“นายกฯ อิ๊งค์” ขีดเส้นไม่เกิน 2 สัปดาห์ ตั้งคณะกรรมการเจทีซีเดินหน้าถกกัมพูชาเคลียร์ปมพื้นที่ทับซ้อนในทะเล ยันทุกรัฐบาลมีมาแล้ว เพื่อสางปมปัญหาระหว่างประเทศ “ภูมิธรรม” ชี้ถ้ายกเลิกเอ็มโอยู 44 หัวใจสำคัญเท่ากับไทยไม่รักษาสิทธิเขตแดน ไล่ พปชร.ไปถาม “ลุงป้อม” ทำไมถึงต้องเจรจา “อนุทิน” จ่อลงพื้นที่เกาะกูดให้กำลังใจชาวบ้าน “เอกนัฏ” เผย รมว.พลังงานเร่งศึกษาข้อมูลพื้นที่ทับซ้อนเข้มข้น ยันเดินเครื่องเจทีซีตามมติ ครม.ปี 2557 “ณัฐพงษ์” จี้รัฐเปิดแผนจัดการสัมปทานปิโตรเลียม ลดความหวาดระแวงต่อรัฐบาล “แพทองธาร” พร้อมร่วมมือตรวจสอบเวชระเบียนชั้น 14 รพ.ตำรวจ “ทวี” การันตีทุกอย่างยึดกฎหมาย “ทักษิณ” ไม่เคยออกจากห้องรักษาตัวสักนาที
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค หรือเจทีซี (JTC) เพื่อเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในทะเลกับกัมพูชา เป็นเรื่องที่ทุกรัฐบาลมีมาก่อนแล้ว เพียงแต่เมื่อมาถึงรัฐบาลนี้ยังตั้งไม่เสร็จ โดยคาดว่าไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ
นายกฯถก ครม.โปรโมตหมูเด้งคึกคัก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนประชุม ครม.ประธานคณะกรรมการกองทุนดอกแก้วกัลยา สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ดอกแก้วกัลยา” นายกฯร่วมบริจาคด้วย จากนั้นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ (ทส.) นำนายเจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการกิจการสัมพันธ์องค์การสวนสัตว์ นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว นายอรรถพล หนุนดี หรือพี่เบนซ์ พี่เลี้ยงหมูเด้ง ผู้บริหารกระทรวง ทส. และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ เข้าพบนายกฯ ประชาสัมพันธ์ “หมูเด้ง” Soft Power จากธรรมชาติของสวนสัตว์ไทย โดยนายกฯถ่ายรูปร่วมกับพี่เบนซ์และมาสคอตหมูเด้ง พร้อมอุ้มตุ๊กตาปูนปั้นหมูเด้ง แจกเข็มกลัดหมูเด้งให้ผู้สื่อข่าว นายเจษฎ์เชิญนายกฯ พา ครม.ไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว นายกฯตอบว่า เดี๋ยวรอให้คนซาแล้วจะพาลูกไป ก่อนจะหันไปหยอกล้อ กับทีมงานว่า จัด ครม.สัญจรอีกรอบ เป็น ครม.หมูเด้ง นายณรงวิทย์ตอบรับว่า ถ้า ครม.จะไปเขาเขียวเราพร้อม
...
ไม่เกิน 2 สัปดาห์ตั้งเจทีซีถกกัมพูชา
ต่อมาเวลา 11.45 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคหรือ JTC เพื่อเจรจากับกัมพูชาเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนในทะเลว่า ยังไม่มีเรื่องนี้เสนอที่ประชุม ครม.เรื่องนี้ไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์คงเข้า ครม. เอ็มโอยู 44 ที่พูดไปเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อเจรจา เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ทุกรัฐบาลมีมาแล้ว รัฐบาลนี้ยังตั้งไม่เสร็จ เมื่อตั้งเสร็จแล้วเวลามีคำถามหรือหากต้องสื่อสารต่อประชาชนแต่ละประเทศ คณะกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้กรองข้อมูลการสื่อสารก่อน เราต้องตั้งแน่นอน ไม่ได้จะลุยหรืออะไร แต่ต้องตั้งไว้เพื่อให้เกิดการเจรจากัน ส่วนหัวหน้าคณะกรรมการ JTC จะเป็นใครเอาไว้ขอบอกทีเดียว เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เดี๋ยวดูอีกที
เร่งรื้อ รธน.ผลลัพธ์ไม่ได้แถมจะถูกฟ้อง
เมื่อถามถึงการที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ขอเข้าหารือประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ได้รับฟังอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรตั้งคณะมาคุยกันหรือคุยกันเป็นทางการเป็นกิจจะลักษณะ แต่ยังไม่มีหนังสือขอเข้าพบ เพิ่งได้ยินจากทางสื่อเป็นครั้งแรก ถ้าติดต่อมาพบกันได้ ไม่ติดอยู่แล้ว เมื่อถามว่านายพริษฐ์กังวลว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะไม่เสร็จทันสมัยนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราต้องทำในส่วนที่เราทำได้และถูกต้อง ถ้าระยะยาวไปจะมีปัญหาภายหลัง การมาอยู่ตรงนี้ทำให้ทราบถึงปัญหาต่างๆ ถ้าเรารีบในขั้นตอนเกินไป นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์แล้ว ระหว่างทางจะถูกฟ้องกันด้วย ต้องช่วยกันดู เมื่อถามว่าแนวทางรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐบาลสมัยนี้ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราต้องรับฟังความคิดเห็นให้ครบ แล้วต้องคุยกันว่าไทม์ไลน์เป็นอย่างไรบ้าง และพรรค พท.เคยหาเสียงไว้ต้องมาพูดคุยกัน และเก็บหมวด 1 หมวด 2 ไว้ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคร่วมมือกัน เมื่อถามว่ามองว่าอะไรเป็นอุปสรรคมากที่สุดในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถามเช่นนี้มันจะเปิดการโต้แย้งไปนิดหนึ่ง แต่เราทราบอยู่แล้วว่าเราต้องพยายาม ให้เอื้อต่อประชาธิปไตย และพี่น้องประชาชนมากที่สุด ขอตอบกว้างๆแบบนี้
ขอขยายเวลายื่นทรัพย์สินไป 30 วัน
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า ได้ยื่นหนังสือขอขยายเวลาการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกไป 30 วัน เพราะยังเตรียมไม่ทัน งานทุกอย่าง เข้ามารุมเร้ามาก จึงขอขยายเวลาเพื่อให้ละเอียดครบถ้วนขึ้น หุ้นที่เคยถือ 16 บริษัท ครอบครัวและพี่สาวมาช่วยดูร่วมกับทีมกฎหมาย เมื่อถามว่าหุ้นในบริษัท บริษัทอัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด และบริษัท ประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่โอนให้พี่สาวกับแม่ ข้อเท็จจริงเป็นการโอนหรือขายหุ้น นายกฯกล่าวว่า ขอให้รายละเอียดภายหลัง ส่วนที่นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีและน้องธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาวมารับที่ทำเนียบฯ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ลูกสาวบอกว่าคุณแม่ย้ายที่ทำงาน อยากมาที่ทำงานของคุณแม่ จึงให้มารับลูกสนุกสนานไปดูปืนใหญ่และบอกว่าอยากให้ “น้องธาษิณ” พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ มาวิ่งด้วย อยากให้มาเห็นว่าเวลาแม่ไม่ได้อยู่กับเขาแล้วแม่อยู่ที่ไหน ตอนนี้กำลังปรับจูนในครอบครัว เพราะงานนายกฯ ไม่ใช่แค่เช้าแล้วเย็นเลิก พยายามบริหารเวลากันอยู่ สามีช่วยได้เยอะ
“อ้วน” ชี้เลิกเอ็มโอยูไม่รักษาสิทธิเขตแดน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทยกัมพูชา (JTC) หารือกรอบเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลหรือเอ็มโอยู 44 ของ 2 ประเทศว่า เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมการ จะมีตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กรมสนธิสัญญา กฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อถามว่ากรณีที่นายกฯ ระบุว่าหากยกเลิกเอ็มโอยู 44 ไทยอาจเสียประโยชน์มากกว่า นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องกลับไปดูสนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส เกาะกูดเป็นของไทยมาตั้งแต่ต้น กัมพูชา ยอมรับในสนธิสัญญานี้ ไม่ได้เคลมเรื่องนี้ ดังนั้นไม่เกี่ยวกับเอ็มโอยู 44 เกาะกูดเป็นของไทย 100% นายกฯประกาศแล้วว่าไม่ยอมเสียดินแดนตรงนี้ไป รักษาไว้เท่าชีวิต ส่วนเอ็มโอยู 44 เป็นข้อตกลงที่ให้ไปเจรจาแบ่งดินแดนในทะเลเป็นของใคร ไทยกับกัมพูชาจึงต้องเจรจากัน หากไทยยกเลิกตรงนี้เท่ากับว่าไทยไม่รักษาสิทธิในเขตแดน
ไล่ พปชร.ไปถาม “ลุงป้อม” นำทีมเจรจา
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เสนอให้ยกเลิกเอ็มโอยู 44 ไม่จริง ยุคนั้นได้แค่รับหลักการไปดูรายละเอียด ในที่สุดทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องยืนยันเอ็มโอยู 44 เป็นกลไกที่ดีที่สุดในการเจรจา ต่อมาในปี 2557 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินการต่อ มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคงขณะนั้น ไปเจรจาเอ็มโอยู 44 ดังนั้น พรรคการเมืองหรือส่วนใดที่ออกมาพูด ควรกลับไปดูประวัติศาสตร์ เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐออกมาโจมตีเรื่องนี้ นายภูมิธรรมตอบว่า พรรค พปชร.ต้องกลับไปดูว่าหัวหน้าพรรคไปเจรจาเอ็มโอยู 44 ทั้งหมดเหมือนกัน ถ้าถามแบบนี้พรรค พปชร.ต้องกลับไปถามหัวหน้าพรรคตัวเองว่าตอนนั้นทำไมถึงไปเจรจา เมื่อถามว่าเกิดจากสายสัมพันธ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับผู้นำกัมพูชา ทำให้ประเด็นดังกล่าวถูกหยิบยกมาโจมตีในรัฐบาล นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่เกี่ยว ประเด็นดังกล่าว เป็นเรื่องของรัฐบาล
“อนุทิน” เตรียมลงพื้นที่เกาะกูด
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ตรวจราชการเกาะกูด จ.ตราด เพื่อไปดูและไปให้กำลังใจชาวบ้าน ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมฯ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงเอ็มโอยู 44 ว่า อย่าเอาประเด็นการเมืองมาสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เพราะเป็นคนละประเด็นกัน การทำงานระหว่างไทยและกัมพูชา เป็นการพูดคุย และหารือให้ได้ข้อตกลงร่วมโดยเร็วที่สุด ไม่ได้มีความขัดแย้ง ที่สำคัญไม่ได้เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของเกาะกูด รัฐบาลดำเนินการเต็มที่ และจะไม่ให้เสียผลประโยชน์ของประเทศไทย
รทสช.เร่งศึกษาพื้นที่ทับซ้อน
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรมและเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการหารือพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ว่า ได้พูดคุยถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและการแก้ไข รัฐธรรมนูญ ได้รับคำยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะไม่แตะมาตรา 112 เป็นจุดยืนหลักของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เราจะไม่สังฆกรรมไม่สนับสนุน พร้อมขัดขวางทุกวิถีทางเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องไม่นับรวมมาตรา 112 ส่วนการแบ่งผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ต้องไม่นำพื้นที่อธิปไตยไปเจรจาต่อรองทุกรูปแบบ ได้รับคำยืนยันในที่ประชุมพรรคร่วมฯ ว่าไม่ว่าผลเจรจาจะออกมาแบบไหน จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศ เรื่องเกาะกูดได้รับคำยืนยันว่าเป็นของประเทศไทยแน่นอน การเดินหน้าคณะกรรมการด้านเทคนิคฝ่ายไทยเดินหน้าต่อจากมติ ครม.ปี 2557 รัฐบาลทุกยุคจะตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นเพื่อไปเจรจากับกัมพูชา โดยหัวหน้าพรรคให้ความสำคัญเรื่องเขตแดน จะไปศึกษากฎหมายเพิ่มเติมทั้งเอ็มโอยู 44 และกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศให้ได้มากที่สุด ต้องไปดูว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
“ณัฐพงษ์” จี้รัฐเปิดสัมปทานปิโตรเลียม
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน.โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีเกาะกูดตอนหนึ่ง ว่า ขอตั้งคำถามรัฐบาลถึงแผนการจัดการสัมปทานปิโตรเลียม พื้นที่ OCA ดังนี้ 1.หากไทยกับกัมพูชาเจรจากันสำเร็จ เปิดแหล่งปิโตรเลียมได้ สัมปทานเหนือพื้นที่ ที่ไทยเคยให้แก่บริษัทต่างๆตั้งแต่ปี 2515 แต่ถูกแช่แข็งไว้จะจัดการอย่างไร จะเปิดประมูลใหม่หรือไม่ 2.หากเปิดประมูลใหม่ จะจัดการอย่างไรให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ไม่ละเมิดกติการะหว่างประเทศ ไม่ใช่การเปิดช่องให้กลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่งเข้ามาแสวงหาความมั่งคั่งจากทรัพยากรอันเป็นของคนไทยทั้งประเทศ พรรค ปชน.ต้องการให้ทรัพยากรอันเป็นสมบัติของประชาชนชาวไทยถูกจัดสรรอย่างโปร่งใส เป็นธรรม ปัญหาใหญ่ประชาชนไทยรู้สึกระแวงแคลงใจต่อเป้าประสงค์ที่แท้จริงของรัฐบาลในการเร่งเจรจา หากรัฐบาลเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสัมปทาน หรือมีการแถลงแนวทางที่ชัดเจนในการบริหารทรัพยากร ปิโตรเลียมในพื้นที่ OCA จะช่วยคลายความกังวลและข้อครหาต่างๆที่มีต่อรัฐบาลลงได้มาก และทำให้การเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน การพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม เดินหน้าไปได้โดยราบรื่น
คปท.ประชิดทำเนียบฯจับตาปมร้อน
ด้านภาคประชาชนได้มีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมรถเครื่องขยายเสียงเดินทางมาเคลื่อนไหวเพื่อแสดงจุดยืน และข้อกังวลในเอ็มโอยู 44 โดยแสดงท่าทีชุมนุมยืดเยื้อ หาก ครม.มีมติตั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธานคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา (JTC) โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท.กล่าวถึงแนวทางการชุมนุมทางการเมืองว่า ยังคงเดินหน้าตรวจสอบนโยบายรัฐบาล รวมถึงเอ็มโอยู 44 ที่รัฐบาลอาจพุ่งเป้าเจรจาผลประโยชน์พลังงานก่อนแบ่งเขตแดน
“อิ๊งค์” ยินดีให้สอบเวชระเบียนชั้น 14
อีกเรื่อง เมื่อเวลา 11.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี คณะกรรมการ ป.ป.ช.เรียกขอเวชระเบียนจาก รพ. ตำรวจถึงการรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้ว่า เรื่องนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการ ยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว และยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับ ผบ.ตร. แต่เห็นว่าชี้แจงแล้ว ความจริงอยากให้เป็นไป ตามกระบวนการ เพราะต้องมีคณะกรรมการในเรื่องนี้ อยู่แล้ว ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงอะไร กระบวนการว่า อย่างไรในฐานะนายกฯต้องว่าไปตามนั้น จะได้ไม่ กระทบต่อรัฐบาล เมื่อถามว่าไปเดินสายต่างประเทศ หากสื่อต่างประเทศถามเรื่องนี้จะชี้แจงอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ยินดีตอบแน่นอน คิดว่าไม่ส่งผลกระทบอะไร ไม่เกี่ยว การเดินสายไปเวทีโลกต้องการเอาสินค้าของไทยไปขาย หารายได้เข้าประเทศมากขึ้น เพราะการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนอย่างเดียวไม่พอ
“ทวี” ยัน “ทักษิณ” ไม่เคยออกจากห้องขัง
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอเวชระเบียนจาก รพ.ตำรวจถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้รับว่า เรายินดีและยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมาย สังคมอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากในเรือนจำมี 3 ความเข้าใจคือ 1.เรือนจำเลย 2.ในโรงพยาบาล 3.ที่คุมขังอื่น อยู่ในกฎหมาย ถูกแก้ ในสมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อต้องการลดความแออัด แต่ไม่ว่าอยู่ที่ใดจะปฏิบัติเหมือนกับอยู่ในเรือนจำ เชื่อว่าเรือนจำจะส่งหลักฐานกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปให้ ไม่มีสักนาทีที่นายทักษิณออกจากห้องรักษาตัว เช่นเดียวกับนักโทษทั่วไปที่ออกไปรักษาตัวที่ รพ.อื่นๆ ยืนยันยินดีให้ข้อมูล แม้แต่กรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทำหนังสือมาและผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยเรื่องเดียวกันผู้เสียหายคนเดียวกัน แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินบอกว่าไม่มีความผิด แต่ กสม.มองว่าละเมิดสิทธิทางกฎหมาย พร้อมให้ความร่วมมือ และพร้อมชี้แจง
ยืนกรานทำทุกอย่างตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่าง 2 หน่วยงาน จะทำให้ได้เปรียบในการชี้แจงหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบละเอียด แต่ กสม.ไม่ได้สอบ ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบเพียงพยาน และตามรายงานได้เข้าไปพบนายทักษิณด้วย เมื่อถาม ว่าการอนุญาตให้เข้าเยี่ยม ถือว่าอยู่ในอำนาจของ กรมราชทัณฑ์หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า การเยี่ยม อยู่ในระเบียบการเยี่ยมชี้แจงไปแล้ว แต่ขอหลักฐานได้ การพูดของคนเปลี่ยนแปลงได้ แต่เรื่องหลักฐานสำคัญ ยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ จะไม่ทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย เมื่อถามว่าได้รับรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เข้าเยี่ยม นายทักษิณจริงหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ไม่ได้รับรายงาน เป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์
ครม.ตั้ง “บิ๊กรอย” ที่ปรึกษา “บิ๊กอ้วน”
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนัก นายกฯเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง 3 ราย ดังนี้ 1.พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เป็นที่ปรึกษารองนายกฯ ของนายภูมิธรรม เวชยชัย 2.นายคารม พลพรกลาง เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ และ 3.น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ สำหรับ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ มีทั้งหมด 3 คน อีก 1 ตำแหน่ง รอความชัดเจนสัดส่วนพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนี้ยังเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี 13 ราย ดังนี้ นางลาลีวรรณ กาญจนจารี นายนิยม เติมศรีสุข พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม นายนิยม เวชกามา นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา นายเอกพร รักความสุข นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ และนายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา
นายกฯเดินสายทัวร์จีน–อเมริกา–เปรู
นายจิรายุแถลงอีกว่า วันที่ 6 พ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะเดินทางไปยังนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ครั้งที่ 10 เกี่ยวข้อง 5 ประเทศ ได้แก่ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน ระหว่างวันที่ 6-7 พ.ย. สาระสำคัญจะหารือถึงอาชญากรรมข้ามแดน การบริหาร จัดการน้ำ การท่องเที่ยว พลังงาน การเกษตร และคมนาคม จากนั้น วันที่ 10 พ.ย. นายกฯ จะเดินทางไปยังนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เพื่อพบปะหารือทีมไทยแลนด์ เอกอัครราชทูต และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง จากนั้น นายกฯพบปะพี่น้องประชาชนคนไทย และวันที่ 13 พ.ย. นายกฯเดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐเปรู เพื่อเข้าร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่กรุงลิมา เดินทางกลับไทยวันที่ 18 พ.ย.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่