"มาดามเดียร์" เชื่อ “กระแส” ชนะ “กระสุน” แนะหาจุดร่วม ยุติความขัดแย้งขั้วการเมือง

"มาดามเดียร์" น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเวทีเสวนาทิศทางการเมืองไทยและรัฐบาลชุดใหม่ ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ร่วมกับ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล และนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

น.ส.วทันยา กล่าวว่า หลังจากที่ได้อ่านคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี และรับฟังการอภิปรายในรัฐสภา 2 วัน พบว่าหลายนโยบายที่เคยหาเสียงไว้กับประชาชนไม่ถูกบรรจุไว้ในคำแถลงนโยบาย หรือหลายประเด็นเป็นการกล่าวถึงแบบกว้างๆ เช่น ความเท่าเทียม และการพัฒนาประชาธิปไตย

ยกเว้นนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่มีรายละเอียดชัดเจนมากกว่านโยบายอื่นๆ ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น

ทั้งที่ประเด็นทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม สามารถแก้ไขไปพร้อมๆ กันได้ แต่กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นอื่นๆ เท่าที่ควร เช่น สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน การศึกษา แรงงาน การกระจายอำนาจ การกระจายความมั่งคั่ง และที่สำคัญคือการร่างรัฐธรรมนูญที่เคยให้สัญญาไว้กับประชาชนในวันที่พรรคเพื่อไทยฉีก MOU กับพรรคก้าวไกล


 

น.ส.วทันยา ชี้ว่า ในภาวะที่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เคยร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลจึงเป็นเหมือนเป้าหมายหนึ่งที่จะเรียกศรัทธาและความนิยมกลับคืนมา แม้นักเศรษฐศาสตร์หลายท่านจะเตือนว่านโยบายนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินการคลังของประเทศในระยะยาวก็ตาม 
 
แม้ว่าผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาจะแสดงให้เห็นแล้วว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง แต่การร่วมรัฐบาลกันของพรรคเพื่อไทยและขั้วอำนาจเดิม ทำให้หลายคนเริ่มหมดหวังที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง น.ส.วทันยา กล่าวว่า คนไทยไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าการเมืองไทยไม่ได้เป็นอิสระ แต่มันเกี่ยวข้องกับขั้วอำนาจและการสนับสนุนของกองทัพ และประชาชนก็รับรู้ว่า ‘ดีลลับ’ มีอยู่จริง และมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์นักการเมืองมากกว่าผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้รัฐบาลมีความมั่นคงแข็งแรงและน่าจะอยู่ครบเทอม

อย่างไรก็ตาม น.ส.วทันยา ระบุว่า ประเทศไทยต้องการการปฏิรูป แต่ต้องมาจากรัฐบาลที่รับฟังความต้องการที่แท้จริงของประชาชนและได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง ‘กระแส’ ของการขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศกับ ‘กระสุน’ ของฝ่ายที่ยังใช้ระบบอุปถัมภ์ แม้ว่าฝ่ายหลังนี้จะถดถอยลงไปเรื่อยๆ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความจนและความไม่เท่าเทียมย่อมสร้างสิ่งแวดล้อมให้ระบบนี้ยังคงอยู่ในการเมืองไทย 

ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ย้ำว่า การสร้างพันธมิตรทางการเมืองยังเป็นสิ่งสำคัญต่อความมั่นคงของรัฐบาล เพราะเราจะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่ก้าวหน้าได้ หากสร้างศัตรูกับขั้วอำนาจเก่า ทั้งนี้ การร่วมรัฐบาลก็ควรจะมาจากเจตจำนงของประชาชน ไม่ใช่มาจากการตัดสินใจของนักการเมืองไม่กี่คนหรือตระกูลที่มีอิทธิพลทางการเมือง แต่นโยบายที่ก้าวหน้า

“เราต้องสู้เพื่อความก้าวหน้าของประเทศ แต่เราก็ต้องเชื่อมความเห็นต่างและหาจุดร่วมให้ได้ หวังว่าวันหนึ่งเสียงของประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงจะนำพาประเทศสู้ประชาธิปไตยเต็มใบ ซึ่งความท้าทายนี้เป็นความท้าทายของพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะสถาบันทางการเมืองเช่นกัน” น.ส.วทันยา กล่าว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิดสถานีรถไฟปากีสถาน ดับ 20 บาดเจ็บ 53 ราย

เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 8.20 น.ตามเวลาท้องถิ่นที่ชานชาลาหมายเลข 1 ของสถานีรถไฟในเมืองหลวงข...

‘ทูตจีน’ ลั่น ไม่มีผู้ชนะสงครามการค้า ผวา ‘ทรัมป์’ เพิ่มไฟขัดแย้งสหรัฐ-จีน

เซี้ย เฟิง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างจีนและสหรัฐ ควรเป็นแรงผลักดันให้เกิ...

สรุปจบตาแจ้ง! ทุกคดีทรัมป์ เอาไงต่อ?

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก สรุปทุกคดีของทรัมป์ ไว้ดังนี้ คดีใช้เงินปิดปากฟ้องโดยรัฐนิวยอร์ก ในเดือน พ.ค. ทร...

"อัยด้า" โพสต์ทันที หลัง "รถถัง" อัด "สมิธ" ลบรอยด่างตกตาชั่ง

ภรรยาของรถถัง โพสต์ถึงสามีสุดที่รัก หลังลบฝันร้ายตกตาชั่ง เอาชนะ "จาค็อบ สมิธ" ทำให้เข็มขัดแชมป์โลก ...