กรมชลฯ ศึกษาต้นทุนน้ำภาคตะวันออก ก่อนเดินหน้าจัดเก็บค่าใช้น้ำที่เหมาะสม

นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินโครงการศึกษาวิจัยต้นทุนน้ำในพื้นที่จังฉะเชิงเทรา ,ชลบุรีและ ระยอง ซึ่งถือเป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก:EEC) เพื่อศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ โครงสร้างต้นทุนและการประเมินต้นทุน การจัดการน้ำอุปทานโดยกรมชลประทานและการกำหนดอัตราค่าน้ำชลประทานที่เหมาะสมและเป็นรูปธรรมสำหรับทุกภาคส่วนที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงตามบริบทการจัดหา จัดสรร พัฒนา ให้บริการด้านอุปทานน้ำ (Water Resources Supply)

 

รวมทั้งวางแผนและกำหนดทิศทางการพัฒนาและประยุกต์ใช้โครงสร้างต้นทุนการจัดการน้ำอุปทานและอัตราคำน้ำชลประทานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกที่สอดคล้องกับแผนหลักการพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ EEC ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน กลุ่มผู้ใช้น้ำให้เกิดการบริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกแบบบูรณาการ

จัดการอุปทานน้ำสอดคล้องดีมานด์ 

โดยคณะผู้เชี่ยวชาญจะทำการศึกษาวิเคราะห์และกำหนดข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแนวทางการจัดการน้ำอุปทานอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับภาคส่วนผู้ใช้น้ำที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบแล้วให้มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ และรองรับอุปสงค์น้ำจากการคาดการณ์บริบทการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและพัฒนาระบบ Web Application สนับสนุนการวิเคราะห์ ประเมิน และกำหนดต้นทุนการจัดการน้ำอุปทานและกำหนดต้นทุนการจัดการน้ำ กำหนดอัตราค่าน้ำชลประทานอย่างเหมาะสม

 ภายใต้การคาดการณ์ปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้ ความต้องการน้ำและระดับความขาดแคลนอย่างมีมาตรฐานและเป็นธรรมสำหรับทุกภาคส่วนในเป้าหมาย 3 จังหวัดคือฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง คาบเกี่ยวกับ2ลุ่มน้ำหลัก ได้แก่ ลุ่มน้ำบางปะกงและลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออกรวมพื้นที่ศึกษาทั้งหมดประมาณ 8,454,375 ไร่

 โดยในการศึกษาครั้งนี้ได้แบ่งประเภทความต้องการน้ำออกเป็น 4ประเภทด้วยกันคือ 1.น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและการท่องเที่ยว 2.น้ำเพื่อการอุตสาหกรรม 3.น้ำเพื่อการเกษตรชลประทานและ 4.น้ำเพื่อรักษาสมดุลระบบนิเวศและผลักดันน้ำเค็ม

 

 

 

ยึดพื้นที่ศก.นำร่องศึกษาต้นทุน

นายสุรชาติ กล่าวว่ากรมชลประทานเลือกพื้นที่ภาคตะวันออกนำร่องในการศึกษาต้นทุนน้ำ เนื่องจากว่าในปัจจุบันจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยองเป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมและการลงทุนหลักของประเทศไทยและภูมิภาค

นอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแล้วยังมีฐานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และการเกษตรมูลค่าสูง ทำให้มีแรงงานทุกระดับหลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่ส่งผลให้มีความต้องการความมั่นคงด้านน้ำสูงและคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2580 จะมีความต้องการใช้น้ำรวม 3,089 ล้านลูกบาศก์เมตร( ลบ.ม.)ต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีความต้องการใช้น้ำรวม 2,419 ล้าน ลบ.มต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 670 ล้าน ลบม ต่อปี อันเนื่องจากการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจและสังคมตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล       โดยความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ 3 จังหวัด คิดเป็น 53.5% ของความต้องการใช้น้ำทั้งภาคตะวันออก ทั้งนี้ ความต้องการใช้น้ำภาคอุปโภค-บริโภคมีอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุด 56% รองลงมาคือภาคอุตสาหกรรม 43% และภาคเกษตรกรรม 17%

สำหรับความต้องการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคและการท่องเที่ยว จังหวัดชลบุรีมีความต้องการใช้น้ำมากที่สุดรองลงมาระยอง และฉะเชิงเทรา  ส่วนความต้องการใช้น้ำเพื่อการอุตสาหกรรมจังหวัดที่มีความต้องการใช้มากที่สุดคือ ระยองรองลงมาชลบุรี203.95ล้านลบ.ม.และฉะเชิงเทรา ด้านความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรชลประทาน จังหวัดฉะเชิงเทรามีความต้องการใช้มากที่สุด

ประมาณการอัตราค่าน้ำชลประทาน 

โดยแนวทางในการวิเคราะห์และพัฒนาโครงสร้างต้นทุนการจัดการน้ำอุปทาน การประมาณการมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและการกำหนดอัตราค่าน้ำชลประทานนั้น จะเน้นศึกษารูปแบบ วิธิการ กลไกลและแนวทางการแจกแจงโครงสร้างต้นทุนการประเมินต้นทุนและการกำหนดราคาน้ำในประเทศต่างๆที่มีความเหมาะสมกับประเทศไทย 

อาทิ สหภาพยุโรปมีการกำหนดกฎระเบียบด้านการบริหารจัดการน้ำ (EU Water Framework Directive)โดยส่งเสริมเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ซึ่งรวมถึงภาษีและค่าทำเนียมทั่วไปเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ใช้น้ำในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและลดปัญหามลพิษทางน้ำ 

รวมทั้งแนวทางขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นหรือไจก้า ได้นำเสนอแนวทางการกำหนดราคาค่าน้ำกรณีศึกษาของเมืองเกียวโตซึ่งในข้อมูลได้นำเสนอรายได้จากการจัดเก็บค่าน้ำเปรียบเทียบกับต้นทุนอุปทานน้ำและอัตราส่วนความคุ้มทุนรวมระยะในการทบทวนอัตราค่าน้ำของผู้ให้บริการน้ำในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...