‘เศรษฐา’ สั่งเยียวยา – ชดเชย ผู้ได้รับผลกระทบจาก ‘แลนด์บริดจ์’

วันนี้ (23 ม.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ให้สัมภาษณ์ที่ หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการ จ.ระนอง หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ครั้งที่ 1/2567 ว่า ได้ลงพื้นที่ท่าเรือที่จะมีการก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ จ.ระนอง ที่จะมีการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และมีผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมระดับหนึ่ง ได้พบปะรับฟังกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการ เพื่อรับไปดำเนินการต่อไป

นายชัย วัชรรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลจะเดินหน้าเชิญชวนนักลงทุนทั่วโลกต่อไป หลังจากนายกรัฐมนตรีได้มีการโรดโชว์ เชิญชวนนักลงทุนไปแล้ว 3 เวที คือ APEC และประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งในเวทีการประชุม เวิร์ลอีโคโนมิคส์ฟอรั่ม หรือ WEF ที่ดาวอส สวิสเซอร์แลนด์

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์อยู่ในชั้นตอนนำเสนอข้อมูลที่มีการศึกษาไว้แล้วให้กับนักลงทุนและทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย โดยรัฐบาลมีแผนการเชิญชวนผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ทั้งด้านการบริหารท่าเรือ การบริหารระบบโลจิสติกส์ มาร่วมลงทุน

“การศึกษาวิจัยของรัฐบาลในโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งถือว่าเป็นทำเลทองการขนส่งทางทะเล ซึ่งผู้สนใจลงทุน จะตองได้เองว่าลงทุนแล้วคุ้ม หรือไม่คุ้ม ไม่ใช่ว่าเราจะแถลงแทนเอง”

นายชัย กล่าวด้วยว่า ในส่วนของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะกระเทือนต่อพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A ก็จะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม ศึกษาไว้แล้วระดับหนึ่ง เห็นว่าเป็นโครงการที่สามารถใช้ได้เลย แต่เมื่อถึงเวลาที่รัฐบาลจะดำเนินการจริง ต้องศึกษาเชิงลึกด้านสิ่งแวดล้อม

“นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายว่า โครงการแลนด์บริดจ์  แม้มีประโยชน์มหาศาลด้านเศรษฐกิจ แต่หากกระทบใดๆ กับประชาชน แม้แต่เป็นเพียงกลุ่มน้อย ต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ต้องชดเชยให้มากพอ ไม่ให้เกิดความเสียหายกับประชาชน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

โฆษกประจำสำนีกนายกรัฐมนตรี ยังได้ตอบคำถามถึงตัวเลขต่าง ๆ ที่หลายฝ่ายมีข้อสงสัยว่า  ขณะนี้มีข้อมูล ตัวเลขที่มากพอสำหรับนักลงทุนนำไปใช้ในการตัดสินใจ ซึ่งมีหลายสิบบริษัท ที่เข้ารับฟังข้อมูลการโรดโชว์ เชิญชวนนักลงทุน ยังไม่เคยเห็นว่ามีนักลงทุนส่วนใด ที่จะพูดว่าข้อมูลไม่มากพอ

“สื่อมวลชน ทั้งในสหรัฐอเมริกา และยุโรป ไม่มีสื่อที่ไหนวิจารณ์ว่ารัฐบาลไทย ไม่มีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอ หรือให้มีการพิจารณาเพิ่มเติม โดย 1 ในบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่สนใจลงทุน  และจะลงพื้นที่ก่อสร้าง คือ บริษัทดูไบเวิร์ล”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ