ภาพถ่ายและความทรงจำ

โดยเฉพาะเรื่องการถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ที่พัฒนาเทคโนโลยีให้ถ่ายได้สวย ง่าย และรวดเร็วกว่าเดิม จนเราใช้กล้องในมือถือถ่ายภาพในทุกจังหวะของชีวิต จนกลายเป็นวัฒนธรรมสำหรับคนรุ่นใหม่ไปแล้ว

อาจเป็นเพราะในอดีตการถ่ายภาพมีต้นทุนที่สูงมาก ด้วยราคาของกล้อง ฟิล์ม และบริการล้างฟิล์ม อัดภาพ ฯลฯ คนในยุคก่อนจึงถ่ายภาพเมื่อมีความจำเป็นหรือโอกาสพิเศษเท่านั้น ในขณะที่ทุกวันนี้ การถ่ายภาพแทบจะไม่มีต้นทุนอะไรนอกจากค่าโทรศัพท์มือถือ

ภาพถ่ายในอดีตจึงเป็นความทรงจำสำคัญในวาระสำคัญต่างๆ ในขณะที่ภาพถ่ายในทุกวันนี้ มักเป็นเป็นวิถีชีวิตของเราหรือประสบการณ์ต่างๆ เพื่อเปิดเผยให้คนรู้จักได้รับรู้ผ่านโซเชียลมีเดีย ภาพที่ถ่ายจึงไม่ใช่แค่ตัวเรากับเหตุการณ์สำคัญๆ แต่เป็นอะไรก็ได้ ทั้งอาคาร อาหาร ห้องน้ำ ฯลฯ

การทานอาหารกับญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง จึงมักถูกขัดจังหวะด้วยการถ่ายภาพอยู่เสมอ ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่ ถ่ายรูปหมู่ ถ่ายกันเองเล่น ๆ และการถ่ายภาพอาหารซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการทานอาหารร่วมกันไปแล้ว

เป้าหมายของการถ่ายภาพ จึงไม่ได้เน้นที่การพิมพ์ออกมาหรือจัดเก็บไว้เพื่อความทรงจำ แต่เน้นที่การโพสในโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ้ค อินสตาแกรม หรือติ๊กตอก ซึ่งไม่ได้มีแค่รูปถ่ายแต่เป็นการเช็คอินสถานที่ต่าง ๆ กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่เกิดจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโดยแท้

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ผมเองกลับสังเกตเห็นเพื่อนวัยเดียวกันที่ไม่สนใจการถ่ายรูปในลักษณะนี้มากนัก แต่เขามักนั่งยิ้มดูเพื่อนฝูงพูดคุยกัน โดยเฉพาะการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ ในจังหวะที่หลาย ๆ คนกำลังถ่ายภาพเขากลับสนใจแต่ตัวอาหารมากเป็นพิเศษ

เมื่อสอบถามว่าไม่ชอบถ่ายรูปหรือ? คำตอบที่ได้นับว่าน่าสนใจพอสมควรเพราะเขาเล่าให้ฟังว่ารูปถ่ายเหล่านี้อาจเป็นความสนุกของคนถ่าย แต่อาจเป็นภาระในอนาคตเมื่อถ่ายมากเกินไปจนหน่วยความจำเต็มต้องเสียเวลามาคัดทิ้งในอนาคต

นอกจากนั้นอาจเป็นภาระให้กับคนอื่นในวันหลังได้โดยไม่รู้ตัว เพราะถึงวันหนึ่งที่เราไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ภาพถ่ายเหล่านี้จะมีความหมายกับใครบ้างไหม เพราะสำหรับตัวเราอาจรู้ว่าภาพนี้คืออะไร อาหารจานนี้ทานกับใคร แต่กับคนอื่นมันคือรูปจานอาหารธรรมดา ๆ

เขายกตัวอย่าง การสูญเสียของญาติสนิทที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันคาดคิด ซึ่งแน่นอนว่าลูกหลานต้องเข้ามาค้นหาความทรงจำของเขาจากภาพถ่ายในมือถือซึ่งมีมากมายเต็มไปหมดซึ่งในมุมมองของลูกหลานแล้ว มันล้วนเป็นภาพที่ไม่มีความหมายอะไรเลย

ในมุมมองของคนภายนอกที่เขาไม่มีความทรงจำร่วม ภาพถ่ายมากมายเหล่านั้นจึงไม่มีความสำคัญใดๆ เพราะเขาไม่รู้ว่าเป็นภาพอะไร และไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไรได้จึงแทบจะไม่มีทางเลือกใด ๆ นอกจากลบทิ้งไปเพราะไม่มีประโยชน์

เพื่อนคนนี้มองว่าการทานอาหารร่วมกันนั้นประสบการณ์คือสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำร่วมกับญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง รวมถึงอาหารที่เสิร์ฟ เพราะระหว่างที่ทุกคนถ่ายรูป เขามักใช้เวลานั้นพูดคุยถึงความพิเศษของอาหารจานนั้น

ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสม เครื่องปรุง หรือความเป็นมาของสูตรพิเศษต่าง ๆ ที่ทำให้อาหารจานนี้มีความพิเศษ ซึ่งล้วนทำให้เพื่อนร่วมโต๊ะมีประสบการณ์ที่ดีเป็นความทรงจำที่เขาจะประทับใจไปอีกนาน ซึ่งสำหรับเขาแล้วนั้น น่าจะเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดมากกว่าภาพถ่ายเสียอีก

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...