‘เต่าบิน’ ยอดขายตก 3 ไตรมาสติด รับพิษเศรษฐกิจ กำลังซื้อชะลอ

“เต่าบิน” เป็นตู้เครื่องดื่มชงสดอัตโนมัติ ที่ทำตลาดเพียงไม่กี่สร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น และไม่เพียงการขยายจำนวนตู้ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในประเทศ ปัจจุบันทยอยโกอินเตอร์นำนวัตกรรมไปปักหมุดในต่างแดนด้วย

บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 และแน่นอนว่าธุรกิจตู้ “เต่าบิน” ที่เคลื่อนโดย บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ยังคงได้รับความสนใจ เพราะไม่เพียงเป็นผู้สร้างเทรนด์ตลาดตู้ชงเครื่องดื่มอันโนมัติ แต่การเติบโตที่ผ่านมาร้อนแรงไม่น้อย รวมถึงมีการตั้งเป้าใหญ่ 3 ปีจะมีตู้ให้บริการแก่ผู้บริโภคแตะ 20,000 จุดด้วย จากปัจจุบันมีตู้จำนวน 6,596 จุด และภายในสิ้นปี 2567 ต้องการขยายตู้ให้ไปถึง 7,500-8,000 จุด

ก่อนนี้การเติบโตร้อนแรง ทว่า ไตรมาส 2 ปี 2567 กลับเห็นอาการ “แผ่วลง” เพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และเมื่อไล่เรียงยอดขายทั้งเชิงปริมาณและเชิงมูลค่า ถือว่าเป็นการ “ลดลงติดต่อกัน 3 ไตรมาส” ด้วย ดังนี้

-มูลค่ายอดขายไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 599 ล้านบาท

-มูลค่ายอดขายไตรมาส 4 ปี 2566 อยู่ที่ 524 ล้านบาท

-มูลค่ายอดขายไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 506 ล้านบาท

-มูลค่ายอดขายไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 493 ล้านบาท

-ยอดขายเชิงปริมาณไตรมาส 3 ปี 2566 จำนวน 20.20 ล้านแก้ว

-ยอดขายเชิงปริมาณไตรมาส 4 ปี 2566 จำนวน 18.02 ล้านแก้ว

-ยอดขายเชิงปริมาณไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 17.09 ล้านแก้ว

-ยอดขายเชิงปริมาณไตรมาส 2 ปี 2567 จำนวน 16.40 ล้านแก้ว

ทั้งนี้ จำนวนตู้เต่าบิน 6,596 จุด มีการเพิ่มขึ้น 3.4% เทียบไตรมาสแรก โดยตู้ยังเป็นการ “อัพเกรดเวอร์ชั่นใหม่” สามารถให้บริการขายเครื่องดื่มต่อตู้มากขึ้นและ "ลดรอบ" ของการเติมวัตถุดิบกว่า 1,000 ตู้(มีผลต่อการประหยัดต้นทุน)

สำหรับเหตุผลของยอดขายที่ลดลง มาจากหลากปัจจัย สำคัญคือเศรษฐกิจชะลอตัว ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น เลยมีผลต่อลูกค้าบางกลุ่มเป้าหมายของเต่าบิน และไตรมาส 2 เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ของสถาบันอุดมการศึกษา พอเดือนพฤษภาคมเข้าหน้าฝน บริษัทเลยเลี่ยงผลกระทบยาก แต่กระนั้นเต่าบินที่อยู่ในทำเลศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงพยาบาลที่มีผู้คนหนาแน่น “ยอดขาย” ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน

กลยุทธ์ปั๊มการเติบโตของ “เต่าบิน” ในปี 2567 จะเพิ่มจำนวนตู้ให้มากขึ้นเป็น 7,500-8,000 จุด และจะเพิ่ม “เมนูใหม่ๆ” เพื่อกระตุ้นความถี่ในการซื้อเครื่องดื่ม นอกจากนี้ การเดินหน้าผลักดัน “ตู้ที่อัพเกรดใหม่” กลับเข้าสู่ตลาด พร้อมสแกนทำเลทองที่ดีมีศักยภาพ ติดตั้งตู้ต่อเนื่อง ที่ขาดไม่ได้คือ นำข้อมูลหรือ Big Data มาวิเคราะห์การทำตลาดและเจาะกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำ ต่อยอดเอื้อประโยชน์การเคลื่อนธุรกิจ ทั้งรังสรรค์เมนูใหม่ จัดโปรโมชัน ออกแคมเปญการตลาด ดึงลูกค้าใหม่ ขยายฐานสมาชิกให้เพิ่มขึ้น

สำหรับไฮไลต์ของแคมเปญการตลาดที่เรียกว่า “รับน้องทุนใหญ่” คือ ลูกค้าสมาชิกที่ซื้อเครื่องดื่มตั้งแต่ 15 บาทขึ้นไป จะได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลชิ้นใหญ่ หนึ่งในนั้นคือรถอีวียี่ห้อดัง นี่เป็นหมัดแย็บหลังมี “คู่แข่ง” ลงสนามตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติกำลังเข้ามาแบ่งเค้กขุมทรัพย์มั่งคั่ง

อีกสูตร จะเห็นการ “ซีนเนอร์ยี” กับ “กิ้งก่า”(GINKA) สถานีให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่จะ “ปรับโมเดลใหม่” 2 แบบ ดังนี้ 1.ในพื้นที่ขนาดใหญาและปั๊ม ภายในสถานีชาร์จจะมีร้านคาเฟ่เป็นรูปเคาน์เตอร์อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง(ชม.) มีที่นั่งรอ มีอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายแบบให้บริการตัวเอง เช่น มีเคาน์เตอร์เครื่องดื่มสดอัตโนมัติ “เต่าบิน” เสิร์ฟหลากเมนู และ “เคาน์เตอร์อัตโนมัติจำหน่ายอาหารพร้อมทาน”(Ready to Eat : RTE) เสิร์ฟด้วย เช่น ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นทอด แลพไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ฯ และ 2.ร้านเล็กๆในรูปแบบคาเฟ่เต่าบินที่บริการลูกค้า 24 ชม. มีเครื่องชาร์จกิ้งก่า ตอบโจทย์ระหว่างพักรถขณะเดินทาง ซึ่ง “สาขาแรก” เห็นปีนี้

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ