โรงงานอาหารสัตว์ จี้รัฐบังคับใช้มาตรฐาน GAP ลดข้อหาต้นตอ PM2.5

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agriculture Practice : GAP) สำหรับตอบโจทย์การผลิตพืชอาหารสัตว์ รวมถึงการมีข้อกำหนดห้ามเผาตอซังในแปลงปลูก ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผลผลิตสูงขึ้นและต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงแล้ว ยังเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยลดข้อครหาว่าเป็นสาเหตุของปัญหา PM2.5 ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สมาคมฯ มีนโยบายไม่สนับสนุนการบุกรุกป่า และเผาวัสดุทางการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังดำเนินกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมควบคุมมลพิษ ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในเขต 9 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดจนร่วมกับวิทยาลัยชุมชนน่าน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดทำโครงการสวมหมวกใส่รองเท้าให้ภูเขาหัวโล้น เมื่อปี 2557 และ 2559 ตามลำดับ

 

 

และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ตรวจวัดคาร์บอนในกระบวนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นำร่องที่จังหวัดลพบุรีและชัยนาท คาดว่าจะได้ผลการตรวจวัดออกมาในเดือนมีนาคมนี้ และหลังจากได้ผลตรวจวัดแล้วจะต้องหากระบวนการลดการปล่อยคาร์บอนให้ต่ำที่สุด

ขณะเดียวกัน สมาคมฯ ได้ขอความร่วมมือจากสมาชิก ให้ดำเนินนโยบายจัดซื้อเพื่อความยั่งยืนในธุรกิจอาหารสัตว์ 3 ข้อ ได้แก่ 1.) ไม่สนับสนุนการลักลอบนำเข้า

2.) รับซื้อผลผลิตที่มีแหล่งที่มาถูกต้อง

และ 3.) ไม่รับซื้อผลผลิตที่มาจากแหล่งที่มีการเผาตอซัง

รวมถึง ขอให้สมาชิกวางโครงสร้างการพัฒนาวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยจะต้องกำหนดนโยบาย เตรียมการลงทุน จัดหาเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้ได้มาตรฐานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emission)

ปัจจุบัน สมาชิกหลายรายดำเนินการจัดทำ “ระบบตรวจสอบย้อนกลับการจัดหาวัตถุดิบ” และประกาศนโยบาย “ไม่รับและไม่นำเข้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากพื้นที่รุกป่า และพื้นที่ที่มาจากการเผา” เรียบร้อยแล้ว อาทิ เครือซีพี เครือเบทาโกร และ คาร์กิล มีทส์ (ไทยแลนด์)

อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้จะดำเนินการเพียงประเทศไทยฝั่งเดียวไม่ได้ ต้องครอบคลุมถึง การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่จะต้องปฏิบัติในเกณฑ์มาตรฐานเดียวกัน กล่าวคือ ต้องแสดงแหล่งที่มาของผลผลิตได้ ซึ่งจะต้องร่วมกันหาวิธีส่งเสริมให้ประเทศเพื่อนบ้านหยุดการเผาเพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยสมาคมฯและสมาชิกยินดีสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่

“ข้อมูลจาก GISTDA เมื่อวันก่อนระบุว่า จุดความร้อนของไทยอยู่ที่ 130 จุด แต่ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่กัมพูชา 2,456 จุด และในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะมาเยือนประเทศไทย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ จึงอยากขอฝากรัฐบาลไทย หยิบยกประเด็นแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนขึ้นมาหารือเพื่อกำหนดทางออกร่วมกันในส่วนการตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพด แม้ปัญหาหลักในกัมพูชาจะเกิดจากการเผาในนาข้าวก็ตาม” นายพรศิลป์กล่าว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...