ถอดรหัส 'BCG' ที่ปรึกษาระดับโลก ช่วยงาน 'เศรษฐา' เคลื่อนนโยบายตึกไทยคู่ฟ้า

การบริหารราชการแผ่นดินถือว่าเป็นงานที่ทั้งยาก และท้าทาย ต้องแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในระยะเวลา และทรัพยากรทั้งคนและงบประมาณมีข้อจำกัดมาก แทบทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจึงมีการตั้ง "ที่ปรึกษา" ทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการขึ้นมาช่วยงานคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อให้การทำงานของผู้นำประเทศประสบผลสำเร็จมากขึ้น

ในหลายรัฐบาลที่ผ่านมาบนตึกไทยคู่ฟ้าศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลจึงมีทีมที่ปรึกษาคอยสนับสนุนการทำงานของนายกฯทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย มีทั้งที่ปรึกษาที่เป็นข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง หรือบางครั้งก็เป็นที่ปรึกษาที่มาจากบริษัทเอกชน 

ในรัฐบาลปัจจุบันในการทำงานของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็เช่นกันมีการตั้งที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ โดยนอกจากที่ปรึกษาที่เป็นทางการ ซึ่งประกอบไปด้วย “ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี”  5 คน และ “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” 9 คน นายกฯเศรษฐายังใช้ทีมที่ปรึกษาระดับโลกเข้ามาช่วยงาน ในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ และติดตามการทำงานดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเล่าว่าที่ปรึกษานายกฯบนตึกไทยคู่ฟ้ามีคนจากบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกคือ "บริษัท บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป  (The Boston Consulting Group : BCG)" มาอยู่ในทีมทำงานของนายกฯด้วย

"BCG"  ถือเป็น 1 ใน 3 บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกที่เรียกว่า “BIG3” ซึ่งประกอบไปด้วย McKinsey & Company, BCG (Boston Consulting Group) และ Bain & Company ที่มีสาขาและเครือข่ายการทำงานกว้างขวางทั่วโลก

เป็นที่ทราบกันทั่วไปในวงการธุรกิจว่า บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารระดับสูงของแสนสิริเคยให้สัมภาษณ์ในปี 2561 ว่าในการปรับแนวทางการทำงานขององค์กรไปสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น "BCG" ก้าวเข้ามาช่วยวิเคราะห์ แนะนำเรื่องการปรับตัว ทั้งยังมีการศึกษาถึงแนวคิดการทำงานแบบ “Agile” (เอจาวล์) และ way of working โดยศึกษาค้นคว้าแนวทางการทำงานขององค์กรต่างๆ มีการประยุกต์ใช้แนวคิด และแนวทางในการทำงานของแสนสิริ

ในช่วงที่ “เศรษฐา” เข้าสู่วงการการเมือง BGG เข้ามามามีบทบาทในการดูเรื่องภาพลักษณ์-บทพูด-การสื่อสารต่างๆของเศรษฐาในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเวทีต่างๆ

เมื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้วบทบาทของ BCG ยังมีต่อเนื่องโดยนายกรัฐมนตรีใช้งาน BCG อย่างต่อเนื่องในการเข้ามาช่วยงานด้านนโยบายของรัฐบาล โดยมี “คนรุ่นใหม่” โปรไฟล์ดี 2 คนจาก BCG ที่เข้ามาเป็นทีมทำงานของนายกรัฐมนตรี

คนแรกคือ “ศุภกร คงสมจิตต์”  หรือ “โม” ซึ่งแม้ว่าชื่อของศุภกรจะไม่เป็นที่รู้จักในแวดวงการเมืองมากนัก แต่ปัจจุบันบุคคลนี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการทำงานหลายหน้าให้กับนายกรัฐมนตรี และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น คณะทำงานนายกรัฐมนตรี ด้านการลงทุนระหว่างประเทศ รับหน้าที่เบื้องหลังการเจรจา และติดตามการลงทุนของบริษัทชั้นนำระดับโลก รวมถึงเป็นกรรมการ คณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยเขาจบการศึกษาสูงสุดจาก harvard business School ก่อนเข้ามาทำงานใน BCG และรับบทบาทช่วยงานนายกรัฐมนตรีหลายด้านในปัจจุบัน

ในช่วงสัปดาห์นี้ที่ประเด็นของนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทในกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลเดินทางมาถึงหมุดหมายสำคัญในการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ท่ามกลางคำถามมากมายเกี่ยวกับนโยบายและคำถามถึงการใช้งานแอปฯทางรัฐชื่อของศุภกรเป็นคนออกมาให้ข่าวเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และให้ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแอปทางรัฐอยู่บ่อยครั้ง

 ส่วนอีกคนที่มาจาก BCG แล้วเข้ามาทำงานกับนายกรัฐมนตรีคือ "ฉัตริน จันทร์หอม" หรือ “แจ็ก” ทีมงานส่วนตัวของนายกฯเศรษฐา เขาจบการศึกษาสูงสุดจาก "MIT" สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) และสำเร็จการศึกษาการบินหลักสูตรนักบินพาณิชย์ด้วย 

ปัจจุบันฉัตรินมีชื่อนั่งอยู่ในบอร์ดสำคัญของรัฐบาล เช่น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกรรมาธิการชุดนี้มีจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังเป็นประธาน รวมทั้งเป็นหนึ่งในกรรมการรขับเคลื่อนตามนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) ซึ่งเป็นกรรมการที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาขับเคลื่อนนโยบายดึงการลงทุนในคลาวด์และดาต้าเซนเตอร์จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยได้มากขึ้น 

เป็นอีกความเคลื่อนไหวจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดินของประเทศ ที่วันนี้มีทีมที่ปรึกษาระดับโลกมาช่วยขับเคลื่อนงานนโยบาย ส่วนจะทำได้สำเร็จมากน้อยเพียงใดเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ