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 8.20 น.ตามเวลาท้องถิ่นที่ชานชาลาหมายเลข 1 ของสถานีรถไฟในเมืองหลวงข...

‘ทูตจีน’ ลั่น ไม่มีผู้ชนะสงครามการค้า ผวา ‘ทรัมป์’ เพิ่มไฟขัดแย้งสหรัฐ-จีน

เซี้ย เฟิง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างจีนและสหรัฐ ควรเป็นแรงผลักดันให้เกิ...

สรุปจบตาแจ้ง! ทุกคดีทรัมป์ เอาไงต่อ?

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก สรุปทุกคดีของทรัมป์ ไว้ดังนี้ คดีใช้เงินปิดปากฟ้องโดยรัฐนิวยอร์ก ในเดือน พ.ค. ทร...

"อัยด้า" โพสต์ทันที หลัง "รถถัง" อัด "สมิธ" ลบรอยด่างตกตาชั่ง

ภรรยาของรถถัง โพสต์ถึงสามีสุดที่รัก หลังลบฝันร้ายตกตาชั่ง เอาชนะ "จาค็อบ สมิธ" ทำให้เข็มขัดแชมป์โลก ...