ส่องทิศทาง Online Grocery | ต้องหทัย กุวานนท์

การเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้สร้างความตื่นตัวให้กับวงการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะ Pepsi Co ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มได้เข้าลงทุนใน Instacart ด้วยการซื้อหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพเป็นมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์

การลงทุนในธุรกิจ Online Grocery ของ Pepsi Co ถือว่าเป็นน่าสนใจเพราะก่อนหน้านี้ ยักษ์ใหญ่ FMCG อย่างยูนิลีเวอร์ก็เข้าลงทุนในแพลตฟอร์มนี้ผ่านทาง Unilever Venture

นักวิเคราะห์ในวงการธุรกิจคอนซูเมอร์ มองว่า การตัดสินใจเข้าลงทุนใน Instacart ของ แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่มเป็นสัญญาณว่า เป้าหมายของการเข้าสู่ตลาด Online Grocery ที่แท้จริงแล้วอาจเป็นความต้องการที่จะให้ได้มา ซึ่งดาต้าของผู้ใช้งานที่จะทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงทั้งในเรื่องของการโปรโมตแบรนด์สินค้า การกระตุ้นยอดขาย และการใช้พื้นที่บนช่องทางออนไลน์ในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค

ปัจจุบันตลาดการบริการซื้อของกินของใช้บนช่องทางออนไลน์ทั่วโลกมีมูลค่าประมาณกว่าสองแสนล้านดอลลาร์ มีอัตราการเติบโต 25% ต่อปี มีสัดส่วนฐานลูกค้าผู้ใช้งานประมาณ 12% ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากและคาดการณ์ว่าภายในอีก 5 ข้างหน้าการใช้บริการซื้อของกินของใช้ผ่านช่องทางออนไลน์น่าจะมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของการใช้งานทั้งหมด 

ถึงแม้ e-Retailers ที่เป็นธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิมอย่าง Walmart, Tesco, Costco ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่อยู่ แต่การเข้ามาของสตาร์ตอัปที่นำเสนอการให้บริการที่แตกต่าง หลากหลายและใช้เทคโนโลยีที่ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทำให้วันนี้ทั่วโลกมียูนิคอร์นที่อยู่ในธุรกิจ Online Grocery ถึง 14 ราย 

Instacart นับเป็นรายแรกๆ ของตลาดที่เข้ามาบุกเบิกการให้บริการช่วยซื้อของจากร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์และกำลังจะเดินหน้าสู่ไอพีโอ ในฝั่งยุโรป Flink สตาร์ตอัปจากเยอรมนี

ก่อตั้งในปี 2020 ให้บริการส่งของกินของใช้ด้วยคอนเซปต์ส่งถึงหน้าบ้านในเวลาไม่เกิน 10 นาทีใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปีระดมทุนจากรอบ Seed ไปสู่มูลค่าธุรกิจแตะระดับยูนิคอร์นในปี 2021 

ล่าสุดในฝั่งเอเชีย ZEPTO สตาร์ตอัปจากอินเดียให้บริการแพลตฟอร์มสั่งซื้อของสด และของใช้ ที่มีจุดขายอยู่ที่ “ความรวดเร็ว” ระดมทุนได้ในรอบล่าสุด 200 ล้านดอลลาร์ ก้าวขึ้นสู่สถานะยูนิคอร์นของอินเดียในปีนี้โดยใช้เวลาสร้างธุรกิจเพียงแค่สองปี

นอกจากนั้นในสหรัฐที่ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ของ Online Grocery ก็เริ่มมีการแตกเซ็กเมนท์ใหม่ๆ เช่น Weee สตาร์ตอัปยูนิคอร์นอีกรายที่เติบโตได้จากการจับตลาดลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น เอเชียและฮิสปานิก

การให้บริการส่งสินค้าออนไลน์กลายเป็นตัวแปรสำคัญในธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ทำให้ผู้เล่นรายเดิมต้องเร่งพัฒนาศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีและการให้บริการ เพราะทิศทางการแข่งขันกำลังเปลี่ยนโฟกัสจากการเรื่องของแบรนด์และโปรโมชั่นมาเป็นความสะดวก รวดเร็วและการเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Personalization

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...