UN เผยรายงานการใช้คริปโทผิดกฎหมาย พบมากสุดในคาสิโนสีเทา แถบลุ่มน้ำโขง

รายงานที่เผยแพร่โดยสำนักงานสหประชาชาติ ว่าด้วยเริ่องยาเสพติดและอาชญากรรมได้เตือนว่า มีการใช้สกุลเงินดิจิทัลในทางที่ผิดในประเทศกำลังพัฒนาในฝั่งเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่คริปโทกำลังถูกรวมเข้ากับนวัตกรรมเทคโนโลยีล่าสุด เนื่องจากองค์กรอาชญากรรมสร้างความท้าทายใหม่ที่ซับซ้อนสำหรับการบังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนผิดกฎหมายและ romance scams มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตามรายงานระบุ

“ความก้าวหน้าล่าสุดของแชทบอท AI , เทคโนโลยี Deepfake , และระบบ automation ได้ก่อให้เกิดแผนการฉ้อโกงทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนและสร้างความเสียหายมากขึ้น รวมถึงก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญต่อบุคคลและอุตสาหกรรมการธนาคารที่เป็นทางการ”

อีกเทคนิคหนึ่งที่อาชญากรใช้คือการค้นหา “การพนันที่ผิดกฎหมาย” และการหลอกลวงในเขตเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธอิสระ โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเฉพาะทางได้เกิดขึ้นรอบๆ คาสิโน ซึ่งผู้ให้บริการมีการแอบทำมากกว่าแค่การจัดหาการเดินทางและที่พัก

“ผู้ประกอบการเหล่านี้มีการทำหน้าที่เป็นหน่วยงานที่เหมือนธนาคารระหว่างประเทศ โดยให้บริการทางการเงินใต้ดินที่หลากหลาย รวมถึงการออกเครดิต , การแลกเปลี่ยนสกุลเงินและการชำระเงินและการชำระหนี้หลายสกุลเงิน , การโอนเงิน , และกลไกการติดตามหนี้นอกระบบที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์โดยกลุ่มอาชญากร”

รายงานระบุว่าการใช้ Tether บนบล็อกเชนของ Tron ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาผู้ไม่หวังดีทางการเงินในภูมิภาคนี้ เนื่องจากความเสถียร , ใช้งานง่าย , ไม่เปิดเผยตัวตนและค่าธรรมเนียมต่ำ

เว็บเทรดคริปโทในท้องถิ่น อาจมีส่วนร่วมในการฟอกเงินเช่นกันผ่าน “ช่องว่างขนาดใหญ่ในการระบุแหล่งที่มาของอาชญากรรมบน blockchain , ความแพร่หลายของ wash trading ซึ่งทำให้ปริมาณธุรกรรม คริปโทสูงขึ้น”

รายงานดังกล่าว มีการทำข้อเสนอแนะจำนวนมากเพื่อปรับปรุงความตระหนักรู้และนโยบายในการต่อสู้กับความไร้กฎหมายทางการเงินของภูมิภาคนี้

อ้างอิง cointelegraph

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ