วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก พักตัว

ความเห็นของนายพาวเวลได้ตอกย้ำความหวังของนักลงทุนว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยมีแรงซื้อในหุ้น Big Cap. ทั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,386.42 จุด +14.26 จุด +1.04% มูลค่าการซื้อขาย 40,077 ลบ.Program Trading +943.46 ลบ. ต่างชาติ +1,610.21 ลบ. TFEX +30,531 สัญญา ตราสารหนี้ -1,071.04 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ อินเดียลงนามข้อตกลงการค้ากับประเทศสมาชิกสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือ เอฟตา (EFTA) ซึ่งประกอบด้วยสวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และลิกเตนสไตน์
+ รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มประมาณการ GDP ใน 4Q66 เป็นขยายตัว 0.4% ซึ่งดีกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP จะหดตัว 0.4%
+ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 4.60 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งทำให้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ได้

ปัจจัยลบ   

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 68.66 จุด หรือ -0.18% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลงหลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวัน โดยหุ้นกลุ่มชิปปรับตัวลงจากแรงเทขายทำกำไร ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าการจ้างงานใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า FED จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย.นี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.93%
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 92 เซนต์ หรือ -1.17% ปิดที่ 78.01 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 2.5% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดยังคงวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอของจีน แม้กลุ่มโอเปคพลัสตกลงขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมันก็ตาม
 

 

- สหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. มากกว่าที่มีการคาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง
- เอสแอนด์พี โกลบอล เตือนว่าแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนอาจถูกปรับลดลง หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ หรือยังต้องอาศัยการแทรกแซงของรัฐบาลเข้ามาด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

แนวโน้มตลาดวันนี้   

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัวหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าการจ้างงานใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาด ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,380-1,390 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• FTSE Large Cap. : เข้า – ออก CPF HMPRO IVL SCGP FTSE Mid Cap. : เข้า CPF HMPRO IVL SCGP ออก - FTSE Small Cap. : เข้า – ออก KEX RABBIT RAM SAMART WORK ใช้ราคาปิด 15 มี.ค.
• BTC ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง : JTS ZIGA BROOK TTA
• ราคายางพาราทำ New High รอบ 3 ปี : STA TRUBB NER TEGH

 

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

HMPRO (Bloomberg consensus 14.60 บาท)
"1Q67 เริ่มฟื้นตัวจากโครงการ Easy e-Receipt"

•งวด 4Q66 มีกำไรสุทธิ 1,677 ลบ. +1%YoY +9%QoQ ขณะที่รายได้ 18,177 ลบ. -2%YoY +4%QoQ หดตัว YoY จากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงจึงกดดัน SSSG ส่วน %GPMปรับดีขึ้นจาก 26% ใน 4Q65 เป็น 27% เนื่องจากยอดขาย Private brand มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 20% ขณะที่กำไรสุทธิปี 66 เท่ากับ 6,442 ล้านบำท +4%YoY

•ผู้บริหารตั้งเป้าทั้งปี 67 ยอดขายเติบโต 7%YoY และ SSSG เพิ่มขึ้น 3%YoY โดยเน้นขาย Private brand มากขึ้นราว 21-22% ซึ่งจะช่วยหนุน %GPM เพิ่มขึ้นเป็น 27% ส่วน 1Q67 มียอดขายจากโครงการ Easy e-Receipt เพิ่มขึ้นอีก 250 ลบ. +2%YoY โดยทั้งปีนี้มีแผนเปิดเพิ่ม 7 สาขา (โฮมโปร 3 สาขา เมกาโฮม 4 สาขา) สู่ทั้งหมด 135 สาขา ณ สิ้นปี 67

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 1Q67 เนื่องจากมีโครงการ Easy e-Receipt ประกอบกับฤดูร้อนที่มาเร็วกว่าปี 66 ทำให้ผู้บริโภคเร่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรทั้งปี 67 ราว 7,035 ลบ. +9%YoY ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา -4%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 23 เท่า ต่ากว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 28 เท่า เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) BEM (Bloomberg consensus 10.84 บาท) เปิดปริมาณจราจรทางด่วนแตะ 1.2 ล้านคัน ขณะที่ผู้ใช้รถไฟฟ้าทำสถิติสูงสุดใหม่ กุมภาพันธ์ วันทำงานที่ 5.5 แสนคน ลุ้นผลงานโค้งแรกโดดเด่น ปักเป้ารายได้โต 8-10% กลุ่มธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์มาแรงเติบโตต่อได้กว่า 10% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ORI (Bloomberg consensus 9.50 บาท) ตั้งเป้ายอดโอน 2.6 หมื่นล้านบาท ยอดขาย 4.9 หมื่นล้านบาท จ่อเปิดโครงการใหม่ปีนี้มูลค่า 3.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ธุรกิจโรงแรมเติบโตเด่น คาดสร้างอีบิทดาปีนี้แตะ 600 ล้านบาท คาดรายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นแตะ 1.7 หมื่นล้านบาท คาดขายกองรีท แอลฟา อินดัสเทรียล ครึ่งปีแรก 2567 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CIVIL (Bloomberg consensus - บาท) เผยทิศทางธุรกิจปี 2567 เติบโตต่อเนื่อง เตรียมเข้าประมูลงานรับภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัว ชูจุดเด่นกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก พร้อมรับรู้รายได้จากงานที่ได้รับในปี 2566 มูลค่ารวม 7,303 ล้านบาท ส่งมอบงานสำเร็จ 28 โครงการ ดัน Backlog โต 24,400 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SECURE (Bloomberg consensus - บาท) ฉายภาพซีเคียวริตี้มีดีมานด์สูง บอสใหญ่ "นักรบ เนียมนามธรรม" ส่งบริการใหม่เจาะกลุ่มโซเชียลมีเดียทำเงิน คาดเห็นสัดส่วนรายได้ปีแรก 5% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตต่อ 15-20% เล็งบุ๊กยอดแบ็กล็อก 300 ล้านบาท เข้าพอร์ต (ที่มา ทันหุ้น)

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'จีน' ผ่านงบใหญ่ 10 ล้านล้านหยวน ลุยแก้หนี้แฝงรัฐบาลท้องถิ่น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าในวันนี้ (8 พ.ย.67) ที่ประชุมคณะกรรมาธิการสภาประชาชนแห่งชาติของจีน มีมติ...

‘ทรัมป์’ เลือก ‘ซูซี่ ไวลส์’ เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สตรีคนแรกรับตำแหน่งนี้

การแต่งตั้ง “ซูซี่ ไวลส์” ดำรงตำแหน่ง ‘แม่บ้านทำเนียบขาว’ เป็นเพียงการประกาศครั้งแรกจากการประกาศแต่ง...

ธนาคารและบริษัทโทรศัพท์ ต้องรับผิดชอบต่อการหลอกลวงออนไลน์

กฎหมายนี้จะเน้นไปที่การหลอกลวงแบบ Phishing เช่น เว็บไซต์ปลอม อีเมลปลอม หรือ SMS ปลอม ที่มิจฉาชีพปลอม...

‘ซาราห์ แม็คไบรด์’ หญิงข้ามเพศคนแรกในสภาสหรัฐ

“ซาราห์ แม็คไบรด์” สมาชิกวุฒิสภาสองสมัยจากรัฐเดลาแวร์ กลายเป็น “ผู้หญิงข้ามเพศคนแรก” ที่ชนะการเลือกต...