“เศรษฐา” นายกรัฐมนตรี รับ “สุทิน คลังแสง” คุมกลาโหม เชื่อประสานงานกองทัพ เป็นไปได้ด้วยดี และตนเองจะเข้าไปช่วยดูตรงนี้ด้วย มั่นใจ ครม.คุณสมบัติรมต.ครบ ทราบแล้ว “หมอชลน่าน” เตรียมลาออก หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
เมื่อเวลา 09.10 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่บางคนอาจไม่เหมาะกับบางตำแหน่ง ว่า ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลและผู้ที่ประสานงานจัดตั้งครม.ด้วย คิดว่า หน้าตาหรืออะไรก็มีสิทธิ์ที่คนจะคิดกันได้ แต่ต้องให้เกียรติกับรัฐมนตรี และมั่นใจว่า รัฐบาลมีเป้าหมายชัดเจนคงวัดกันที่ตรงนี้ เมื่อถามว่ามีเสียงสะท้อนว่าหากพลเรือนมาคุมกองทัพ อาจจะเป็นการด้อยค่ากองทัพ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่า นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีผู้รายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อาวุโส เท่าที่ตนรู้จักนายสุทิน เป็นคนให้เกียรติคน ตนเชื่อว่าการประสานงานกับกองทัพ จะเป็นไปได้ด้วยดี และตนจะเข้าไปช่วยดูตรงนี้ด้วย ก็ต้องให้แน่ใจว่าทุกสถาบันได้รับการดูแล เอาใจใส่ และได้รับการพูดคุยอย่างเหมาะสม สมฐานะ
เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ (29 สิงหาคม) ว่าที่รัฐมนตรีทยอยเอาประวัติไปกรอกที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เขาแจ้งหรือยังว่า จะใช้เวลากี่วันในการตรวจประวัติและขั้นตอนต่อไป จะเริ่มได้เมื่อไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตามที่ได้พูดคุยกับเลขาธิการ ครม. จะใข้เวลาในการตรวจสอบน่าจะอยู่ที่ 2 วัน หลังจากนั้นก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เลย
เมื่อถามว่า ทางเลขาธิการ ครม. ได้แจ้งเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะมีรายงานว่ารัฐมนตรีบางคนคุณสมบัติไม่ผ่าน นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องยังไม่ถึงตน ยังไม่ได้ทราบ เมื่อถามถึง กรณีที่นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน จะทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีว่า มีว่าที่รัฐมนตรี 4 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ คุณสมบัติไม่ผ่าน โดยอ้างอิงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูล แต่ตนเชื่อว่าทั้ง 4 คน เป็นบุคคลที่เหมาะสมในการเข้าดำรงตำแหน่ง เหลือแค่เช็กคุณสมบัติ จากเลขาธิการ ครม.อีกครั้ง
...
เมื่อถามถึง กรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท.จะลาออกจาก ตำแหน่งหัวหน้าพรรค พท. นายเศรษฐา กล่าวว่าตนทราบเรื่องแล้ว วันนี้นพ.ชลน่าน คงประกาศเรื่องนี้เอง ให้เกียรติท่าน เป็นสส.หลายสมัย ทำประโยชน์ให้กับ พท.มานาน เป็นที่รักของสส.ทุกคน ตนเพิ่งเข้ามาใหม่ นพ.ชลน่านก็ให้การดูแลที่ดี เชื่อว่าไม่ว่าท่านจะตัดสินใจเช่นไร ในอนาคต นพ.ชลน่านก็จะยังอยู่ในพรรค พท.ต่อไป ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ในพรรคมีการคุยกัน แต่ต้องให้เกียรตินพ.ชลน่านในการแถลง เมื่อถามย้ำว่า เรื่องเซอร์ไพรส์ที่นายเศรษฐาเคยบอกคือเรื่องที่นพ.ชลน่านจะลาออกใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ นพ.ชลน่านประกาศไว้นาน หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จเรียบร้อย และหากเสร็จภารกิจนพ.ชลน่านก็จะมีการประกาศของท่านออกไป” เมื่อถามต่อว่า ถ้านพ.ชลน่าน ลาออกใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคต่อ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องมีการประชุมพรรค ว่าไปตามกฎพรรคการเมือง ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคใหม่ภายใน 60 วัน ทั้งนี้ขอฟังนพ.ชลน่านแถลงก่อน เมื่อถามว่า มองคุณสมบัติของคนที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนต่อไปอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนในฐานะหนึ่งในสมาชิกพรรค คิดว่าต้องเป็นคนที่อยู่ในพรรคมานาน และมีความรู้ความสามารถ รอบรู้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง ความมั่นคงเศรษฐกิจและสังคม เมื่อถามว่า นพ.ชลน่านจะมีโอกาสกลับมานั่งหัวหน้าพรรคอีกหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ตนไปก้าวล่วงสิทธิ์สมาชิกพรรคไม่ได้ เมื่อถามว่า ส่วนตัวจะเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ขอพูดเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับการเลือกกรรมการบริหารพรรค
เร่งทำนโยบายแถลงหลังถวายสัตย์
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา นายเศรษฐา กล่าวว่า มีความคืบหน้าตลอด เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) ได้พูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แล้ว นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นคนเจรจา วันนี้ เวลา 11.00 น. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเข้ามาพบตนที่พรรค พท. จะเร่งเรื่องนโยบาย เพราะอยากแถลงโดยเร็วหลังเข้าถวายสัตย์ฯ เพื่อที่ประเทศจะได้เดินไปข้างหน้าได้ เมื่อถามว่า หลังจากนำครม. ถวายสัตย์ฯ แล้วคาดว่าจะใช้เวลากี่วันในการแถลงนโยบายต่อสภาฯ ได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอไปดูนิดหนึ่งก่อน ขึ้นอยู่กับถวายสัตย์ฯ เมื่อไหร่ แต่คาดว่าจะไม่เกิน 1 สัปดาห์ เมื่อถามว่าภารกิจที่ผ่านมาเน้นไปที่การท่องเที่ยว ช่วงไฮซีซั่น ตั้งตัวเลขไว้อย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า กำลังทำการศึกษาอยู่ ทุกเวทีที่เราพูดคุย การท่องเที่ยวที่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุด สัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ที่จ.ภูเก็ตและพังงา ได้คุยกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการท่าอากาศยาน, การบินไทย, กระทรวงคมนาคม ในเรื่องแผนการพัฒนาและสนับสนุน และมีการคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในเรื่องของการดูแลด้านความปลอดภัย และยังได้พูดคุยกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ซึ่งท่านก็สนับสนุนและเห็นชอบในเรื่องนี้ ฉะนั้น เรื่องนักท่องเที่ยวจีน ที่เรามีดำริว่าเราจะยกเลิกขอวีซ่าก็หวังว่าจะได้รับการตอบสนองที่ดีจากทุกภาคส่วน ส่วนตัวเลขวันประกาศคงจะมีการอธิบายให้ฟังว่าจะดีขึ้นอย่างไร แล้วจะเห็นผลเมื่อไหร่