'ครม.เศรษฐกิจ' งัด 3 มาตรการ ดันท่องเที่ยว-เบิกจ่าย-ลงทุน ดันจีดีพีปี 67 โต 3%

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.) เศรษฐกิจที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันนี้ (10 มิ.ย.) ว่าในการประชุม ครม.เศรษฐกิจครั้งที่ 2 รัฐบาลได้มีการหารือและติดตามตัวเลขเศรษฐกิจซึ่งในไตรมาสที่ 1/2567 ที่ผ่านมาเห็นได้ว่าเศรษฐกิจโตต่ำกว่าศักยภาพและเติบโตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคซึ่งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องมีทั้งมาตรการระยะสั้นและมาตรการระยะยาวซึ่งในส่วนระยะยาว อีก 3 ปีข้างหน้าก็มีการหารือว่าเศรษฐกิจของไทยต้องขยายตัวประมาณ 5% ต่อปีเราจึงจะสามารถไปรอดได้ แต่ว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ก็ต้องมีการใช้มาตรการระยะสั้นเพื่อที่จะให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ประมาณ 3% จากเดิมที่ตัวเลขของสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปี 2567 จะขยายตัวได้ประมาณ 2.4%

โดยมาตรการที่ออกมาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะสั้นจะมี 3 มาตรการดังนี้

1.มาตรการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยดึงเอานักท่องเที่ยวเข้ามาสู่ประเทศไทยเพิ่มเติมอีก 1 ล้านคน จากเดิมที่ได้มีการตั้งเป้าว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้าสู่ประเทศไทยในปีนี้อยู่ที่ 35.7 ล้านคน ตั้งเป้าเป็น 36.7 ล้านคน  ซึ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มในจำนวนนี้จะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ได้อีกประมาณ 0.12%

2.การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาลที่มีอยู่ประมาณ 8.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณในการลงทุนในปี 2567 และคิดเป็นสัดส่วน 20% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งปัจจุบันงบประมาณในส่วนนี้เบิกจ่ายไปได้แล้วประมาณ 41% และปกติจะเบิกจ่ายได้ประมาณ 60% ของเป้าหมาย แต่ในปีงบประมาณนี้รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าให้มีการเบิกจ่ายงบลงทุนได้ไม่ต่ำกว่า 70% ซึ่งจะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้นได้อีก 0.24%

และ 3.การเร่งรัดการลงทุนของภาคเอกชนผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งมีการขอบีโอไอไปแล้วกว่า 8 แสนล้านบาท หากสามารถจะเร่งรัดให้มีการลงทุนจริงในปีนี้ ประมาณ 3 – 4 หมื่นล้านบาท ก็จะช่วยให้จีดีพีขยายตัวได้อีกประมาณ 0.14 – 0.15%

นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจยังเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมการเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ (เซมิคอนดักเตอร์บอร์ด) เพื่อพัฒนาแรงงานฝีมือของเราให้มีความสามารถและทักษะแรงงานในเรื่องนี้ให้มากขึ้น ซึ่งแม้ว่าเราจะเริ่มเรื่องนี้ช้ากว่าหลายประเทศ แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นที่เราจะร่วมกับเอกชนในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในเรื่องนี้เพราะว่ากำลังมีการขยายการลงทุนและแรงงานกลุ่มนี้เป็นที่ต้องการมาก ซึ่งแนวทางจะมีการส่งแรงงานของไทยไปฝึกแรงงานเรื่องนี้ในไต้หวันซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ด้วย

สำหรับเรื่องของการแก้ปัญหาของหนี้เสียและ NPL มีแนวคิดที่จะปรับให้ลูกหนี้ที่เป็น NPL เนื่องจากผลกระทบจากโควิด ซึ่งเป็นลูกหนี้ รหัส 21 ใช้เกณฑ์ติดเครดิตบูโรใหม่ จาก 5+ 3 เป็น 3+3 ซึ่งจะทำให้ลูกหนี้กลุ่มนี้หลุดจากบัญชีเครดิตบูโรได้ภายใน 1 – 2 ปีนี้

นอกจากนี้ในเรื่องของสภาพคล่องของผู้ประกอบการได้เตรียมจะเสนอมาตรการค้ำประกันสินเชื่อ (PGS)  11 วงเงิน 5 หมื่นล้านบาทเพื่อเสนอ ครม.พรุ่งนี้เพื่อค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ขณะเดียวกันภาครัฐเตรียมจะออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ (ซอฟต์โลน) โดยให้ธนาคารออมสินร่วมกับสถาบันการเงินพาณิชย์ปล่อยซอฟต์โลนวงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็ก โดยมีเงื่อนไขให้เป็นรายใหม่ที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อก่อนหน้านี้ โดยธนาคารออมสินพร้อมที่จะรับไปดำเนินการแม้จะกระทบผลกำไรเฉลี่ยปีละ 1 พันล้านบาท แต่ว่าสามารถช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...