“ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์” ซัด รัฐบาล จัดสรรงบฯ แบบ Ignore Thailand มองข้ามวิกฤติเด็กเกิดต่ำ งบเด็กแรกเกิด ปฐมวัยลดลง ชงบันได 6 ขั้น แก้ปัญหา พร้อมแนะปัดฝุ่นโครงการ “ถุงรับขวัญ” ยุคทักษิณใหม่ ก่อน “หมออ๋อง” สั่งพักประชุมวันแรก นัดใหม่พรุ่งนี้ 9 โมงตรง
วันที่ 19 มิถุนายน 2567 เมื่อเวลา 22.15 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายเรื่องปัญหาเด็กเกิดต่ำ ที่รัฐบาลชุดนี้มีการจัดสรรงบฯ แบบ Ignore Thailand เพราะวิกฤติเด็กเกิดต่ำ สาเหตุมาจากคนไทยไม่อยากมีลูก เพราะภาระค่าใช้จ่าย และไม่อยากให้ลูกเกิดมาในสภาวะสังคมปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลต่อแรงงานที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต แม้รัฐบาลจะผลักดันให้คนอยากมีลูกแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เพราะทางแก้คือต้องแก้ที่รัฐสวัสดิการ ซึ่งประเทศไทยพบว่า เรื่องสิทธิลาคลอดไม่ตอบโจทย์ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่เพียงพอ เงินอุดหนุนเด็กไม่พอและไม่ถ้วนหน้า ระบบนิเวศการเรียนรู้กระจุกตัว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ และสิทธิเสรีภาพเด็กไทยอยู่ในขั้น “วิกฤติ”
เมื่อดูการจัดสรรงบประมาณในปี 2568 พบว่า มีการปรับลดงบกลุ่มพัฒนาบริการสุขภาพตามช่วงวัยกลุ่มในครรภ์แรกเกิด หรือ ปฐมวัย ของกรมอนามัยลดลง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ส่วนเงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท ก็ไม่ถ้วนหน้าสักที แถมในปีนี้ไม่มีแม้แต่ในคำของบประมาณ จึงขอให้รัฐมนตรีที่ไปรับปาก ขอให้ทำให้จริงๆ ขณะที่งบประมาณอุดหนุนสถานรับเลี้ยงเด็กก็พบว่าน้อยมากๆ และยังน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ไม่สามารถพัฒนาคุณภาพเด็กได้ อีกทั้งเรื่องการพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่งบกระจายไปตามกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ พบว่าเงินอุดหนุนต่อรายหัวก็ยังน้อยมากๆ เช่นเดียวกัน
...
น.ส.ศศินันท์ ยังกล่าวเสนอรัฐบาลให้มีการทำ Baby Gift box ให้เด็กแรกเกิด และอยากให้มีการปัดฝุ่น นโยบาย “ถุงรับขวัญ” ในยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมย้ำว่าหากอยากให้คนในประเทศมีลูกมากขึ้น ต้องเอื้ออำนวยเรื่องรัฐสวัสดิการและสาธารณูปโภคประกอบด้วย จึงขอเสนอบันได 6 ขั้น แก้วิกฤติเด็กเกิดต่ำ ทั้งเรื่องสิทธิลาเลี้ยงลูก 180 วัน ทำ พ.ร.บ.ห้องให้นม และเงินอุดหนุนเด็กต้องถ้วนหน้า มีโรงเรียนพ่อแม่และสุขภาพจิตมารดา มีศูนย์เด็กเล็กใกล้บ้าน มีการปฏิวัติการศึกษา ต้องให้งบเด็กประถมวัยมากขึ้น และสุดท้ายภาพรวมของสวัสดิการ ที่ทำให้คนมีลูกมองว่าไม่ได้เป็นภาระ
จากนั้น นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ที่ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ได้ขอให้สมาชิกมาประชุมตรงเวลาในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. พร้อมทั้งให้เผื่อเวลาเพราะรถติด ก่อนจะสั่งพักประชุมในเวลา 22.30 น.