ตลท. จ่อคุมปั่นหุ้นเริ่ม Dynamic Price Band โค้งท้ายไตรมาส 2 - Auto Halt ไตรมาส 4

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมายและบริหารกิจกรรมเพื่อสังคม หัวหน้ากลุ่มงานกฎหมายและวินัย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ในฐานะโฆษกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่น ในส่วนมาตรการ Auto Halt และ Dynamic Price Band ว่า  ในการประชุมบอร์ด ตลท. ล่าสุด (15 พ.ค.) ได้เห็นชอบแนวทางในรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

 1. เห็นชอบการคำนวณรายละเอียดเพิ่มเติม  Circuit Breaker  รายหุ้น ( Dynamic price band) ป้องกันราคาผันผวนที่ผิดปกติ ของราคาหลักทรัพย์  คาดว่า จะเริ่มดำเนินการช่วงปลายไตรมาส 2 นี้   

2. เพิ่มการ Auto Halt รายหุ้น เพื่อดูแลคำสั่งซื้อที่ไม่เหมาะสม หรือผิดปกติ กรณีมีจำนวนหุ้นรวมในคำสั่งซื้อมากกว่าที่กำหนด เพื่อป้องกันการจับคู่ของคำสั่งซื้อขายที่อาจผิดปกติ คาดว่า เริ่มดำเนินการช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ 

"อย่างไรก็ตาม ประธานบอร์ด ตลท.ท่านใหม่  ให้ความสำคัญกับการยกระดับความเชื่อมั่น โดยกำชับถึงการดำเนินการพิจารณามาตรการต่างๆ ตามกรอบเวลาที่วางไว้ ซึ่งมาตรการต่างๆ  มาจากผลการศึกษาในประเทศพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา  จะพบการเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่ผันผวนและหลายตลาดได้นำมาตรการ Dynamic price band มาใช้แล้ว พบว่า การปั่นหุ้นทำได้ยากมากขึ้น  และเป็นมาตรการเพื่อคุมความผันผวน การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสั้นๆ เท่านั้น  หวังว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดเคส MORE ขึ้น " 

สำหรับการเพิ่ม Circuit Breaker รายหุ้น โดยกำหนดกรอบเครื่องไหวของราคาที่แคบกว่า Celling &Floor เอาไว้เพื่อไม่ให้ราคาผันผวนเร็วเกินไป โดยกำหนด  Dynamic price band รายหุ้นที่ +/- 10% ของราคาซื้อขายล่าสุด

และมีกลไกการทำงาน โดยหุ้นที่ถูกใช้มาตรการดังกล่าว สามารถใช้กับทุกตัวใน SET index และ mai index ที่มีราคา มากกว่าหรือเท่ากับ 1 บาท และไม่ใช้กับหุ้นที่มีเหตุอาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของราคามากกว่าปกติ เช่น หุ้น จดทะเบียนใหม่ (Newly Listed) , ไม่ใช้กับหุ้นที่ตลาดฯ มีการขยาย Celling&Floor ประจำวัน เช่น หุ้นที่มีข่าว Tender Offer, หุ้นที่เปิดให้ซื้อขายชั่วคราว

โดยเงื่อนไขการใช้ Trigger เมื่อมีคำสั่งซื้อหรือขายหุ้นที่จะทำให้จับคู่นอก DPB (Aggressive Order) ระบบการซื้อขายจะหยุดจับคู่หุ้นนั้น, กำหนด DPB ไว้ที่บวกลบ 10% จากราคาซื้อขายล่าสุดสำหรับลักษณะการทำงาน ระบบจะยกเลิกเฉพาะ (Aggressive Order) ที่ทำให้ Trigger, จากนั้นจะเข้า Pre-Open 2 นาที (ผู้ลงทุนสามารถส่ง/แก้ไข/ยกเลิก Order ได้ โดยจะไม่มีการแก้ Match), หยุดซื้อขายเฉพาะหุ้นที่ Trigger DPB เท่านั้น ด้านช่วงเวลาที่ใช้ ทุกช่วงเวลาซื้อขาย ยกเว้น Pre-Open และ Pre-close

และ เพิ่มการ Auto Halt รายหุ้น เพื่อดูแลคำสั่งซื้อที่ไม่เหมาะสม หรือผิดปกติ กรณีมีจำนวนหุ้นรวมในคำสั่งซื้อมากกว่าที่กำหนด   โดยกำหนด เมื่อมีจำนวนคำสั่งซื้อหรือขายรวมมากกว่า 15% ของหุ้นจดทะเบียน  เพื่อกำกับดูแลพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม   สามารถใช้กับทุกตัวใน SET index และ mai index แต่ไม่ใช้กับหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงเป็นปกติ เช่น หุ้นจดทะเบียนใหม่ หรือหุ้นที่เปิดให้ซื้อขายชั่วคราว เป็นต้น

โดยเงื่อนไขการใช้ Trigger เมื่อจำนวนรวมของหุ้นในฝั่งซื้อหรือฝั่งขาย ของหุ้นใดมากกว่า 15% ของจำนวนหุ้นจดทะเบียน, จะไม่มีการ Auto Halt เกินกว่า 1 ครั้ง/วัน

สำหรับลักษณะการทำงานจะหยุดการซื้อขายเฉพาะหุ้นนั้นเป็นเวลา 60 นาที, ระบบจะไม่ยกเลิก Order, ผู้้ลงทุนสามารถแก้ไข/ยกเลิกOrder ได้ แต่จะไม่สามารถส่ง Order ใหม่ได้, กรณี Auto Halt แล้วเหลือช่วงเวลาทำการซื้อขายน้อยกว่า 60 นาที จะหยุดการซื้อขายตามเวลาที่เหลือใน Session นั้น ทั้งนี้ช่วงเวลาที่ใช้ ทุกช่วงเวลาซื้อขาย ยกเว้น Pre-close

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ