'บางจาก' ปลดป้าย 'เอสโซ่' เร่งเปลี่ยนโฉมปั๊ม 832 แห่ง

หลังจากที่บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ชำระค่าหุ้น 2,283 ล้านหุ้น หรือ 65.99% ของบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในราคา 9.8986 บาทต่อหุ้น เรียบร้อยในวันที่ 31 ส.ค.2566

ทำให้บางจากได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินของเอสโซ่ในประเทศไทย และจะทยอยรีแบรนด์สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ในเบื้องต้น 200 สถานีภายในสิ้นปี 2566 

ขณะนี้บางจากได้เริ่มเปลี่ยนป้ายปั๊มน้ำมันจากเอสโซ่เป็นบางจากกลุ่มแรกตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2566 ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยการเปลี่ยนป้ายจะใช้เวลา 3 วัน โดยปั๊มกลุ่มแรกที่จะเปลี่ยน อาทิ สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ ถนนประชาชื่น ถนนพระราม 4 ถนนเพชรบุรี ถนนรัชดาภิเษก และ ถนนวมินทร์ (คลองจั่น)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปั๊มน้ำมันเอสโซ่บริเวณปากซอยประชาชื่น 16 ถนนประชาชน อยู่ในกลุ่มแรกที่เปลี่ยนป้าย โดยเริ่มดำเนินการในช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ย.2566 และเสร็จในวันที่ 3 ก.ย.2566 พร้อมกับปลดสูตรน้ำมันเอสโซ่ในปั๊มเอสโซ่ออกเพื่อนำน้ำมันสูตรบางจากเข้าไปให้บริการลูกค้าแทน โดยบางจากได้เริ่มทยอยเปลี่ยนชื่อปั๊ม ทั้งนี้ การเปลี่ยนป้ายจะเริ่มจากการปิดระบบไฟป้ายของเอสโซ่ ปลดและเปลี่ยนเป็นป้ายบางจากแทน พร้อมกับทาสีเสาและป้ายทั้งหมดในปั๊มเอสโซ่ให้เป็นเหมือนกับปั๊มบางจากที่เดิมเป็นสีแดงให้เป็นสีเขียวแทน เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า ซึ่งน้ำมันสูตรเอสโซ่ชนิดไหนหมดก็จะมีการปิดป้ายที่หัวจ่ายว่าหมด และจะเริ่มให้บริการน้ำมันสูตรบางจากแทน 

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าจะสังเกตจากสติกเกอร์ที่หัวจ่ายถึงน้ำมันที่มีการเปลี่ยนสูตรเป็นหลัก เนื่องจากบางจากซื้อสินทรัพย์ทั้งหมดของเอสโซ่ แต่ไม่ได้ซื้อแบรนด์และสูตรน้ำมันของเอสโซ่

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บางจาก กล่าวว่า บางจากจะใช้เวลาเปลี่ยนปั๊มเอสโซ่ทั้งหมด  832 สถานี ใน 2 ปี โดยเริ่มจากปั๊มที่เป็นของเอสโซ่ลงทุนบริหารเอง 280 แห่ง ที่จะรีแบรนด์ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ส่วนที่เป็นของดีลเลอร์ 500 สถานี จะต้องดูสัญญาและเชิญชวนให้เปลี่ยนเป็นแบรนด์บางจาก ซึ่งจะใช้เวลารีแบรนด์ทั้งหมด 2 ปี

โดยส่วนสูตรน้ำมันของเอสโซ่จะมีเวลาให้ใช้ได้ไม่เกิน 90 วันหลังจากวันที่ได้มีการชำระค่าหุ้นคือเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2566 ซึ่งนายชัยวัฒน์ คาดว่าจะใช้เวลาขายน้ำมันเดิมภายในวันที่ 30 ก.ย. 2566 นี้ 

สำหรับสมาชิกบัตรบางจากกรีนไมลส์ นอกจากจะนำคะแนนสะสมจากการเติมน้ำมันและซื้อสินค้าในเครือบางจาก มาใช้เป็นส่วนลดหรือทำประโยชน์อื่น ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของตนแล้ว ยังรับส่วนต่างราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นคืนเป็นคะแนนพิเศษเพิ่มเมื่อเติมน้ำมันในวันแรกที่ปรับขึ้นราคา และยังร่วมบริจาคเงินจากการสะสมคะแนนให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์ต่างๆ

และเพื่อเป็นการดูแลลูกค้าเอสโซ่ซึ่งเป็นสมาชิกบัตรเอสโซ่สไมลส์ไม่ให้มีผลกระทบ สามารถสะสมคะแนนและแลกคะแนนเอสโซ่สไมล์ได้อีก 1 ปีจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2567 ภายใต้บัตรเดิม หรือสามารถโอนคะแนนสะสมมาเป็นสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ โดยจะได้รับคะแนนโบนัสพิเศษเพิ่ม 100 คะแนน หากทำการโอนย้ายคะแนนภายในวันที่ 30 พ.ย. 2566 โดยปัจจุบันบางจากกรีนไมลส์มีสมาชิกราว 6 ล้านราย ส่วนเอสโซ่สไมล์มีสมาชิกที่ 3.5 ล้านราย

ทั้งนี้ ภายหลังบางจากซื้อหุ้นเอสโซ่ดังกล่าว ส่งผลให้บางจากจะมีเครือข่ายคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ 832 แห่งได้ทันที ซึ่งเมื่อรวมสถานีบางจาก 1,360 สาขา จะเป็น 2,192 สาขา โดยปลายปี 2567 มีแผนจะเพิ่มเป็น 2,300 สถานี ซึ่งปัจจุบันบางจากมี Market Share ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่ 16.3% และเอสโซ่ที่ 13.7% เมื่อรวมกันแล้วถือเป็นเบอร์ 2 ของตลาดราว 30% ซึ่งเบอร์ 1 มีส่วนแบ่งตลาดราว 40%

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ