วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา CH Inflation, US PPI

โดยภาพระยะสั้น ดัชนีฯ อยู่ระหว่างปรับขึ้นมาทดสอบแนวต้านย่อยที่ 1,414 จุดและ 1,427 จุด ตามลำดับ โดยมีแนวต้านเป้าหมายที่ 1,432 จุด

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

ECB Meeting คาดคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 4.5% (Deposit Facility Rate 4%) และส่งสัญญาณพร้อมปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้ตั้งแต่การประชุมครั้งต่อไป

US สุนทรพจน์ Fed New York Williams (Voter) ที่ Federal Home Loan Bank of New York Symposium; สุนทรพจน์ Fed Boston Susan Collins (Non-Voter) ที่ Economic Club เมือง New York

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ :

CH รายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค. คาดลดลงเป็น -0.5% MoM (Vs เดือน ก.พ. +1% YoY) และ +0.4% YoY (Vs เดือน ก.พ. +0.7% YoY) ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต PPI เดือน มี.ค. คาดลดลงเป็น -2.8% YoY (Vs เดือน ก.พ. -2.7% YoY) โดยหากออกมาสูงกว่าคาด จะเป็นโมเมนตัมบวกต่อสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ในทางตรงกันข้าม หากออกมาลดลง จะส่งผลให้ทางการมีโอกาสออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

US PPI เดือน มี.ค. หากเทียบรายเดือน คาดลดลงเป็น +0.3% MoM (Vs เดือน ก.พ. +0.6% MoM) แต่หากเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน พบว่าปรับสูงขึ้น +2.2% YoY (Vs เดือน ก.พ. +1.6% YoY) ส่วน Core PPI หากเทียบรายเดือน มี.ค. พบว่าลดลงเป็น +0.3% MoM (Vs เดือน ก.พ. +0.6% MoM) แต่สูงขึ้นหากเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนเป็น +2.2% YoY (Vs เดือน ก.พ. +1.6% YoY) โดยหากออกมาสูงกว่าคาดการณ์ จะส่งผลต่อแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. มีโอกาสลดลง

CH (สัปดาห์หน้า วันอังคาร) รายงานตัวเลข 1Q24E GDP Growth โดย Consensus คาดเติบโต +0.9% QoQ, 5% YoY ลดลง เมื่อเทียบกับ 4Q23 GDP ที่ขยายตัว 1% QoQ, +5.2% YoY รวมถึงรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มี.ค. อาทิ Industrial Production คาด +5.4% YoY (Vs เดือน ก.พ. 7% YoY) Retal Sales คาด +4.5% YoY (Vs เดือน ก.พ. +5.5% YoY) ส่วนที่ดีขึ้นเล็กน้อย คือ Fixed Asset Investment (YTD) คาด +4.3% YoY (Vs เดือน ก.พ. 4.2% YoY) Houser Price Index -0.2% YoY (Vs เดือน ก.พ. -1.4% YoY) ทั้งนี้ หากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาแย่กว่าคาดจะเป็นโมเมนตัมลบต่อตลาดหุ้นเอเชีย และมีความจำเป็นที่ทางการจะต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ตามเป้าหมาย 5% ในปี 2024

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ MINT CENTEL SPA

Strategic daily picks

MINT     ปิด 33.00 บาท/แนวรับ 31.50 บาท แนวต้าน 35.00 บาท

แนวโน้ม 1Q24 จะเติบโต YoY ตามความต้องการแข็งแกร่งทั้งในยุโรปและไทย ทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร โดยตั้งเป้ารายได้ 3 ปีจากนี้ หรือปี 2024-26 จะขยายตัว 8-10% และงบลงทุน 8,000-14,000 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 450 ล้านบาท (พลิกจากขาดทุนสุทธิ 647 ล้านบาท) และมูลค่าเหมาะสม 39.93 บาท

CENTEL    ปิด 45.50 บาท/แนวรับ 44.00 บาท แนวต้าน 47.00 บาท

ปี 2024 บริษัทยังมุ่งเน้นรักษารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ทั้งปี 2024 เติบโตต่อเนื่องราว 15% เมื่อเทียบกับปี 2023 หนุนจากปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง ซึ่งเบื้องต้นใน 1Q24 คาดรายได้รวมกลุ่มธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเติบโตขึ้นราว 20% YoY และ 15% QoQ หนุนจากอัตราค่าห้องพักต่อวัน (ADR) โรงแรมทุกพื้นที่ในไทยที่ทรงตัวสูงกว่าช่วงปี 2019 รวมถึงโรงแรมที่ประเทศดูไบที่สูงกว่าช่วงปี 2023 ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 1.6 พันล้านบาท (+28.29% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 47.49 บาท

SPA    ปิด 13.30 บาท/แนวรับ 12.80 บาท แนวต้าน 14.00 บาท

บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของผลการดำเนินงานปี 2024 ที่ 1.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 15.41% จากรายได้รวมปี 2023 โดยในปี 2024 จะขยายสาขาเพิ่มราว 5 สาขา และมีสาขาอื่นที่อยู่ระหว่างการเจรจา เนื่องจากแนวโน้มการท่องเที่ยวในประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวและสถานการณ์ COVID-19 ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 337.50 ล้านบาท (+1.61% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 14.32 บาท

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ