‘สมใจนึก’ รับกำลังเร่งปรับแผนธุรกิจ EA ใหม่ พร้อมคืนเงิน ‘หุ้นกู้ - ตั๋วบีอี’

นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการบริษัท และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในบริษัทอย่างเร่งด่วน ซึ่งแผนธุรกิจ และแผนทางการเงินอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งยอมรับว่าสถานการณ์ตอนนี้รอไม่ได้แล้วทุกอย่างต้องทำโดยด่วน 

“ตอนนี้ EA ไม่สามารถรออะไรได้ ไม่มีเวลาแล้ว ทุกอย่างต้องเร่งดำเนินการแก้ไข เราเข้าใจว่าทุกคนกังวล แต่ตอนนี้ผู้บริหารชุดใหม่กำลังทำอย่างเต็มที่” 

แหล่งข่าวใกล้ชิดคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด EA) เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบทางผู้บริหารมีแผนการชำระหนี้ทั้งตั๋วเงินระยะสั้น และหุ้นกู้เอาไว้แล้วจริง ส่วนแนวทางจะถึงขั้นตัดสินใจขายสินทรัพย์ดี หรือสินทรัพย์ที่ย่ำแย่ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นเพราะเสนอขายออกไปตอนนี้ในตลาดมีผู้ที่สนใจจะเข้ามาเจรจาซื้ออยู่แล้ว เนื่องจากธุรกิจกรีน เอนเนอร์ยี เป็นเทรนด์โลกทุกบริษัทต้องเดินในแนวทางนี้กันหมดยิ่งปลายปีจะมีการให้คาร์บอนเครดิตด้วยยิ่งเป็นที่สนใจอยู่แล้ว

สำหรับสินทรัพย์ตอนนี้มีทั้งโรงไฟฟ้าของ EA และตัวบริษัท เน็กซ์ พอยท์ หรือ NEX ซึ่งจะมีบริษัทย่อยจำนวนมาก และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ทั้งนี้การตัดสินใจจะดำเนินการในแนวทางไหนขึ้นอยู่กับบอร์ดบริหารชุดนี้พิจารณา และตัดสินใจได้เลย ส่วนการขอเลื่อนวันชำระหนี้มาเป็น 9 ส.ค.2567 ทั้งหมดในรอบนี้เพื่อเป็นการจัดกลุ่มหนี้ให้สอดคล้องกัน และยังใกล้กับช่วงที่บริษัทเตรียมประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ปี 2567 ที่คาดจะออกมาวันที่ 10 ส.ค.67 นี้อีกด้วย

หากประเมินสถานการณ์ตอนนี้เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าหนี้ให้สามารถเลื่อนวันจ่ายหนี้ได้ก็น่าจะสะท้อนได้ถึงความมั่นใจของเจ้าหนี้ว่าลูกหนี้มีความสามารถ เพราะทาง EA เองก็ไม่ได้ต้องการให้สถานการณ์ลุกลามกลายเป็นผิดนัดชำระหนี้ และมีผลกระทบไปยังหุ้นกู้ชุดอื่นที่จะตามมา 

“ธุรกิจของ EA มีรายได้จริงเข้ามาไม่ได้เหมือนกับเคสอื่นที่ผิดนัดชำระหนี้ อย่าง STARK ที่เกิดจากการปลอมแปลงงบการเงินจึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ที่ทำให้ต้องสะดุด และอยู่เหนือการคาดการณ์คือ การไม่สามารถ roll over หนี้ต่างๆ ได้ จากประเด็นการกล่าวโทษอดีตผู้บริหารที่ถือว่าเป็นการตัดขั้วการเงินของ EA ก็ว่าได้”

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า เมื่อ 23 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ภายหลังบมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) แจ้งขอเลื่อนวันไถ่ถอนตั๋วบี/อี 2 รุ่น มูลค่ารวม 700 ล้านบาท จาก 23 ก.ค.67 และ 1 ส.ค.67 เป็น 9 ส.ค.2567 นั้น ยอมรับส่งผลให้สถานการณ์ของ EA ยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ต้องติดตามต่อว่าบริษัทหาเงินมาชำระหนี้ตั๋วบี/อี ดังกล่าวได้ทันตามกำหนดหรือไม่ ซึ่งเป็นหนี้ระยะสั้น

เดิมก่อนหน้านี้ ไทยบีเอ็มเอประเมินว่า บริษัทยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจปกติ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน น่าจะนำมาจ่ายหนี้ตั๋วบี/อี ดังกล่าวได้ แต่เมื่อบริษัทขอเลื่อนชำระหนี้ออกไป สะท้อนภาพว่ากระแสเงินสดภายในบริษัทที่เป็นสภาพคล่องบางส่วนอาจติดปัญหาหรือไม่ ซึ่งต้องรอให้บริษัทชี้แจง เช่น ถูกนำไปค้ำประกันเงินกู้แบงก์ และอื่นๆ ซึ่งต้องรอทางบริษัทชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวหาก 9 ส.ค.67 นี้ ทางบริษัทจ่ายหนี้ตั๋วบี/อี ได้ตามกำหนด น่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่ารายได้จากการดำเนินธุรกิจส่วนนี้ อาจไม่เพียงพอที่จะจ่ายเงินต้น และดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนส.ค. และก.ย. นี้ วงเงิน 5,500 ล้านบาท ซึ่งน่าเห็นใจว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่าน ทุกอย่างเกิดขึ้นกับบริษัทเร็วมากตั้งแต่ผู้บริหารของบริษัทถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ ตามมาที่บริษัทถูกปรับลดอันดับเครดิตเรตติ้ง จนทำให้ธนาคารไม่สามารถปล่อยกู้วงเงินเพิ่มเติมได้ ล่าสุดเลื่อนชำระหนี้ตั๋วบี/อี กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน และตลาดแรงมาก 

ดังนั้น ขึ้นอยู่กับทีมบอร์ดบริหารชุดใหม่ของ EA เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ทำให้เชื่อว่า ปัจจุบันบริษัทไม่ได้นิ่งเฉย และใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาทางเลือกต่างๆ ที่สามารถนำมาเสริมสภาพคล่อง เพื่อชำระหนี้หุ้นกู้ระยะสั้น และยาว อาทิ ขายทรัพย์สิน อย่าง ที่ดิน ซึ่งคาดว่า EA น่าจะมีทรัพย์สินส่วนนี้อยู่มากพอสมควร แต่ไม่แน่ใจว่าส่วนนี้ถูกนำค้ำประกันเงินกู้แบงก์มากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าทางบอร์ดบริหารชุดใหม่ น่าจะพิจารณาอยู่หรือแนวทางการหาพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มเติม เป็นต้น ต้องให้เวลาบอร์ดบริหาร EA ชุดใหม่ แม้ว่าเวลาจะมีอยู่ไม่มากนักก็ตาม 

“ในช่วง 15 วันข้างหน้า ก่อนครบกำหนดจ่ายหนี้ตั๋วบี/อี 9 ส.ค.67 และหุ้นกู้ครบกำหนด 15 ส.ค.67 ประเมินผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ ไม่น่าจะมีอะไรผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญ แพนิกกองทุนไม่มีแล้ว กองทุนบริหารจัดการได้ดี ปัจจุบันกองทุนยังซื้อสุทธิตราสารหนี้ถึง 3.5 พันล้านบาท”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ