‘ซีพี แอ็กซ์ตร้า’ เล็งผุดสาขาไฮบริด ครึ่งปีหลังดึงค้าส่งค้าปลีกไว้ด้วยกัน

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ค้าปลีกไทยรายใหญ่ ที่มีธุรกิจในเครือทั้ง ห้างค้าส่ง แม็คโคร และ ห้างค้าปลีก โลตัส โดยได้ประกาศแผนธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2566 จะเดินหน้ารุกขยายสาขาใหม่ ในหลากหลายรูปแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะมีการเปิดสาขาขนาดใหญ่ 8-10 สาขา สาขาขนาดกลางและขนาดเล็กกว่า 70-80 สาขา

พร้อมมีไฮไลท์กับแผนนำเสนอสาขาในรูปแบบใหม่ อาทิ รูปแบบผสมผสาน (Hybrid Model) วางกลยุทธ์นำจุดเด่นของ 2 กลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีกแบบไร้รอยต่อ ทั้งบริการจัดการพื้นที่ศูนย์การค้าและอาหารสด การเลือกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่มีราคาที่ดึงดูดเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมมีไฮเปอร์มาร์เก็ตขายส่ง (Wholesale Hypermarket) ชูการขายสินค้าราคาประหยัด สะดวกและสะอาด รวมถึงร้านค้าอัจฉริยะ (Smart Store) เพื่อสร้างความแตกต่าง และทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่เลือกซื้อสินค้าแบบสมาร์ท

อีกสิ่งที่ดำเนินการคือ มุ่งปรับปรุงพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาเดิมทั่วประเทศ สู่การเป็น “ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัยในชุมชน (SMART Community Center)” ตั้งแต่การออกแบบให้แต่ละสาขามีสินค้าและบริการ การนำเสนอร้านค้าเช่าที่แตกต่างกันไปตามความต้องการและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้าในแต่ละพื้นที่มากสุด

พร้อมกันนี้ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อร่วมที่ส่งเสริมการเป็น SMART Community Center ร่วมขยายกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าใช้บริการและใช้จ่ายมากขึ้น ทั้งหมด เพื่อร่วมผลักดันรายได้ค่าเช่าและรายได้จากการให้บริการศูนย์การค้า ที่จะส่งผลดีต่อรายได้รวมของบริษัท

 

อีกแนวทางเสริมรายได้กับการขายออนไลน์และขายนอกร้าน (Omni Channel) อย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุนพัฒนาระบบออนไลน์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงจะมีรูปแบบทำตลาด อาทิ การนำเสนอสินค้าและจัดโปรโมชันแบบเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น (Hyper-Personalization) รวมถึงจัดทัพเถ้าแก่ขาย (Salesforce Team) เพื่อสนับสนุนการเติบโตของโชห่วย (Food Retailer) และธุรกิจร้านอาหาร โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วน Omni Channel เป็น 15-20% ของยอดขายรวมภายในปี 2567

หากไปสำรวจผลประกอบการของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา “นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์" ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร และ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า รายงานว่า ผลการดำเนินงานของ บริษัทและบริษัทย่อยในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา มีรายได้รวม 121,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจค้าส่ง มีรายได้เพิ่มขึ้น 7.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากยอดขายภายในสาขา และการขายออนไลน์และการขายนอกร้านของธุรกิจแม็คโครประเทศไทย รวมถึงการเติบโตของธุรกิจ แม็คโครต่างประเทศในทุกประเทศ

อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ลดลง 3.3% จาก ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับแผนดำเนินงาน การลดชั่วโมงการให้บริการในบางสาขา

ขณะที่ภาพรวมกำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาสสองอยู่ที่ 1,516 ล้านบาท ลดลง 3.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...