‘จีน-ฮ่องกง-ไต้หวัน’ แข่งเดือด ดันวีซ่าฟรี อัดโปรฯแรง ชิงนักท่องเที่ยวไทย!

Key Points

  • ปัจจัยสนับสนุนจากนโยบาย "ไทย-จีน" ยกเว้นวีซ่าระหว่างกันถาวร คือผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ สามารถเดินทางระหว่างกันได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ระยะเวลาพำนักแต่ละครั้งไม่เกิน 30 วัน และรวมระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการเดินทางระหว่างสองประเทศ
  • สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ประเมินว่าปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเยือน "จีน" กว่า 7-8 แสนคน
  • องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้งฝั่ง "ฮ่องกง - ไต้หวัน" ต่างผนึกภาคเอกชน รุกทำตลาดแข่ง อัดโปรโมชันแรง ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวไทย

 

คาดปี 67 คนไทยตบเท้า 'เที่ยวจีน' กว่า 7-8 แสนคน

เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า จากปัจจัยสนับสนุน ไทย-จีน ยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) ระหว่างกัน น่าจะทำให้ภาพรวมตลาด “ไทยเที่ยวจีน” ปี 2567 มีจำนวน 7-8 แสนคน เติบโตจากปี 2562 ซึ่งมีประมาณ 6 แสนคน

สมาคมฯ ประเมินว่าแพ็กเกจทัวร์เที่ยวจีนราคาเกือบ 2 หมื่นบาท สำหรับเดินทาง 5 วัน 4 คืน จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยเฉพาะเส้นทางสู่เฉิงตู และฉงชิ่ง เพื่อไปเยือนจิ่วจ้ายโกว หลังจากประเทศจีนได้ให้ความสำคัญ เร่งพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศ

'แอร์เอเชีย' ลุยเปิดเส้นทางใหม่ ดอนเมือง-ปักกิ่ง

สันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า การลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่าดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่รอคอยอย่างมาก ทำให้คนไทยสามารถบินเข้าประเทศจีนได้แบบไม่ต้องมีวีซ่า เพิ่มความสะดวกและช่วยลดค่าใช้จ่าย เชื่อว่าจะกระตุ้นการเดินทางและเศรษฐกิจท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศได้เป็นอย่างดี

“จีนถือเป็นประเทศที่ครบทั้งประวัติศาสตร์ ความยิ่งใหญ่อลังการของสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ คุ้มค่ากับการไปสัมผัส แหล่งชอปปิงเสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูก และเสน่ห์ของจีนสมัยใหม่ที่มีนวัตกรรมและความทันสมัยสุดชิค”

ทั้งนี้ แอร์เอเชียยังมีเเผนเพิ่มเส้นทางใหม่ อาทิ ดอนเมือง-ปักกิ่ง รวมทั้งความถี่เที่ยวบินเส้นทางไทย-จีนอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันให้บริการสู่ 11 จุดหมายในประเทศจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เซินเจิน เฉิงตู ฉางซา คุนหมิง ฉงชิ่ง ซีอาน หางโจว อู่ฮั่น และซัวเถา สอดรับกับปริมาณการเดินทางที่สูงขึ้น พร้อมชูจุดเด่นบริการบินคุ้มราคาประหยัดเเละมาตรฐานความตรงต่อเวลา

'ฮ่องกง' อัดโปรโมชันแรง ผนึกเอกชนแจกตั๋วบินฟรี

ด้าน พจน์ ศกุนตะลักษณ์ ผู้จัดการการตลาด การท่องเที่ยวฮ่องกงประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2567 จะเป็นอีกปีที่ภาคการท่องเที่ยวของประเทศหรือจุดหมายปลายทางต่างๆ รุมแย่งชิง “นักท่องเที่ยวไทย” กันดุเดือดมาก โดยใช้เทคนิคคล้ายกัน นั่นคือการจัดโปรโมชันแรงๆ เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยว ล่าสุดภาคเอกชนอย่าง “ห้างสรรพสินค้า K11 ฮ่องกง” ได้ร่วมกับสนามบินนานาชาติฮ่องกง ขายแพ็กเกจท่องเที่ยวมัดรวมเป็นเซ็ต (Bundle Deals) ราคาเริ่มต้นประมาณ 8,000 บาท โดยผู้ซื้อแพ็กเกจนี้จะได้รับตั๋วเครื่องบินฟรี สำหรับเดินทางไป-กลับ เส้นทาง กรุงเทพฯ-ฮ่องกง อีกด้วย

“ปี 2567 จึงถือเป็นอีกปีที่การท่องเที่ยวฮ่องกงต้องนำเสนอมุมมองและจุดขายใหม่ๆ ให้โดนใจตลาดคนไทย”

ทั้งการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ควบคู่กับการโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวสายมูและสายอาหาร รวมถึงการสร้างจุดแข็งด้วยการออกแคมเปญใหม่ ราคาดี แรง และโดนใจ! ภายใต้แคมเปญใหญ่ Hello Hongkong” เพื่อต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของนักท่องเที่ยว

“หลังจากรัฐบาล ไทย-จีน ได้ลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างกัน มองว่านักท่องเที่ยวไทยน่าจะสนใจไปเที่ยวจีนมากขึ้น แต่ในอีกแง่หนึ่งเราสามารถผลักดันให้ฮ่องกงเป็นฮับการเดินทางเข้าจีนได้ง่ายขึ้น เพราะมีจุดเชื่อมต่อทั้งทางรถยนต์ รถไฟความเร็วสูง เชื่อมระหว่างฮ่องกงกับเมืองหลักในประเทศจีน สามารถโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงฮ่องกง-จีนได้”

ทั้งนี้ “การท่องเที่ยวฮ่องกง” ตั้งเป้าหมายปี 2567 ดึงนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าฮ่องกง ไม่น้อยกว่า 5 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอันดับ 1 ของตลาดอาเซียนที่ส่งออกนักท่องเที่ยวไปเยือนฮ่องกงสูงสุดคือ ฟิลิปปินส์ จำนวนราว 7 แสนคน รองลงมาอันดับ 2 คือไทย คาดปิดที่จำนวนรวม 4.5 แสนคน หลังจากช่วง 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยสะสม 3.8 แสนคน และเฉพาะเดือน ธ.ค. น่าจะเข้ามาอีกประมาณ 7 หมื่นคน ส่วนอันดับ 3 สิงคโปร์ คาดมีจำนวนรวม 4 แสนคน

อย่างไรก็ตาม จากเป้าหมายตลอดปี 2567 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยไม่น้อยกว่า 5 แสนคนนั้น ยังไม่สามารถแซงสถิติปี 2561 ซึ่งมีคนไทยไปเที่ยวฮ่องกงกว่า 5.7 แสนคน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ แต่ยังถือว่าดีกว่าปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีจำนวน 4.6 แสนคน

 

'ไต้หวัน' อัดแคมเปญชิงคนไทยเที่ยวปี 67

ฟาก โจว หย่ง ฮุย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของไต้หวัน กล่าวว่า สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปี 2566 ไต้หวันได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทุกมุมโลก จากสถิติของ “การท่องเที่ยวไต้หวัน” พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไต้หวันมากกว่า 6 ล้านคน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐ และสิงคโปร์ ตามลำดับ เป็นไปตามเป้าหมายการส่งเสริมผลักดันนโยบายและกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายหลักได้เติบโตต่อเนื่องเช่นกัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค. มีคนไทยเดินทางเข้าไต้หวัน 233,791 ราย สูงขึ้น 1.79% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนโควิด-19

ซินดี้ เฉิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ กล่าวเสริมว่า ในปี 2566 นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของทางการท่องเที่ยวไต้หวัน หลังได้ผลตอบรับดีเกินคาดจากนักท่องเที่ยวไทย จากการผลักดันแคมเปญ All is just right in Taiwan ทุกอย่างใช่ โดนใจที่ไต้หวัน” ซึ่งจากการสำรวจพบว่านักท่องเที่ยวไทยกว่า 70% นิยมเดินทางไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง

สำหรับแลนด์มาร์กที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยมากที่สุด ได้แก่ “ซีเหมินติง” หนึ่งในย่านชอปปิงและตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงของไทเป “ทะเลสาบสุริยันจันทรา” ทะเลสาบน้ำจืดรายล้อมไปด้วยธรรมชาติแสนสวยงามและใหญ่ที่สุดของเกาะไต้หวัน “อาลีซาน” อุทยานแห่งชาติชื่อดังและเป็นขวัญใจของสายท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และ “อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ” สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพงดงามกว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน 

“ในปี 2567 การท่องเที่ยวไต้หวันยังคงมุ่งเน้นและจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์และดึงดูดให้ชาวไทยตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวในไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การประกาศขยายเวลายกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) สำหรับชาวไทย รวมถึง Travel Pass โครงการบัตรโดยสารดิจิตอล 3 in 1 ราคาพิเศษ และการโปรโมตภายใต้แคมเปญ Taiwan The Lucky Land”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...