วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตางาน Jakson Hole Symposium

 

Event สำคัญวันนี้ คือ

1. การเริ่มงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล: หัวข้อ Structural Shifts in the Global Economy ระหว่างวันพฤหัสฯ ที่ 24-26 ส.ค. โดยประเด็นที่ต้องจับตา คือ สัญญาณจากสุนทรพจน์ของประธานเฟด Powell วันศุกร์ที่ 25 ส.ค. โดยตลาดคาดว่าจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมต่อมุมมองเงินเฟ้อและวิธีการทำให้เงินเฟ้อชะลอลงมาที่กรอบเป้าหมาย รวมถึงทิศทางการปรับขึ้นหรือสิ้นสุดวงจรดอกเบี้ย ทั้งนี้ มุมมองดังกล่าวจะส่งผลเชิงลบหรือบวกต่อยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

เราคาดว่าสัญญาณเชิงลบต่อตลาดการเงินและตลาดหุ้นโลกจะเกิดขึ้น หากเฟดส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยยังคงอยู่ในลักษณะ Higher For Longer เพื่อแก้ปัญหา Sticky Inflation โดยเราประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะเร่งขึ้นสู่ระดับ 4.0% ณ สิ้นปี 2023E (Figure 1) จะส่งผลให้ยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาว ปรับขึ้นต่อเนื่อง และเป็นผลลบต่อตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อภาระต้นทุนการเงินบจ.ปรับสูงขึ้น รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจจะชะลอตัวจากภาวะ Credit Crunch และส่งผลทางอ้อมต่อ Valuation (De-Rate PER) ขณะที่การแข็งค่าของค่าเงิน USD จะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) และตลาดหุ้นเอเชีย ที่มีความเสี่ยง FX Risks ปรับสูงขึ้น

 

 

2. การเมือง: หลังการเลือกนายกรัฐมนตรี โมเมนตัมของตลาดจะหันมาที่ การจัดตั้งคณะรัฐบาล โดยจับตารายชื่อบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งสำคัญของกระทรวงเศรษฐกิจ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน ฯลฯ รวมถึงนโยบายประชานิยมสำคัญ ๆ อาทิ การแจกเงินดิจิทัล การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ฯลฯ เพื่อประเมินถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ในอนาคต อย่างไรก็ดี เราคาดว่าข่าวดีดังกล่าวจะมีผลบวกในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2024 ที่แท้จริง จะมีความล่าช้ามากเมื่อเทียบกับกำหนดการเดิม (โดยปกติจะเริ่มใช้งบประมาณใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2023 แต่เนื่องจากยังต้องรอกระบวนการจัดทำงบประมาณปี 2024 ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณแท้จริงอาจต้องเลื่อนออกไปจนถึงปลาย 1Q24 หรือต้น 2Q24 ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจ เห็นได้จากสภาพัฒน์ฯ ปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2023E ลงเป็น 2.75% จากเดิม 3.2% (Figure 2) เพราะส่วนหนึ่งมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าออกไปจนถึงเดือน เม.ย. 2024)

3. ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ จับตา US รายงานสินค้าคงทนเดือน ก.ค. (Consensus คาดว่า เติบโต -4% MoM Vs เดือน มิ.ย. +4.7% MoM) ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ทรงตัว (Consensus คาด +240k Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +239k)

กลยุทธ์ลงทุน เก็งกำไรหุ้นมีประเด็นบวกระยะสั้น ได้แก่ หุ้นอิงนโยบายรัฐ WHA หุ้นอิงกระแสเทคโนโลยี HANA และ COM7 หุ้นอิงการเปิดตัว iPhone 15 ในช่วงกลางเดือน ก.ย.

 

 

Strategic daily picks

WHA    ปิด 5.20 บาท/แนวรับ 5.00 บาท แนวต้าน 5.60 บาท

WHA คาดยอดขายที่ดินใน 3Q23 อยู่ที่ 1.5 พันไร่ (ไทย 900 ไร่ และเวียดนาม 600 ไร่) ซึ่งมีการทยอยเซ็นสัญญากับลูกค้าแล้ว และยังมีการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่อื่น ๆ เข้ามาเจรจาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายที่ดินใน 3Q23 มียอดขายที่ดินสูงสุดของปีนี้ จากเป้าหมายยอดขายที่ดินทั้งปี 2023 ที่ 2.5 พันไร่ ส่วนใน 4Q23 จะมีการขายพื้นที่เช่าคลังสินค้ากว่า 1.4 แสนตารางเมตร มูลค่ากว่า 3.5 พันล้านบาท เข้า WHART และคาดจะบันทึกเป็นกำไรจากการขายสินทรัพย์ใน 4Q23 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q23 และปี 2023 ที่ 1.01 พันล้านบาท และ 4.43 พันล้านบาท ตามลำดับ และประเมินราคาเป้าหมาย 5.48 บาท

 

HANA     ปิด 62.75 บาท/แนวรับ 59.00 บาท แนวต้าน 66.00 บาท

HANA ประเมินแนวโน้มยอดขายผลิตภัณฑ์แผงวงจร PCBA ยังคงเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบผ่อนคลายลงใน 3Q23 ขณะที่กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบันยังคงไม่เห็นการเติบโตแบบ V-shape ในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q23 และปี 2023 ที่ 642 ล้านบาท และ 2.21 พันล้านบาท ตามลำดับ และประเมินราคาเป้าหมาย 62.62 บาท

 

COM7    ปิด 31.75 บาท/แนวรับ 29.50 บาท แนวต้าน 33.25 บาท

COM7 ประเมินภาพรวมธุรกิจใน 3Q23 จะมีการขยายตัวดีกว่า 2Q23 เนื่องจากเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจ โดยในช่วงเดือน ก.ย. 2023 คาดจะมีการเปิดตัว iPhone 15 ที่จะเข้ามากระตุ้นยอดขายใหม่ได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งในช่วง 2H23 ไม่มีการปิดปรับปรุงร้าน ซึ่งจากช่วงที่ผ่านมามีการปิดปรับปรุงร้านกว่า 40 สาขา กว่าครึ่งเป็นร้าน Studio7 ที่มีขนาดใหญ่และอยู่ในทำเลที่สาคัญ และจะทยอยกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติทุกสาขาภายในสิ้น 3Q23 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 3.49 พันล้านบาท และประเมินราคาเป้าหมาย 37.33 บาท

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...