เปิด 2 ปัจจัยที่ทำให้ Bitcoin ขึ้นไปแตะ 69,000 ดอลลาร์ก่อนการ Having

ตอนนี้ราคาบิตคอยน์ Bitcoin (BTC) เคลื่อนไหวที่ระดับ 52,000 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 3% ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ด้าน 10X Research หลังจากศึกษาข้อมูลในอดีตและตัวบ่งชี้การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เรียกว่า Relative Strength Index (RSI) หรือ เครื่องมือที่ใช้ดูการเคลื่อนที่ของราคาหุ้น ว่ามีโมเมนตัมไปในทิศทางใด  ซึ่งมองว่ายังมี "แนวโน้มขาขึ้น" ที่อาจทำให้ราคากลับไปที่ 69,000 ดอลลาร์  ซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนการ Having 

ทฤษฎีที่ว่า Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำตามมูลค่าตลาด จะถึงจุดต่ำสุดก่อนการ Having ถึง 12-16 เดือน และพลิกตัวกลายเป็นแนวโน้มขาขึ้นภายในหนึ่งปีหลังจากการ Having ซึ่งเป็นข้อมูลสถิติที่ทราบกันดีอยู่แล้ว จากการ Having ทั้ง 3 ครั้งก่อนหน้านี้ จะลดอัตราการขยายอุปทานลง 50% การลดจำนวนลงครึ่งหนึ่งในวันที่ 19 เมษายน จะทำให้รางวัลต่อบล็อกลดลงเหลือ 3.125 BTC จาก 6.25 BTC

ยิ่งเข้าใกล้ Bitcoin halving ความน่าจะเป็นที่ bitcoin จะเพิ่มขึ้นก็จะยิ่งสูงขึ้น ตามหลักฐานจากสถิติถึงการ halving ในสามรอบที่ผ่านมา  ซึ่งคาดว่าคราวนี้จะไม่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ 

จากฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่องใน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐ บ่งชี้ถึงความสนใจในหมู่นักลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่ง ETF ที่ได้รับการควบคุมภายใต้การดูแลของ ก.ล.ต.สหรัฐ ช่วยให้นักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงจากสกุลเงินดิจิทัล ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความยุ่งยากในการจัดเก็บเหรียญหรือสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆ

บิตคอยน์ส่งสัญญาณขาขึ้น 

ตามสถิติหากราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวที่ 48,294 ดอลลาร์ และสามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 54% ใน 60 วัน ดังนั้นราคาบิตคอยน์อาจพุ่งไปแตะ 74,600 ดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตามสถิติในอดีตไม่ได้รับประกันผลลัพธ์ในอนาคต และปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคสามารถสร้างหรือทำลายแนวโน้มต่างๆ ได้เสมอ

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในปัจจุบันที่สนับสนุนราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้น เนื่องจากสหรัฐ ดำเนินนโยบายการคลังที่กระตุ้นมากที่สุดในรอบหลายปี โดย Goldman Sachs ได้เพิ่มการคาดการณ์สิ้นปีสำหรับ S&P 500 ขึ้น 4% เป็น 5,200 โดยอ้างถึงความคาดหวังสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

อ้างอิง coindesk
พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ