วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา ผลประชุม ECB

พบว่า SET Index ที่เกิดจุดต่ำสุดใหม่ 5 ครั้งก่อนหน้า จะเกิดการแรลลี่หลังทำ New Low โดยปรับขึ้นเฉลี่ย +5.8% จากระดับต่ำสุด และใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

US: ประธานเฟด Powell แถลงการณ์ภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีเป็นครั้งที่ 2 แต่เป็นการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินของสภาสูง โดยตลาดจะให้ความสนใจต่อรายละเอียดที่เพิ่มเติมจากการแถลงวันก่อนหน้า โดยเฉพาะแนวโน้มสัญญาณดอกเบี้ยของเฟด เรายังคงคาดว่า ประธานเฟดจะส่งสัญญาณไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย บนแนวโน้มเงินเฟ้อมีความเสี่ยงเกิด Sticky Inflation ขณะที่ CME FedWatch Tool ให้โอกาสสูงสุดที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือน มิ.ย. และลดลงปีนี้จานวน 4 ครั้ง จากเดิม 7 ครั้ง

US: President Joe Biden แถลงนโยบายต่อสภาฯ (the State of the Union address) และสุนทรพจน์ของประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ Loretta Mester (Voter, H)

Opportunity Day: ALLA DRT TRP SENA SENX RS FSMART EKH BYD FTE AIT TTA TK BBGI WHAUP BRI GABLE WHAIR PIN

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ/รายงานผลประกอบการบจ. มีต่อเนื่อง

China: รายงานการค้าระหว่างประเทศเดือน ม.ค.-ก.พ. โดย Consensus คาดเกินดุลการค้า USD103.7bn ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ +USD75.34bn โดยส่งออกเติบโต 1.9% YoY (Vs เดือน ม.ค.-ก.พ. 2023 เติบโต +2.3% YoY) และการนำเข้าเติบโต +1.5% YoY (Vs เดือน ม.ค.-ก.พ. 2023 +0.2% YoY) ทั้งนี้ การส่งออกและการนำเข้าที่ปรับตัวดีขึ้น ถือว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจจีน อิงการส่งออกปี 2023 เติบโตหดตัว -4.6% YoY และนำเข้า -5.5% YoY โดยเฉพาะการค้ากับสหรัฐฯ ที่ปีก่อนหดตัวถึง -11.6% YoY

ECB Meeting: คาดกรรรมการอีซีบีมีติคงดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 4 ที่ระดับ 4.5% อัตราดอกเบี้ย Deposit Facility Rate ที่ 4% และ Marginal Lending Rate ที่ 4.75% หลังจากผลประชุมครั้งก่อนหน้า มีการส่งสัญญาณว่าเร็วเกินไปที่จะมีการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย และอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความล่าช้าที่จะกลับไปสู่ภาวะปกติ 2% อย่างไรก็ดี เราคาดว่าการส่งสัญญาณของประธานอีซีบี Lagarde หลังประชุมจะมีการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โดยอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปีนี้ (มีโอกาสสูงในการประชุมเดือน มิ.ย.) หลังจากแนวโน้มเงินเฟ้ออียูปรับตัวลดลงต่อเนื่องลงมาอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% และภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจอียูมีความเสี่ยงเติบโตติดลบ โดยสัญญาณดังกล่าวจะเป็นโมเมนตัมบวกต่อตลาดหุ้นยุโรป โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคฯ และกลุ่มอิงดอกเบี้ย

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ TOP STEC HTC

Strategic daily picks

TOP    ปิด 59.00 บาท/แนวรับ 57.50 บาท แนวต้าน 61.50 บาท

KTX คงมุมมองเชิงบวกต่อค่าการกลั่นปี 2024E ที่ได้แรงหนุนเชิงบวกจาก crack spread ของ middle distillates ที่ทรงตัวสูง (TOP มี product yield ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว 55%) และคาดโมเมนตัมค่าการกลั่นจะดีต่อเนื่องในปี 2025E ที่อุปทานการกลั่นใหม่เข้ามาน้อย ซึ่งสอดรับกับแผนการผลิตเชิงพาณิชย์ของโครงการ Clean Fuel Project (CFP) ของ TOP ในปีดังกล่าว และคาดจะหนุนให้ LT EPS โตแข็งแกร่ง (คาด 23% CAGR ในช่วงปี 2024-26E) พร้อมคงคำแนะนำ Outperform และ 12M FV ที่ 62.4 บาท

STEC     ปิด 9.90 บาท/แนวรับ 9.60 บาท แนวต้าน 10.50 บาท

คาดในปี 2024 จะได้รับงานใหม่เข้ามา 4-5 หมื่นล้านบาท โดยจะเน้นงานภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อชดเชยการประมูลงานภาครัฐที่ล่าช้า นอกจากนี้ เดินหน้าผลักดันรายได้ประจำ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง ที่จะเข้ามา ซึ่งวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำเป็น 50% ในอนาคต สำหรับปี 2023 มีกำไรสุทธิ 527.72 ล้านบาท (-38.45% YoY) และ Bloomberg Consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 11.12 บาท

HTC   ปิด 17.20 บาท/แนวรับ 16.70 บาท แนวต้าน 17.90 บาท

บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2024 โต 6-8% จากปี 2023 และจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 40% เนื่องจากภาพรวมตลาดเครื่องดื่มอัดลมและไม่ใช่น้ำอัดลมยังขยายตัวดีต่อเนื่องจากปี 2023 บวกกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ภาคใต้ยังคงมีความแข็งแกร่ง และฟื้นตัวได้ดีมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น รวมถึงแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตั้งแต่ 1Q24 เป็นต้นไป ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 16.60 บาท

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ