‘พิชัย’ รับ 5 โจทย์ใหญ่วิชั่น ‘ทักษิณ’ รับไม้ต่อนั่งขุนคลังยุค ‘แพทองธาร’  

การจัดโผ ครม.แพทองธาร 1 ตำแหน่งที่ค่อนข้างที่จะลงตัว และดูจะไม่เปลี่ยนแปลงแล้วในขณะนี้คือ ทีมตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งในที่สุดชื่อของพิชัย ชุณหวชิร จะนั่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลภายใต้การนำของแพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ต่อไปอีกสมัย

เดิมก่อนหน้านี้ชื่อของพิชัยนั้นหลุดโผ ครม.ออกไปในตอนแรกท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะมีการล้างชื่อ ครม.ที่มาจากสายของอดีตนายกฯ เศรษฐา แล้วดันจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จากรมช.คลัง ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทน

อย่างไรก็ตามหลังจากมีการหารือกันในระหว่างคีย์แมนในพรรค และกุนซือจากบ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วชื่อของพิชัยยังอยู่ใน ครม.ชุดใหม่ต่อไป แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่าบทบาทของพิชัยในรัฐบาลของแพทองธารจะทำหน้าที่สำคัญเพื่อสานต่อหลายนโยบายเศรษฐกิจที่ทำค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ และช่วยประคองงานทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งหลายนโยบายต้องการคนที่มี “อาวุโส” และ “บารมี” เพียงพอในการทำงานร่วมกับข้าราชการในกระทรวง และหน่วยงานเศรษฐกิจ ขณะที่รมช.ช่วยคลังอีก 2 คนคือจุลพันธ์ และเผ่าภูมิ โรจนสกุล ก็จะมีบทบาทในการขับเคลื่อนงานในกระทรวงต่อไปเช่นเดิม

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่าคุณสมบัติของ “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร วางไว้คือ ต้องรับนโยบาย แนวคิดไปสู่การปฏิบัติได้

หากฟังแนวคิดเรื่อง Vision of Thailand ที่อดีตนายกฯ ทักษิณได้พูดในเวที Dinner Talk : Vision for Thailand 2024  จัดโดยเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 22 ส.ค.67 ที่ผ่านมา มีภารกิจสำคัญที่ “ขุนคลัง” ต้องสานต่อให้แนวคิดเกิดเป็นแนวทางปฏิบัติได้ 5 เรื่องที่กระทรวงการคลัง ต้องนำไปขับเคลื่อนต่อในรัฐบาลของแพทองธาร ได้แก่

1.การปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชน โดยลดหนี้เสียบางส่วนให้กับประชาชนและเอสเอ็มอี โดยอดีตนายกฯ ทักษิณได้ให้การบ้านกับรมว.คลังไปว่าให้ไปลองคิดและหารือกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อลดเงินนำส่ง ที่สถาบันการเงิน นำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝาก รวมอยู่ที่ 0.46-0.47% ให้เก็บเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งนำให้ธนาคารพาณิชย์นำมาช่วยลดหนี้รถยนต์ หนี้บ้าน ซึ่งมีหนี้เสียอยู่ราว 1 ล้านล้านบาท ส่วนนี้จะช่วยลดหนี้เสียในระบบ ช่วยคนไทยที่กำลังจะถูกยึดกลับมาเดินหน้าต่อไปได้ 

2.การเดินหน้าต่อกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งในรัฐบาลเศรษฐา ครม.ได้มีการรับทราบการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ซึ่งได้มีการทำในส่วนแรกคือ กองทุน ก.ไปแล้วและเตรียมขายให้ประชาชนวงเงิน 1-1.5 แสนล้านบาท แต่ในส่วนที่เหลือคือ กองทุน ข.ที่จะมีขนาดใหญ่มากกว่า 1-2 เท่า ซึ่งในส่วนนี้อดีตนายกฯ ทักษิณ บอกว่ากองทุนวายุภักษ์จะทำหน้าที่ในการเข้าไปพยุงดัชนีหุ้นโดยซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นใน SET 50 และ SET 100 มาอยู่ในกองทุนฯ ซึ่งถือเป็นอีกเรื่องที่กระทรวงการคลังต้องเป็นเจ้าภาพทำเรื่องนี้ต่อให้แล้วเสร็จ

 

3.การขับเคลื่อนนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงการคลังได้รับมอบหมายจาก ครม.ให้ทำในเรื่องของร่างกฎหมาย พ.ร.บ.และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ.นั้นกระทรวงการคลังได้มีการรับฟังความคิดเห็นเสร็จแล้วตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งในเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่รัฐบาล และกระทรวงการคลังต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อดึงการลงทุนเข้าประเทศตามวิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ระบุว่าต้องดันการลงทุนไม่น้อยกว่าแห่งละ 1 แสนล้านบาท

ซึ่งเรื่องนี้จะทำควบคู่ไปกับการดึงเอาเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน เช่นเรื่องการพนันออนไลน์ขึ้นมาไว้บนดิน ซึ่งมีเรื่องของภาษีที่กระทรวงการคลังต้องเข้าไปดูโดยหากทำให้ถูกต้องเราเก็บภาษีประมาณ 30% ได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และนำภาษีที่ได้มากำหนดการใช้ (Ear Mark Tax) เอาเงินส่วนนี้ส่งเด็กนักเรียนของเราไปต่างประเทศ หรือจ้างครูเก่งๆ มาสอนนักเรียนในประเทศก็ทำได้

4.การเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก และการปฏิรูปภาษี ซึ่งตอนนี้ผมให้คนศึกษาโมเดลของดูไบ และสิงคโปร์ มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้มีการทำธุรกรรมกับต่างประเทศ เพื่อสร้างเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่เราจะมีข้อได้เปรียบ ให้ธนาคารทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทย และแบงก์ไทยก็ไปตั้งในต่างประเทศได้  นอกจากนี้ยังอยากให้มีการปรับภาษีให้เป็นธรรม และแข่งขันได้ เพื่อให้ประเทศไทยลดภาษีลงเพื่อให้คนมาอยู่มากขึ้นแต่เราจะเสียรายได้บางส่วน แต่ในเรื่องนี้ถ้าเราจะขึ้น VAT หรือไม่ เพราะรายได้ลดลง โดย VATต้องเอามาคืนได้มากขึ้น ซึ่งมาสู่เรื่อง Negative Income Tax คนรายได้น้อยไม่เสียภาษี และคนที่มีรายได้สูงจะเสียภาษีอย่างเป็นธรรม

และ 5.การปฏิรูปการเช่าที่ดินในประเทศไทย ซึ่งโดยแนวคิดของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณระบุว่า โมเดลให้ต่างชาติเช่าที่ดินต้องปรับเพื่อให้เกิดการลงทุน โดยในส่วนของที่ดินเรื่องการขายที่ดินให้กับคนต่างชาติ ซึ่งทั่วโลกมีโมเดลให้ต่างชาติไปซื้อที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งมีรูปแบบ การเช่าที่ดิน 99 ปี เช่น การโอนที่ดินให้กับกรมธนารักษ์ และเช่าที่ดินได้ 99 ปีแบบมั่นคง ส่วนรูปแบบอาจมีการกำหนดมาตรฐานในเรื่อง อื่นๆ และทำโครงการมาช่วยคนมีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงการคลังเช่นกัน

ทั้งหมดคือ 5 โจทย์ใหญ่ที่รัฐมนตรีคลัง ทั้งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยซึ่งเป็นทีมเดิมที่เคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา ทั้งคุณพิชัย คุณจุลพันธ์ และคุณเผ่าภูมิ  จะต้องมีการร่วมมือกันทำงานและขับเคลื่อนแปลง Vision ให้เป็นนโยบาย และทำให้การขับเคลื่อนทั้ง 5 เรื่องที่เป็นโจทย์ใหญ่เหล่านี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยได้จริง

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

อเมริกันดราม่า! กองเชียร์จี้ไบเดนลาออก เปิดทาง ‘ประธานาธิบดีแฮร์ริส’ สู่ทำเนียบขาว

เว็บไซต์ Times Now รายงานว่า แม้แฮร์ริสจะยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้วและขอให้ผู้สนับสนุน “สู้ต่อไป” แต่บร...

อีลอน มัสก์ หนุนทรัมป์แทรกแซง 'เฟด' ชูประเด็น #EndtheFed ให้ปธน.คุมแบงก์ชาติ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลาและสเปซเอ็กซ์ และเป็นเจ้าของแ...

การกลับมาของวัฒนธรรม Gothic ทางเลือกของ Gen Z ท่ามกลางป๊อปคัลเจอร์

วัฒนธรรมกอธิค หรือโกธิคที่มีรากฐานมาจาก Dark Romantic ความเข้มข้นทางอารมณ์ และการแสดงออกถึงตัวตนที่แ...

คาด 'วันคนโสดจีน' 11.11 ปีนี้ ยอดขายดีขึ้น แต่แบรนด์เนมหรูยังฟื้นยาก

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เทศกาลวันคนโสด 11.11 ซึ่งเป็นเทศกาลชอปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีของจีน แล...