ต่างชาติโยกเงินกลับเข้าจีน ดันตลาดหุ้นพุ่ง 24% นักวิเคราะห์ชี้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าดัชนี MSCI China Index พุ่งขึ้น 24% จากจุดต่ำสุดในเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงยังคงเพิ่มขึ้นราว 2 ล้านล้านดอลลาร์  หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกจำนวนมากมองว่าภาวะวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้ผ่านพ้นไปแล้ว

ความเชื่อมั่นนักลงทุนเริ่มฟื้นกลับ โดย Goldman Sachs Group Inc. กล่าวว่า การปรับตัวลดลงล่าสุด "เป็นจุดเข้าลงทุนที่ดีกว่า" สำหรับนักลงทุนที่มองหาจุดต่ำสุดใหม่ ด้าน ยีน ซาแลร์โน หัวหน้าฝ่ายบริหารการลงทุนของ SG Kleinwort Hambros Ltd “จุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้วและถึงเวลาที่จะลงทุนแล้ว”

 

ขณะเดียวกัน กองทุนหลายแห่งเพิ่มเดิมพันความเสี่ยงในตลาดหุ้นจีน ถึงขั้นเพิ่มโอกาสการลงทุนจนเกินสัดส่วนตลาดเกิดใหม่ไปแล้ว โดยบริษัท SG Kleinwort Hambros Ltd. พร้อมกับบริษัทอื่น ๆ รวมถึง Vontobel Asset Management และ Ariel Investments ต่างเพิ่มการลงทุนในจีน 

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าสังเกต เนื่องจากนักลงทุนกลุ่มนี้เคยได้รับผลกระทบจากการที่หุ้นจีนและฮ่องกงร่วงลงมาจากจุดสูงสุดในปี 2564  ขณะที่ HSBC กล่าวในเดือนพฤษภาคมว่า "ยังเร็วเกินไป" ที่จะทำกำไร

 

อย่างไรก็ดี ยังมีกองทุนที่มองว่าความพยายามของรัฐบาลยังไม่เพียงพอ  โดยกล่าวว่า "การพลาดโอกาสในการเติบโตช่วงแรกของการฟื้นตัวที่ยังไม่ชัดเจนนั้นย่อมดีกว่าการเผชิญกับการเทขายหุ้นในระยะยาว”

หุ้นจีน-ฮ่องกงมีโอกาสพุ่งต่อ

รามิซ เชลัต ผู้จัดการกองทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ มองเห็นสัญญาณบวกในตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง เชื่อว่าราคาหุ้นและผลกำไรจะยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลังเงินทุนจากทั่วโลกกำลังไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นจีนอีกครั้ง กองทุนหลายแห่งที่เคยเทขายหุ้นจีนจนหมด เริ่มกลับมาพิจารณาลงทุนในธุรกิจที่มีคุณภาพในจีนอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน นักลงทุนเทขายสัญญา Short และหันมาซื้อสินทรัพย์อื่นๆ แทนอาจเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อตลาดจีน โดยข้อมูลจาก S3 Partners เผยให้เห็นว่า ยอดคงเหลือของ “สัญญาขายชอร์ต”บนกองทุน ETF Xtrackers Harvest CSI 300 China A-Shares มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์  ซึ่งเป็นการเดิมพันว่าราคาหุ้นจะลดลง นั้น “ลดลง”อย่างมีนัยสำคัญ จากประมาณ 20% ของจำนวนทั้งหมด เหลือเพียง 9.7% เท่านั้น

กงวัลวิกฤติอสังหาฯยังไม่จบ

อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของนักกลยุทธ์จาก JPMorgan Chase & Co. เผยว่ายังมีนักลงทุนบางกลุ่มที่ยังกังวลตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนยังคงซบเซา แม้จะมีสัญญาณการฟื้นตัวแต่ยังมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนยังคงเปราะบางส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อโดยรวม รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐนั้นยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กดดันตลาด ซึ่งยังมีการซื้อสัญญาขายชอร์ตที่เดิมพันว่าราคาหุ้นเหล่านี้จะ “ลดลง”

มาบรูค เชตูอาน นักวิเคราะห์จากกองทุน Natixis Global กล่าวว่าสำหรับนักลงทุนบางราย ตลาดหุ้นจีนยังไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยนักลงทุนค่อนข้างลังเลที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีน และมีความเสี่ยงที่รัฐบาลจีนอาจเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอย่างรุนแรง

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

คำเดียวสั้นๆ "แฟนสาวจาค็อบ" พูดต่อหน้า "รถถัง" หลังชวดแชมป์โลก

เผยคำพูด แฟนสาวของ จาค็อบ สมิธ ที่พูดต่อหน้า รถถัง จิตรเมืองนนท์ หลังฟาดปากกันในศึกมวยไทย รุ่นฟลายเว...

กรมวิชาการเกษตร ระดมแผนเตรียมพร้อม ส่งลำไยเจาะตลาดจีน

นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรเร่งขับเคลื่อนนโยบายผัก ผลไ...

ผลบอล "บาเยิร์น มิวนิก" ไม่พลาด บุกเชือด "ซังต์ เพาลี" รั้งจ่าฝูงบุนเดสลีกา

"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ทำได้ตามเป้า บุกมาเอาชนะ ซังต์ เพาลี เก็บ 3 คะแนนสำคัญ รั้งจ่าฝูง บุนเดสลี...

ส่องขุมทรัพย์ที่ดิน 'รถไฟ' 9.6 หมื่นล้าน จ่อประมูลสร้างรายได้เชิงพาณิชย์

การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นับเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มีทรัพย์สินที่ดินทั่วประเทศจำนวนมาก และยังเป็น...