แม้ตัวจะอยู่ไกล แต่หัวใจยังเป็นคนไทยเสมอ “ฮัมดี” ผู้ดูแล “ทีมชาติไทย” ใน “เอเชียน คัพ 2023”

พูดคุยกับ “ฮัมดี” ทีมงานของ เอเชียน คัพ 2023 ที่จะคอยดูแล ทีมชาติไทย ตลอดทั้งการแข่งขัน

วันที่ 14 มกราคม 2567 แฟนเพจเฟซบุ๊ก “ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย” ได้ปล่อยบทสัมภาษณ์ของ มูฮัมหมัดอิลฮัมดี ปะดอ หรือ “ฮัมดี” ชายชาวยะลาวัย 26 ปีที่มีโอกาสเข้าร่วมทำงานกับฝ่ายผู้จัดของ เอเชียน คัพ 2023 และถูกมอบหมายให้เป็นผู้ดูแล หรือที่กาตาร์เรียกว่า เลซอง (Team Liaison Officer) ให้กับ ทัพช้างศึก ตลอดการแข่งขันในครั้งนี้

เขาเริ่มด้วยการเล่าประวัติสั้นๆ ว่าเข้ามารับหน้าที่ในครั้งนี้ได้อย่างไร

"ฮัมดี คือชื่อเล่นของผม ปีนี้อายุ 26 ปีแล้วครับ ผมจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี สาขาวิชาภาษาอาหรับ ซึ่งกำลังจะจบปริญญาโทในเดือนพฤษภาคมนี้”

"ผมมาเรียนต่อที่กาตาร์ เมื่อปี 2021 ครับ แต่จบปริญญาใบแรกเมื่อปี 2019 จากนั้นเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ เป็นผู้ประสานงาน ยังไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับฟุตบอล"

"ผมเริ่มคลุกคลีกับการทำงานด้านฟุตบอล ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ตอนนั้นทำงานเป็นพาร์ทไทม์ ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในทีมต้อนรับแขก VVIP เช่น จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) พอจบทัวร์นาเมนต์นั้นก็กลับไปเรียนต่อ"

"ปกติเป็นคนที่ชอบกีฬาฟุตบอลอยู่แล้วครับ แต่พอได้มาทำงานด้านการประสานงาน มันทำให้เรารู้ว่าวิธีการ, ระบบต่าง ๆ ของการจัดอีเวนท์ฟุตบอลเป็นอย่างไร การได้ทำงานในทัวร์นาเมนต์ระดับฟุตบอลโลกมันคือที่สุดแล้ว ทำให้ผมได้เรียนรู้และมีทัศนคติด้านการทำงานกับผู้คนมากยิ่งขึ้น"

ต่อมา ฮัมดี ได้เปิดเผยความรู้สึกที่ได้สัมผัสประสบการณ์ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์

"ผมเชียร์ทีมชาติอาร์เจนตินานะ เชียร์มาตั้งแต่แรก (ยิ้ม) รู้สึกดีใจครับ พี่รู้ไหม? ทีมชาติอาร์เจนตินามาอยู่แคมป์เก็บตัวที่หอพักมหาวิทยาลัยกาตาร์ (Qatar University) หอพักที่ผมอาศัยอยู่ แต่ตอนนั้นผมต้องย้ายออกมานะ เพื่อให้ทีมอาร์เจนตินามาอยู่"⁣
⁣
"ที่นั่นจัดเตรียมได้อย่างสวยงาม สถานที่และทางเข้ามีแต่รูปนักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นนักเตะระดับโลก นี่เป็นการต้อนรับจากชาติเจ้าภาพอย่างกาตาร์"⁣
⁣
"ความรู้สึกของผมตอนนั้นแบบว่า เห้ย! โอกาสมันมาอยู่กับเราโดยไม่รู้ตัวจริง ๆ ผมมาใช้ชีวิตที่กาตาร์โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ มาคลุกคลีกับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง เวลาผมไปดูแมตช์ต่าง ๆ ในศึกฟุตบอลโลก พี่เชื่อไหม? โทรศัพท์ผมมีแต่คลิปที่ผมซูมถ่ายนักฟุตบอลดัง ๆ เอาไว้ (หัวเราะ)"⁣

ประสบการณ์ใน ฟุตบอลโลก 2022 เป็นตัวจุดประกายให้แก่ ฮัมดี ในการสานต่องานในแวดวงผู้จัดการแข่งขันกีฬา

"พอจบทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 ผมจึงหาโอกาสให้ตัวเองอีกครั้งในศึกเอเชียน คัพ 2023 ตอนนั้นผมตั้งใจกับตัวเองไว้ว่าอยากเข้ามาดูแลและเป็นผู้ประสานงานให้ทีมชาติไทย"⁣
⁣
"ช่วงนั้นผมไม่รู้ข้อมูลว่าทางฝ่ายจัดการแข่งขัน (เอเชียน คัพ 2023) จะเปิดรับสมัครเมื่อไหร่ แต่ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มประมาณหนึ่งเดือน ผมได้รับสายจากสถานเอกอัครราชทูตโดฮา เขาบอกว่ามีตำแหน่งว่าง กำลังหาผู้ประสานงานมาดูแลทีมชาติไทย"⁣
⁣
"ผมตอบรับไว้ก่อนเลย (ยิ้ม) ไม่สนใจว่าจะได้ทำงานร่วมกับทีมไหน ผมสามารถดูแลทีมที่ใช้ภาษาอาหรับ, ภาษามาเลเซีย (เคยเรียนที่มาเลเซีย ก่อนเรียนปริญญาตรี), ภาษาอังกฤษ และแน่นอนว่าผมพูดภาษาไทยได้ พูดง่าย ๆ ว่าจะให้ผมดูแลทีมไหนก็ได้ทั้งหมด ณ ตอนนั้น"⁣
⁣
"ผมจึงไปสอบสัมภาษณ์ (สัมภาษณ์เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติสำหรับปฏิบัติงาน) กับฝ่ายจัดการแข่งขัน เขาถามถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ว่าเราเหมาะสมหรือไม่ในการดูแลทีมต่าง ๆ แต่ไม่ได้ถามความต้องการว่าอยากดูแลทีมไหนหรือเปล่า? "⁣
⁣
"ช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ผมถามไปว่า 'ถ้าเป็นไปได้ผมขอดูแลทีมชาติไทยได้ไหม?' ผมมั่นใจว่าจะทำหน้าที่ดูแลทีมได้ อีกอย่างจะทำให้ผมได้คลุกคลีกับคนไทยด้วยกัน ซึ่งจะเป็นเรื่องง่ายในความเข้าใจ, ความต้องการ, วัฒนธรรม และการสื่อสาร มันจะไม่มีปัญหาด้านภาษา"⁣
⁣
"หน้าที่ของผมมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Team Liaison Officer (เลซอง) เป็นผู้ประสานงานและเป็นตัวแทนของฝ่ายจัดการแข่งขันเอเชียน คัพ 2023 ที่ดูแลทีมชาติไทยโดยเฉพาะตลอดทัวร์นาเมนต์ ทีมชาติไทยต้องการอะไรบอกผมได้เลย ผมพร้อมดำเนินการช่วยเหลือในทุกเรื่อง"

ความภูมิใจในฐานะคนไทยคนหนึ่ง

"ติดตามทีมชาติไทยอยู่ตลอดครับ ผมรู้จักนักฟุตบอลทุกคน แต่อาจจะไม่รู้จักชื่อเล่นครบทุกคน ชื่นชอบทุก ๆ คนอยู่แล้ว แต่คนที่ชื่นชอบเป็นพิเศษคือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ น่าเสียดายที่พี่เจเจ็บจึงไม่ได้มาร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ ผมเชื่อว่านักกีฬาทุกคนที่อยู่ที่นี่จะทำผลงานได้ดี"⁣
⁣
"พี่เชื่อไหมครับ? ผมตื่นเต้นตั้งแต่รู้ว่าทีมชาติไทยกำลังจะมาถึงกาตาร์ใน 1-2 วันแล้ว ตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้ทำงานร่วมกับทีมชาติไทย ผมไปรอต้อนรับตั้งแต่ทีมลงจากเครื่องบินเลย มันตื้นตันหัวใจ ผมก็เป็นแฟนบอลทีมชาติไทยคนหนึ่ง"⁣
⁣
"วันแรก ๆ ที่มาถึง ผมเข้าไปทักทาย ศุภชัย ใจเด็ด เพราะรู้ว่าเขาเป็นคนปัตตานี เราได้คุยกันในภาษาบ้านเกิด ผมเข้าไปทักเขาด้วยภาษาไทยก่อน แต่รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก ๆ ที่เขาตอบกลับมาด้วยภาษามลายู ภาษาของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราคุยกันนิดหน่อยแต่มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านจริง ๆ ผมอบอุ่นหัวใจมาก ๆ"⁣
⁣
"ได้อยู่ดูแลทีมชาติไทย ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน ได้กินอาหารไทย ได้อยู่กับครอบครัว ผมก็อยากให้ครอบครัว (ทีมชาติไทย) ได้สิ่งที่ดีที่สุด ผมรู้สึกภูมิใจมาก เพราะรู้สึกว่าตัวเองก็ได้รับใช้ชาติเช่นกัน"⁣
⁣
"เพื่อนของผมที่ทำงานในตำแหน่งเดียวกัน เขารู้สึกอิจฉาที่ผมได้ทำหน้าที่ดูแลทีมชาติของตัวเอง มันเหมือนกับว่าผมได้ต่อสู้ไปกับทีมด้วยเช่นกัน"⁣

ฮัมดี ทิ้งท้ายด้วยการรับประกันว่า เขาจะดูแลทีมชาติไทยให้สุดฝีมือ

"อย่างน้อย ๆ ผมคิดว่าหน้าที่ของผมจะช่วยทีมชาติไทยได้ ช่วยทุกเรื่องทั้งในและนอกสนาม ผมจะตั้งใจทำงาน ทำให้ทีมไม่ต้องกังวลเรื่องนอกสนาม โฟกัสผลงานในสนามไปได้เลย การที่พวกเราอยู่ด้วยกัน มันทำให้ผมรู้สึกว่าเหมือนได้อยู่กับครอบครัว"⁣
⁣
"หลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่ว่าผลงานของทีมชาติไทยจะเป็นอย่างไรก็ตาม ผมจะต้องจบหน้าที่นี้ลง ก็อาจจะหางานทำต่อที่นี่ หรือกลับไปมาเลเซียเพื่ออยู่กับภรรยา หรือกลับยะลาบ้านเกิด หวังว่าในอนาคตจะได้ทำงานและดูแลทีมชาติไทยอีก"⁣
⁣
"ประเทศกาตาร์เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว ปัญหาอาชญากรรมมีน้อยมาก เราใช้ชีวิตประจำวันได้สบาย ๆ ยิ่งทัวร์นาเมนต์ใหญ่แบบนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันเข้มงวดมากเรื่องความปลอดภัย"⁣
⁣
"แฟนบอลไทยไม่ต้องกังวลใจใด ๆ ทั้งสิ้น ทีมชาติไทยอยู่ที่นี่จะต้องมีความสุข เพราะผมจะดูแลทีมอย่างดีที่สุด ผมจะสนับสนุนทีมตลอดไม่ว่าช่วงไหนก็ตาม เพราะพวกเราคือทีมชาติไทย อยากไปกับทีมให้ไกลที่สุดในเอเชียน คัพ"

ขอบคุณบทสัมภาษณ์จากแฟนเพจ "ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย"