'พีระพันธุ์' หลงประเด็นราคาหน้าโรงกลั่น หลังประกาศใช้น้ำมันมาตรฐาน EURO 5

จากกรณีที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไย (ส.อ.ท.) ทำหนังสือลงวันที่ 28 ธ.ค.2566 ส่งหนังสือถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อขอให้กระทรวงพลังงานมีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน หลังกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันต้องลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานน้ำมันยูโร4 ให้เป็นยูโร 5 โดยปรับลดกำมะถันจากไม่สูงกว่า 50 เป็นไม่สูงกว่า 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยให้มีผลในวันที่ 1 ม.ค.2567 ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ลดฝุ่น PM2.5

ล่าสุด นายพีระพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ลดค่าไฟ/ลดดีเซลมาหลายเดือนแล้วและต่ออีกสี่เดือน สภาอุตสาหกรรมมีมาตรการในการลดราคาสินค้าให้ประชาชนอย่างไรบ้างครับ"

รายงานข่าวระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลผลักดันนโยบายลดราคาพลังงาน แบ่งเป็น 3 ส่วน 

1.ลดค่าไฟฟ้า รวม 2 งวด ใช้วงเงิน 55,600 ล้านบาท สำหรับงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.2566 และงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2567 โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) รวมทั้งให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ลดค่าก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า และใช้งบประมาณกลางเพื่ออุดหนุนค่าไฟฟ้าให้ผู้มีรายได้น้อย

2.การตรึงราคาน้ำมันดีเซล ใช้วงเงิน 30,000 ล้านบาท โดยการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.-31 ธ.ค.2566 

3.ลดราคาเบนซิน ใช้วงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุน ตั้งแต่ 7 พ.ย.2566-31 ม.ค.2567

4.รักษาระดับราคาขายปลีกก๊าซ LPG เพื่อไม่ให้เกิน 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม โดยใช้เงินอุดหนุนตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.-17 ธ.ค.2566 ที่ 1,372 ล้านบาท 

ในขณะที่นโยบายการปรับมาตรฐานน้ำมันยูโร 5 เป็นไปตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ลดฝุ่น PM2.5 ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาได้ผลักดันและโรงกลั่นน้ำมันต้องลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตรวม 50,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้ ส.อ.ท.ยื่นข้อเสนอให้กระทรวงพลังงานปรับเกณฑ์การคำนวณราคาหน้าโรงงานกลั่น

ทั้งนี้ รวมทั้งคณะรัฐมนตรีมี (ครม.) เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)" เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2562 และได้กำหนดยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ และดีเซลหมุนเร็วจากระดับยูโร 4 ให้เป็นยูโร 5 โดยปรับลดกำมะถันจากไม่สูงกว่า 50 เป็นไม่สูงกว่า 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยให้มีผลในวันที่ 1 ม.ค. 2567

สำหรับข้อเสนอของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท.ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการบังดับใช้มาตรฐานน้ำมันยูโร 5 โดยลงทุนปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิต ซึ่งใช้เงินลงทุนรวม 50,000 ล้านบาท และเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 4 ปีนับตั้งแต่วันที่ประกาศ โดยมีต้นทุนและต่ำใช้จ่ายในการผลิตที่สูงกว่าการผลิตมาตรฐานน้ำมันยูโร 4 ในปัจจุบัน ประกอบด้วย

1.การลงทุนและการปรับปรุงระบบการกลั่น 

2.การปรับชนิดของน้ำมันดิบเป็นชนิดกำมะถันต่ำเพื่อเข้าสู่กระบวนการกลั่น 

ดังนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่น ตามเงื่อนไขและกลไกตลาด และขอความอนุเคราะห์ให้พิจารณาปรับราคาน้ำมันที่สะท้อนตามมาตรฐานและคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับตลาดน้ำมันในภูมิภาคที่เชื่อมโยงกับตลาดโลกต่อไป

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...