มติที่ประชุมวุฒิสภา เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ในวาระ 3 พร้อมหนุนใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น จากนี้ต้องตั้ง กมธ.ร่วม 2 สภา หาข้อยุติ
เมื่อเวลา 14.30 น. การประชุมวุฒิสภา เข้าสู่การลงมติร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ในฐานะประธานกรรมาธิการ แถลงรายงานต่อที่ประชุม และเปิดโอกาสให้ กมธ.เสียงข้างน้อย รวมถึงสมาชิกร่วมกันอภิปราย
ทั้งนี้ รายงานของ กมธ. พบการแก้ไขเนื้อหาเพียงมาตราเดียว คือ มาตรา 7 แก้ไขมาตรา 13 ในเรื่องการออกเสียงประชามติ ซึ่งจากเดิมคือให้ใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง โดยคะแนนเสียงข้างมากต้องสูงกว่าคะแนนงดออกเสียงในเรื่องที่จัดการออกเสียงประชามตินั้นๆ โดยทางกรรมาธิการมาแก้ไขเป็นว่า การจัดการออกเสียงประชามติที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ จะต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียง เป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น หรือเสียงข้างมาก 2 ชั้น
สำหรับมาตรา 7 นั้น ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตาม กมธ.เสียงข้างมาก แก้ไข ด้วยคะแนน เห็นด้วย 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 21 เสียง และงดออกเสียง 9 เสียง คือใช้การลงมติแบบ 2 ชั้น ซึ่งเป็นการแก้ไขร่างของสภาผู้แทนราษฎร
...
พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เรียกตรวจสอบองค์ประชุม จากนั้นเข้าสู่การลงมติ โดยที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติทั้งฉบับ หรือวาระ 3 ด้วยคะแนนเห็นด้วย 167 เสียง (ลงคะแนนด้วยวาจา 4 เสียง) ไม่เห็นด้วย 19 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง และไม่ลงคะแนน 2 เสียง สรุปแล้วที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... อีกทั้งยังเห็นด้วยกับข้อสังเกตของ กมธ. เพื่อจะส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อมติวุฒิสภามีการแก้ไข จะต้องส่งร่างกฎหมายดังกล่าวกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและตั้งคณะกรรมาธิการร่วมสองสภา เพื่อหาข้อยุติต่อไป.