สองล้อเดินหน้าส่งเสริมนักปั่นรุ่นอาวุโส “พลอยปภัส” คว้า 6 แชมป์

สองล้อเดินหน้าพัฒนาอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมนักปั่นรุ่นอาวุโสอย่างต่อเนื่อง “พลอยปภัส” สุดยอด คว้าไป 6 แชมป์ เอเชี่ยนเกมส์หวังเหรียญจาก “โกเมธ”

“สองล้อ” เดินหน้าพัฒนานักกีฬาจักรยานไทยอย่างเป็นระบบ และพัฒนานักปั่นรุ่นอาวุโสอย่างต่อเนื่อง โดยบรรจุเข้าแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยครบทุกประเภท “ถนน-ลู่-เสือภูเขา-บีเอ็มเอ็กซ์” รวมทั้งส่งแข่งในระดับนานาชาติ ซึ่งสมาคมฯ เตรียมส่ง “ธรรมรัตน์ ถวิล” และ “กฤษณะ แก้วจันทร์” ดีกรีเหรียญทองรุ่นมาสเตอร์จักรยานถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ จ.ระยอง ไปแข่งขันศึกนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ เคมาลา บันยูวังกิ 2023” ที่อินโดนีเซีย วันที่ 7-8 ต.ค.66 นอกจากนี้ “เสธ.หมึก” ยังพัฒนานักปั่นไทยก้าวไปสู่ทีมอาชีพ ในปีหน้าจะมีทีมอาชีพชาย CORE Nutrition Cycling เพิ่มอีก 1 ทีม ส่วนเป้าหมายเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ จีน ยังหวังติด 1 ใน 3 จาก “โกเมธ สุขประเสริฐ” ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ขณะที่ศึกสองล้อลู่ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” สนามที่ 5 “พลอยปภัส ศรีใสไพ” จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย คว้าเพิ่มอีก 2 แชมป์ รวมคว้าไปแล้ว 6 แชมป์

เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าเปิดมิติส่งเสริมนักกีฬาจักรยานไทยอย่างเป็นระบบและทุกระดับอายุอย่างต่อเนื่อง ตามวิสัยทัศน์ “มุ่งมั่นพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ และต่อยอดไปสู่กีฬาอาชีพ เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย” แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจซบเซาส่งผลกระทบต่อปัจจัยเรื่องงบประมาณสนับสนุนของสมาคมฯ ทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชนนับตั้งแต่วิกฤติการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 เป็นต้นมา

พลเอกเดชา กล่าวว่า การพัฒนานักกีฬาจักรยานไทย ไม่เพียงจะมุ่งพัฒนานักกีฬารุ่นเยาวชนหรือประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่สมาคมฯ มีแผนในการพัฒนานักกีฬาระดับอาวุโสมาอย่างต่อเนื่อง โดยบรรจุการแข่งขันในรุ่นอาวุโสเข้าในโปรแกรมการแข่งขันของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ในทุกประเภท ทั้งประเภทถนน, ประเภทลู่, ประเภทเสือภูเขา และประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ รวมทั้งได้บรรจุการแข่งขันรุ่นอาวุโส หรือรุ่นมาสเตอร์ ในการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 7-13 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยนักปั่นอาวุโสไทยสร้างผลงานคว้าแชมป์เอเชียมาครอง 2 รุ่น ได้แก่ นายธรรมรัตน์ ถวิล รุ่นอายุ 40-44 ปีชาย และ นายกฤษณะ แก้วจันทร์ รุ่นอายุ 35-39 ปีชาย

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า จากผลงานนักปั่นอาวุโสไทยดังกล่าว ล่าสุด สหพันธ์จักรยานอินโดนีเซีย จะจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนนานาชาติ รายการ “ทัวร์ ออฟ เคมาลา บันยูวังกิ 2023” ที่เมืองบันยูวังกิ ระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคมนี้ โดยได้ส่งหนังสือเชิญนักปั่นอาวุโสของไทยเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งทางสมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ได้พิจารณาคัดเลือก นายกฤษณะ แก้วจันทร์ และนายธรรมรัตน์ ถวิล สองนักกีฬาอาวุโสมากฝีมือดีกรีแชมป์เอเชียล่าสุดเข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากนี้ก็ยังจะส่ง “อุลตร้า” นายติณพัฒน์ เมืองเดช แชมป์เอเชียรุ่นเยาวชนเข้าประชันฝีมือในรุ่นเยาวชน โดยมี “โค้ชนพ” ร.ต.อ.อดิศักดิ์ วรรณศรี เป็นผู้ควบคุมทีม สำหรับกฤษณะ จะลงแข่งขันในรุ่นมาสเตอร์เอ ระยะทาง 128 กม. ในวันที่ 7 ตุลาคม และ นายติณพัฒน์ จะลงแข่งรุ่นเยาวชนชายระยะทางและวันเดียวกัน ขณะที่ นายธรรมรัตน์ จะลงแข่งขันมาสเตอร์บี ระยะทาง 55 กม. ในวันที่ 8 ตุลาคม

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ส่วนการพัฒนานักปั่นไทยสู่ระดับอาชีพ พลเอกเดชากล่าวว่า ในรอบปี 2566 ไทยเรามีทีมอาชีพระดับคอนติเนนตัลจดทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) จำนวน 3 ทีมประกอบด้วยไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม, ทีมรู้ใจ ออนไลน์ อินชัวรันส์ และทีมแกรนต์ ธอร์นตัน ไซคลิง ในประเภททีมชาย และไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม ในประเภททีมหญิง ซึ่งแต่ละทีมก็ลงตระเวนแข่งขันเก็บคะแนนสะสมสร้างชื่อให้นักกีฬาไทยทั่วเอเชียตลอดฤดูกาล 2023

“สำหรับในฤดูกาล 2024 หรือปี 2567 ไทยเราจะมีทีมอาชีพคอนติเนนตัลชายเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งทีม คือทีมคอร์ นิวตริชั่น ไซคลิง CORE Nutrition Cycling ที่จะเน้นรวบรวมนักปั่นสัญชาติไทยระดับดาวรุ่งที่เพิ่งขึ้นชั้นจากระดับเยาวชนและนักปั่นในระดับอายุไม่เกิน 23 ปี เข้ามาในสังกัด โดยเฉพาะนักกีฬาดาวรุ่งเด่น ๆ จากสโมสรที่เป็นเสมือนอคาเดมี่ของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ไม่ว่าจะเป็นฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46, ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย ลพบุรี, ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ สุราษฎร์ธานี, ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์เชียงใหม่ และทีมไพรม์ 19 ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการต่อยอดในการพัฒนายกระดับนักกีฬาไทยจากระดับเยาวชน สู่ระดับความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพโดยสมบูรณ์” พลเอกเดชา กล่าว

นอกจากนี้ พลเอกเดชา ยังกล่าวอีกว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้เตรียมทีมนักกีฬาประเภทต่าง ๆ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ซึ่งจะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ในช่วงนี้จึงถือว่าอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเตรียมทีมแล้ว โดยนักกีฬาประเภทถนนเก็บตัวอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ นักกีฬาประเภทเสือภูเขาเก็บตัวอยู่ที่จังหวัดระยอง ซึ่งวันที่ 20 กันยายนนี้ก็จะเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมเดินทางไปยังประเทศจีนในวันที่ 23 กันยายน ส่วนประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เก็บตัวที่ศูนย์กีฬากมล เขตหนองจอก และประเภทลู่เก็บตัวอยู่ที่เวลโลโดรม หัวหมาก

พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า สำหรับเป้าหมายในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ หวังเอาไว้ว่าในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่งชาย น่าจะติด 1 ใน 3 จาก “เอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ซึ่งตอนไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โกเมธได้เหรียญทอง พร้อมกับโควตาไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่วนประเภทเสือภูเขา มีโอกาส 50-50 ถือว่าค่อนข้างลำบากพอสมควร เช่นเดียวกับประเภทลู่ก็โอกาสค่อนข้างยาก ขณะที่ประเภทถนน นักกีฬาชายหวังจาก “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง รายการไทม์ไทรอัล นักกีฬาหญิงก็หวังจาก “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ รายการโรดเรซ แต่ทั้งนี้คู่แข่งหลาย ๆ ชาติก็มีความแข็งแกร่ง เช่น คาซัคสถาน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และเจ้าภาพประเทศจีน ซึ่งจะได้เปรียบในเรื่องความคุ้นชินกับสนาม แต่ก็หวังเอาไว้ว่าน่าจะติดอันดับ 1 ใน 3 ของการแข่งขันประเภทใดประเภทหนึ่ง แต่ถ้าโชคดีอาจจะได้ถึงเหรียญทอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส

ด้านการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” ประจำปี 2566 สนามที่ 5 สนามสุดท้าย ระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน ที่สนามเวลโลโดรม ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก เมื่อวันที่ 16 กันยายน เป็นการแข่งขันวันที่ 2 มีชิงชัย 20 เหรียญทอง โดยมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association มียอดผู้ชมรวมทั้งภาคเช้าและภาคบ่ายกว่า 13,000 วิว โดยมีชาวต่างชาติร่วมรับชมด้วยได้แก่ จีน, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และเวียดนาม

ส่วนผลการแข่งขันรุ่นที่น่าสนใจ มีดังนี้ ไทม์ไทรอัล 500 เมตร รุ่นประชาชนหญิง ที่ 1 พลอปภัส ศรีใสไพ ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย ลพบุรี เวลา 42.923 วินาที พร้อมกันนี้ น.ส.พลอยปภัส ยังได้แชมป์รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิงอีกด้วย ส่งผลให้พลอยปภัสคว้าไปแล้ว 6 แชมป์จาก 3 รายการ ในรุ่นประชาชนหญิงและอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง, ที่ 2 น.ส.ชนากาญ บัวสรวง ทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ เวลา 43.534 วินาที, ที่ 3 นางจันทรัสม์ ปรานต์ลภัสเมธา ทีมโยคะจันทรา เวลา 43.543 วินาที

ไทม์ไทรอัล 1 กม. รุ่นประชาชนชาย ที่ 1 ส.ต.ต.ยืนยง เพชรรัตน์ ทีมกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน-วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เวลา 1.07.112 นาที, ที่ 2 จ.อ.ธนาวุฒิ สนิกวาที ทีมกองทัพอากาศ เวลา 1.07.650 นาที, ที่ 3 นายมัญเชฏฐ์ ฝ่ายหมื่นไวย์ ทีมกองทัพบก เวลา 1.08.581 นาที

ไทม์ไทรอัล 1 กม. รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ที่ 1 ส.ต.ต.ยืนยง เพชรรัตน์ ทีมกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน-วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เวลา 1.07.112 นาที, ที่ 2 นายมัญเชฏฐ์ ฝ่ายหมื่นไวย์ ทีมกองทัพบก เวลา 1.08.581 นาที, ที่ 3 อส.ทพ.วันชนะ ธรรมปัญญา ทีมราชนาวี Core Nutrition Cycling เวลา 1.09.049 นาที

ไทม์ไทรอัล 1 กม. รุ่นเยาวชนชาย ที่ 1 นายนรเศรษฐ์ธาดา บุญมา ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เวลา 1.06.061 นาที, ที่ 2 นายเพชรพนม พันธ์เมือง ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เวลา 1.09.088 นาที, ที่ 3 นายภานุพงษ์ สิงห์คำ ทีมโรงเรียนกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เวลา 1.11.478 นาที

ไทม์ไทรอัล 500 เมตร รุ่นเยาวชนหญิง ที่ 1 น.ส.อภิสรา ศรีมงคล ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เวลา 37.714 วินาที, น.ส.อมลณัฐ ธรรมกิจวัฒน์ ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เวลา 39.793 วินาที, ที่ 2 น.ส.ฐิติชญา ขาวดี ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เวลา 40.156 วินาที

ไทม์ไทรอัล 500 เมตร รุ่นยุวชนชาย ที่ 1 นายกณวรรธน์ เชื้อทหาร ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เวลา 35.119 วินาที, ที่ 2 นายกิติรัตน์ ฤกษ์ปรีดี ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เวลา 35.194 วินาที, ที่ 3 นายจีรทีปต์ เกิดสมจิตต์ ทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ เวลา 35.394 วินาที

ไทม์ไทรอัล 500 เมตร รุ่นยุวชนหญิง ที่ 1 ด.ญ.พลอยอันดา สร่างไธสง ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เวลา 41.049 วินาที, ที่ 2 น.ส.สุพรรณิการ์ จันทร ทีม PUMBIKE Liqui moly - Hop Inn เวลา 41.140, ที่ 3 น.ส.กวินนาฏ เครือทอง ทีมสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพัทลุง&รร.สาธิตมหาวิทยาลัยทักษิณ เวลา 43.167 วินาที

ออมเนียม รุ่นประชาชนชาย ที่ 1 นายเสฏฐวุฒิ ยอดสุวรรณ ทีม Keep Pushing Cycling ได้ 168 คะแนน, ที่ 2 นายพลวัต สกุลธนาภูมิ ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก ได้ 157 คะแนน, ที่ 3 นายสุฮัยมีน สายอ ทีมกองทัพบก ได้ 157 คะแนน

ออมเนียม รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ 1 นายพลวัต สกุลธนาภูมิ ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก ได้ 157 คะแนน, ที่ 2 นายณัฐวัตร มังกรวงษ์ ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย กกท. จ.ชัยนาท ได้ 130 คะแนน, ที่ 3 อส.ทพ.ภูวดล โคตพรม ทีมราชนาวี Hero Bike & Core Nutrition ได้ 128 คะแนน

พอยต์เรส รุ่นเยาวชนชาย นายเพชรพนม พันธ์เมือง ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ได้ 55 คะแนน, ที่ 2 นายพงศ์พล อมรปิยะกฤษฐ์ ทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ ได้ 29 คะแนน, ที่ 3 นายพีรวิชญ์ สุโพเคน ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ได้ 29 คะแนน

สแครตช์ 15 รอบ รุ่นเยาวชนหญิง ที่ 1 น.สงภิสรา ศรีมงคล ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร, ที่ 2 น.ส.ณัฐชา สงเคน ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร, ที่ 3 น.ส.เพชรลดา มั่นคง ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก ขณะที่ผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไวต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th

ส่วนโปรแกรมการแข่งขันวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน เริ่มเวลา 07.00 น. มีชิง 31 เหรียญทองจาก รายการเปอร์ซูต 2 กม. รุ่นยุวชนชาย-หญิง, รุ่นเยาวชนหญิง / รายการเปอร์ซูต 3 กม. รุ่นเยาวชนชาย, รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง, รุ่นประชาชนหญิง, รุ่นอายุ 35-44 ปีชาย, รุ่นอายุ 45 ปีขึ้นไปชาย / รายการเปอร์ซูต 4 กม. กม. รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย, รุ่นประชาชนชาย / รายการสปรินท์ รุ่นยุวชนชาย-หญิง, รุ่นเยาวชนชาย-หญิง, รุ่นประชาชนชาย-หญิง / รายการทีมสปรินท์ รุ่นเยาวชนชาย, รุ่นประชาชนชาย-หญิง / รายการสแครตช์ 15 รอบ รุ่นอายุ 35-44 ปีชาย / รายการสแครตช์ 20 รอบ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย, รุ่นประชาชนชาย / รายการทีมเปอร์ซูต 4 กม. รุ่นเยาวชนชาย, รุ่นประชาชนชาย / รายการคีริน รุ่นเยาวชนชาย-หญิง, รุ่นประชาชนหญิง / รายการพอยต์เรซ 24 กม. รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย, รุ่นประชาชนชาย / รายการพอยต์เรซ 20 กม. รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิงและ รุ่นประชาชนหญิง.