สดช.เผยคาดการณ์ ‘ดิจิทัล จีดีพี’ ไทย ขยับได้ถึง 2.1 ล้านล้านบาท

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สดช. กล่าวแถลงผลการจัดทำ มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศด้านดิจิทัล (ดิจิทัล จีดีพี) ประเทศไทย ประจำปี 2565 โดยภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัล ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.49% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีมูลค่ารวม 4.438 ล้านล้านบาท โดยการขยายตัวดังกล่าว มีผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ระบบเศรษฐกิจเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ และส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีการเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ สดช. ดำเนินโครงการวัดระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจจากการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอันเป็นผลจากเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Digital Contribution to GDP เพื่อกำหนดกรอบแนวทางการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมีวิธีดำเนินการตามรูปแบบวิธีการวัดมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในราคาประจำปี (จีดีพี) ของประเทศ ทางด้านการผลิต รายได้ และรายจ่าย

โดยผลการดำเนินดังกล่าวช่วยให้ สดช. มีข้อมูลเบื้องต้นในการมองเห็นภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ทำให้มีเครื่องมือในการศึกษาวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ และผลกระทบจากการปรับตัวเข้าสู่เทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศ และใช้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป

“จากภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2565 พบว่ามีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจดิจิทัล 2.117 ล้านล้านบาท เทียบกับปี 2564 ที่มีมูลค่า 2.045 ล้านล้านบาท โดยมีอัตราขยายตัวที่แท้จริง ในปี 2564 และ 2565 ขยายตัว 11.83% และ 1.90% ตามลำดับ หากเปรียบเทียบสัดส่วนระหว่างมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลกับมูลค่าจีดีพีพบว่า มีสัดส่วน 12.66% และ 12.19% ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ"

ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาครัฐจะต้องมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลให้มากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 30% ในปี 2570 ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13” นายภุชพงค์กล่าว

สำหรับการเปิดเผยภาพรวมตัวเลขดิจิทัล จีดีพีในครั้งล่าสุดนี้ เป็นส่วนหนึ่งงานสัมมนา เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานการวัดมูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจดิจิทัล สำหรับประเทศไทย และร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ต่อผลการวัดมูลค่าของกิจกรรมทางเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อนำไปสู่การจัดทำบัญชีประชาชาติเศรษฐกิจดิจิทัลและการใช้ประโยชน์ของประเทศไทยต่อไป

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ