Weekly Market Strategy : บล.เคจีไอฯ ยังมองบวกสถานการณ์การเมืองไทยสัปดาห์นี้

โดยนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนทางการเมืองในสัปดาห์นี้ (15-18 สิงหาคม) จากการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในประเทศการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำ และโอกาสที่จะมีการลงมติเลือกนายกรอบใหม่ นอกจากนี้ ดัชนี US dollar Index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังดีดตัวขึ้นแรง เพราะเจ้าหน้าที่ FOMC มีมุมมองที่แตกต่างกันไปต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐในช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าส่วนใหญ่จะเห็นตรงกันว่าเงินเฟ้อสหรัฐปรับลดลงมาแล้วในช่วงนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าปัจจัยแบบ bottom-up มีบทบาทมากขึ้นในการทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น เนื่องจากมีบริษัทนอกภาคการเงินจำนวนมากส่งงบ 2Q66

 

สำหรับในสัปดาห์นี้ (15-18 สิงหาคม) เรายังมองแนวโน้มดัชนี SET บวกปานกลาง เนื่องจากเรามองว่า น่าจะมีการกำหนดวันลงมติเลือกนายกรอบใหม่ภายในปลายสัปดาห์นี้ ภายใต้สมมติฐานว่าศาลไม่ได้สั่งให้รัฐสภาเลื่อนการลงมติออกไปอีก ทั้งนี้ เนื่องจากจากความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีเศรษฐกิจบางตัวอ่อนแอลงในช่วงนี้ รัฐบาลใหม่จึงน่าจะให้ความสำคัญอันดับต้น ๆ กับการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ สำหรับปัจจัยภายนอก จะมีการเผยแพร่รายงานการประชุม FOMC รอบที่แล้วในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะทำให้มีแนวนโยบายการเงินของสหรัฐมีความชัดเจนมากขึ้น โดยในภาพรวมแล้วเราคาดว่าตลาดน่าจะเตาะแตะไปจนกว่าศาลจะมีคำตัดสินออกมาในวันพุธ และหลังจากนั้นเราคาดว่าตลาดน่าจะขยับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงท้ายสัปดาห์

 

 

ติดตามตัวเลขค้าปลีกสหรัฐ, รายงานการประชุม FOMC, การเมืองไทย และผลประกอบการ 2Q66

ปัจจัยต่างประเทศ: ในสัปดาห์นี้ ความคาดหมายต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐจะเป็นขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศออกมา อย่างเช่น ยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคม (วันนี้) และรายงานการประชุม FOMC ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาผู้บริหารหลักของ Fed ค่อนข้างเสียงแตกโดยมีทั้งออกไปในเชิง hawk/dove ดังนั้น รายงานการประชุมที่จะออกมารอบนี้จึงอาจจะทำให้นักลงทุนเห็นแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้นของการตัดสินนโยบายการเงิน Fed ในการประชุมเดือนกันยายน

ปัจจัยในประเทศ: ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น กระแสข่าวการเมืองน่าจะเป็นปัจจัยหลักในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ การตัดสินของศาลเรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำในวันที่ 16 สิงหาคม และกำหนดการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีรอบใหม่ ภายใต้สมมติฐานว่าศาลไม่ได้สั่งให้รัฐสภาเลื่อนการลงมติออกไปอีก สำหรับในด้านของปัจจัยพื้นฐาน บริษัทจดทะเบียนจะส่งงบ 2Q66 ครบภายในวันพุธ ซึ่งหลังจากนั้นจะเห็นแนวโน้มการปรับประมาณการ EPS ปีนี้ และปีหน้าของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ชัดเจนมากขึ้น

เพิ่มสถานะการถือครองหุ้นเพื่อรอรับความผันผวนในระยะสั้น

ดังที่เราเคยกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่าสถานการณ์การเมืองน่าจะชัดเจนมากขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และประเทศไทยน่าจะสามารถตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในครึ่งหลังของเดือนสิงหาคม ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มสถานะการถือครองหุ้นในธีมต่อไปนี้ ดอกเบี้ยไทยยังขึ้นต่อเนื่อง, หุ้นที่อ่อนไหวกับนโยบายของรัฐบาล, หุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน รวมถึงหุ้นที่ผลประกอบการ 2Q66 แข็งแกร่ง โดยหุ้นเด่นของเราได้แก่ BBL*, GULF*, STEC*, SCGP*,TOP*, SISB และ SNNP* อย่างไรก็ตาม เราถอดหุ้น IVL* ออกจากรายการหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ของเราเนื่องจากสถานการณ์ในสายการผลิต PET ที่อ่อนแอ

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...