เปิด 10 อันดับ ‘กองทุนหุ้นสุขภาพทั่วโลก’ ผลตอบแทนสูงสุด

Key Points:

  • มอร์นิ่งสตาร์ มองแนวโน้มลงทุน 4 ธีม หุ้นกลุ่มสุขภาพที่มี ศักยภาพเติบโต 
  • กองทุน KWI HCARE-A ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 3.03%ย้อนหลัง3ปี 9.96%  
  • บลจ.กสิกรไทย แนะลงุทนหุ้นสุขภาพ ตามความเสี่ยงที่รับได้และDCA 

 

“กลุ่มหุ้นสุขภาพทั่วโลก” ยังน่าลงทุนหรือไม่ หลังจากผ่านพ้นช่วงโควิดมาแล้ว   ทั้งนี้ แนวโน้มลงทุนหุ้นกลุ่มสุขภาพที่มี ศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง “ผู้จัดการกองทุน” ยังคงเน้นใน 4 ธีม ได้แก่

 1.ยา 

2.เทคโนโลยีชีวภาพ 

3.เทคโนโลยีทางการแพทย์ 

4.บริการด้านสุขภาพ 

 

ล่าสุด "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)" รายงาน 10อันดับกองทุน Global Health Care ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปี และย้อนหลัง 3 ปี ดังนี้

โดยผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย ให้คำแนะนำว่าภาพรวมการลงทุนในกลุ่มสุขภาพยังน่าสนใจจากความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่สนับสนุนนวัตกรรมด้านสุขภาพ และความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยผู้บริโภคยอมจ่ายหากมีหลักฐานว่านวัตกรรมนั้นๆ เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจริง และกองทุนหลักยังเน้นลงทุนในหุ้นที่มีนวัตกรรมการรักษาใหม่หรือเทคโนโลยีต่างๆ

แต่ยังมีปัจจัยเสียงต้องติดตาม จากธนาคารกลางเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง ช่วยลดแรงกดดันในแง่Valuation ให้กับ Sub-sector บางประเภท เช่น Biotech ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ของกองทุน อีกทั้งปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองของบริษัทสุขภาพในสหรัฐฯค่อนข้างน้อยในระยะกลาง-ยาว หรือจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในสหรัฐฯหลายครั้งการควบคุมราคายาและบริการด้านการแพทย์มักจะถูกนำมาเป็นนโยบายหาเสียง ดังนั้นการไม่ควบคุมราคายาหรือบริการด้านการแพทย์จะจูงใจให้บริษัทคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆมากขึ้น

ขณะเดียวกัน “หุ้นกลุ่มสุขภาพ” เป็นทั้งหุ้น Defensive และ Growth เนื่องจากหุ้นกลุ่มสุขภาพประกอบด้วยอุตสาหกรรมย่อยที่มีลักษณะเป็นหุ้น Defensive และ Growth 

  • หุ้น Defensive ได้แก่ กลุ่มยา (Pharmaceuticals) และกลุ่มผู้ให้บริการด้านสุขภาพ (Healthcare Services) มีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจต่ำ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นและมีรายได้สม่ำเสมอ
  • หุ้น Growth ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech) และกลุ่มเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medtech) มีการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมย่อยอื่นๆ จากการค้นพบนวัตกรรมใหม่ๆ

ทั้งนี้ ความผันผวนของหุ้นสุขภาพต่ำกว่าหุ้นโลกทั้งในช่วง 5 ปีย้อนหลัง(15% เทียบกับ 18%) และ 10 ปีย้อนหลัง (13% เทียบกับ 15%)ที่มาMorningstar ณ 31 มีนาคม 2566

ดังนั้น ควรลงทุนในหุ้นสุขภาพมากน้อยเท่าไร  แน่นอนว่า การลงทุนในหุ้นสุขภาพ จัดเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงเรื่องการกระจุกตัวในอุตสาหกรรม 

ทางบลจ.กสิกรไทย ยังแนะนำว่า ควรกระจายการเงินลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์, ภูมิภาค และอุตสาหกรรม ตามความเสี่ยงที่รับได้ด้วยนักลงทุนควรลงทุนอย่างน้อย 5 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ราคาสามารถสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจได้เต็มที่ จึงจะช่วยลดโอกาสขาดทุนจากการลงทุนได้ ขณะที่ การลงทุนระยะสั้นหรือเก็งกำไรมีโอกาสสูงมากที่จะขาดทุนและที่สำคัญ”ไม่ควรจับจังหวะการลงทุน” (Market Timing)

เนื่องจากการจับจังหวะเข้าลงทุนเองโดยความเชี่ยวชาญที่ต่ำ จะทำให้มีโอกาสขาดทุนได้สูง ควรใช้วิธีเฉลี่ยลงทุน(DCA – Dollar Cost Average) เพื่อลดโอกาสการขาดทุน พร้อมกันนี้นักลงทุนสามารถติดตามผลตอบแทนของดัชนีหุ้นสุขภาพทั่วโลกได้จาก ดูผลตอบแทนดัชนีผ่าน Investing.com

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...