การบ้านช้างศึกจูเนียร์

การบ้านช้างศึกจูเนียร์

ภายหลังทัพช้างศึกจูเนียร์อกหัก ชวดเข้าชิงในรายการชิงแชมป์อาเซียน 2023 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้แฟนลูกหนังออกมาสะท้อนมุมมองเพื่อส่งสัญญาณให้สมาคมลูกหนังต้องทำการบ้านอย่างเร่งด่วน

เมื่อกล่าวถึงผลงานของนักเตะชุดนี้ ถึงแม้จะล้างอายด้วยการคว้าตำแหน่งที่ 3 มาได้ก็ตาม แต่หากเจาะลึกลงไปในศักยภาพและโอกาสที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้าดังที่แฟนบอลคาดหวัง พบว่ายังมีจุดอ่อนที่จะต้องปรับจูนและถอดบทเรียนกันพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ผลจากการที่นักเตะไม่สามารถก้าวไปสู่เป้าหมาย หรือยืนหนึ่งในย่านอาเซียนในครั้งนี้ ได้ถ้าจะส่องหรือวิเคราะห์ลงไปในรายละเอียดหรือแก่นแท้ของเหตุและผลตลอดจนปัญหาต่างๆ เชื่อว่าทุกภาคส่วนโดยเฉพาะสมาคมกีฬาลูกหนัง คงจะรู้ตื้นลึกหนาบางเป็นอย่างดี

หนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่เกาะติดกับทัพช้างศึกทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง คือการที่ไม่สามารถผนึกพลังนักเตะชั้นแนวหน้าเข้าสู่ทีมได้อย่างครบครัน

ต่อกรณีนี้ปัญหาหรือปมหลักคงสืบเนื่องมาจากการจัดการแข่งขันภายในหรือบอลลีกที่เป็นหนึ่งในกำแพงขวางกั้น และส่งผลให้ทุกสโมสรไม่อาจจะปล่อยตัวนักเตะตัวหลักไปรับใช้ชาติได้

ในมิติของบอลลีก หากมองในมุมของคนดูบอลและหวังผลต่อชื่อเสียงของประเทศ คงจะมีคำถามย้อนกลับมาว่า ระหว่างชาติกับสโมสร สิ่งไหนจะสำคัญกว่ากัน

แต่ในทางกลับกัน หากเอาใจเขามาใส่ใจเรา ดังที่ทราบกันดีว่าฟุตบอลอาชีพเป็นเรื่องของธุรกิจและผลประโยชน์ ดังนั้นเมื่อทุกสโมสรต่างทุ่มเทและลงทุนลงแรงภายใต้เม็ดเงินที่สูงเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ แน่นอนผลประโยชน์ของสโมสรย่อมเหนือกว่าอื่นใด

มาถึงตรงนี้ หากจะถามว่าเมื่อทีมชาติประสบกับปัญหาและยังไม่สามารถสะสางได้ สมาคมกีฬาลูกหนังในฐานะเจ้าภาพหรือผู้รับผิดชอบ จะปรับกลยุทธ์และกำหนดแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาและยกระดับทีมชาติให้บรรลุเป้าประสงค์ได้อย่างไร

การที่ผลงานออกมาไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย และไม่ตอบโจทย์หากมองในมุมของการบริหารจัดการ แน่นอนสภากรรมการภายใต้การนำของหัวเรือใหญ่อย่างนายกสมาคม คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบและไม่อาจจะปฏิเสธได้

การปรับกระบวนทัศน์ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อนำไปสู่ทิศทางอนาคตที่ดีกว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้บริหารตลอดจนสภากรรมการพึงกระทำ ที่น่าสนใจเมื่อกล่าวถึงการเตรียมการพัฒนาและยกระดับทีมช้างศึกของสมาคมฟุตบอลในวันนี้ จะเห็นได้ว่ารูปแบบและแนวทางของแต่ละชุดยังไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากนัก

ซึ่งจากการเตรียมการ หากสังเกตในรายละเอียดปลีกย่อยดูเหมือนว่าจะมีเส้นบางๆ หรือ "ความเหลื่อมล้ำ" เล็กๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่บ้าง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญและความทุ่มเทระหว่างทีมชุดใหญ่และชุดเล็กเล็ก

เค้าลางของความเหลื่อมล้ำที่ว่าอาจจะดูได้จากการที่บรรดานายใหญ่จากสโมสรดังในไทยลีก ร่วมกระชับวงล้อมปันความคิดหาทางออกสำหรับเตรียมการของทัพช้างศึกชุดใหญ่ ที่มีคิวรอโม่แข้งในรายการคิงส์คัพที่เชียงใหม่ และบอลโลกรอบคัดเลือกช่วงปลายปีนี้

ขณะที่ช้างศึกจูเนียร์ซึ่งมีโปรแกรมในการจะเข้าสู่สมรภูมิการดวลแข้งในเกมลูกหนังระดับเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ รวมทั้งเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 ก็ดี วันนี้สังคมยังไม่เห็นผู้เกี่ยวข้องออกมาแจงให้เห็นถึงการเตรียมการอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก

เมื่อกล่าวถึงผู้มีบทบาทกับทีมช้างศึกจูเนียร์ นับตั้งแต่ซีเกมส์หรือกัมพูชาเกมส์ที่ผ่านมา จวบจนชิงแชมป์อาเชียน 2023 ที่เพิ่งจบลง หากส่องลงไปจะเห็นได้ว่ามีก็แต่เพียง คุณยุทธนา หยิมการุณ ในฐานะอุปนายกสมาคมฯ เท่านั้น ที่ออกมารับหน้าเสื่ออยู่อย่างโดดเดี่ยว

ด้านกุนซือใหญ่ของทีมอย่าง "โค้ชหระ" อิสสระ ศรีทะโร กับการเข้ามากุมบังเหียนช้างศึก U23 หากจะพิจารณาถึงผลงานสำหรับ 2 ทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นซีเกมส์หรืออาเชียน 2023 พบว่าผลงานยังไม่เข้าเป้าหรือตอบโจทย์อย่างที่ทุกภาคส่วนคาดหวัง

ด้วยสภาวการณ์ดังกล่าวเมื่อทีมไม่ประสบความสำเร็จ ครั้นจะปล่อยให้โค้ชและทีมงานต้องตกเป็นแพะ และรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวก็คงจะไม่เหมาะนัก 

แต่ถ้าสมาคมเห็นว่าศึกใหญ่ที่รออยู่อีก 2 รายการ มีความสำคัญต่อชื่อเสียงของประเทศและความสุขของคนในชาติ สมาคมต้องเร่งสร้างทีมให้แข็งแกร่งภายใต้ขุมกำลังหรือนักเตะที่ดีที่สุด พอที่จะต่อกรกับนักเตะต่างชาติ

และหากเป็นไปได้การ "เปลี่ยนม้ากลางศึก" ด้วยการดึงศักยภาพของโค้ชที่มีฝีมืออย่าง มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตกุนซือปราสาทสายฟ้าบุรีรัมย์ ซึ่งตอนนี้ถูกดึงให้มาทำหน้าที่ประธานพัฒนาเทคนิคช้างศึกชุดใหญ่ มารับหน้าที่เพื่อกรุยทางไปสู่เฮดโค้ชทีมขาติไทยในอนาคต พร้อมกับผนวกเอา "โค้ชหระ" และทีมงานเข้ามาเป็นผู้ช่วย ก็จะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพียงแต่ว่าผู้มีอำนาจจะสนใจและกล้าในการตัดสินใจหรือไม่เท่านั้นเอง

บทสรุปที่สำคัญสำหรับการบ้านที่จะพัฒนาให้ช้างศึกจูเนียร์เป็นความหวังของวงการลูกหนังไทยในอนาคตได้อย่างแท้จริง ก็คงจะอยู่ที่ความกล้าหาญในการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ ว่าพร้อมที่จะยกเครื่องและผ่าตัดหรือไม่อย่างไร 

แต่ตราบใดก็ตาม ถ้าสมาคมกีฬาลูกหนังยังปล่อยให้ทีมช้างศึกไม่ว่าชุดใหญ่หรือชุดเล็กต้องเผชิญ และเวียนว่ายตายเกิดอยู่ภายใต้วังวนหรือหลุมดำที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้

ต่อให้ช้างศึกไทยมีโค้ชยอดฝีมือระดับโลกมารับหน้าเสื่อ ก็คงจะยากที่จะเข็นขึ้น

แต่เหนืออื่นใด หากทุกภาคส่วนผนึกพลังร่วมภายใต้ความมุ่งมั่นและทุ่มเทในทุกสรรพสิ่งอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ผลกลับพบว่าไม่เป็นดังหวัง ก็เชื่อว่าแฟนบอลทั่วประเทศคงจะพอรับได้

รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

OOOOOOOO

สิ่งที่เห็นและเป็นไปในการบริหารงานสมาคมฯ จากวันนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า

ดูแล้วคงถูกปล่อยให้ "เกียร์ว่าง" ค่อนข้างแน่แล้วครับ 

ทีมชาติชุด ยู 23 น่าห่วงมากที่สุด 

ขืนไม่มีใครลงมาล้วงลูก ดูแลจัดการทีมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่านี้ 

โอกาสลุ้นตั๋วไปลุยโอลิมปิกเกมส์ที่ฝรั่งเศส

ก็ได้แค่ฝันลมๆ แล้งๆ กันต่อไป...เหมือนเดิม!!! 

- บี บางปะกง - 
[email protected]

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

อเมริกันดราม่า! กองเชียร์จี้ไบเดนลาออก เปิดทาง ‘ประธานาธิบดีแฮร์ริส’ สู่ทำเนียบขาว

เว็บไซต์ Times Now รายงานว่า แม้แฮร์ริสจะยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้วและขอให้ผู้สนับสนุน “สู้ต่อไป” แต่บร...

อีลอน มัสก์ หนุนทรัมป์แทรกแซง 'เฟด' ชูประเด็น #EndtheFed ให้ปธน.คุมแบงก์ชาติ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลาและสเปซเอ็กซ์ และเป็นเจ้าของแ...

การกลับมาของวัฒนธรรม Gothic ทางเลือกของ Gen Z ท่ามกลางป๊อปคัลเจอร์

วัฒนธรรมกอธิค หรือโกธิคที่มีรากฐานมาจาก Dark Romantic ความเข้มข้นทางอารมณ์ และการแสดงออกถึงตัวตนที่แ...

คาด 'วันคนโสดจีน' 11.11 ปีนี้ ยอดขายดีขึ้น แต่แบรนด์เนมหรูยังฟื้นยาก

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เทศกาลวันคนโสด 11.11 ซึ่งเป็นเทศกาลชอปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีของจีน แล...