ปลัดฯ จ่อทบทวนค่าแรง บอร์ดห่วง “ขัดกฎหมาย” ชวนกรีดเอาพรรคไปหากิน วันนอร์ฉะยับคนยึดอำนาจ

“วันมูหะมัดนอร์” หวัง รธน.ฉบับใหม่สร้างความปรองดองสมานฉันท์ สับคนยึดอำนาจทำลายประชาธิปไตย “โภคิน” แนะศาลยึดหลักนิติธรรมวินิจฉัยคณะบุคคลที่รัฐประหารเป็นกบฏ หยุดการเมืองนอกระบบ “พงษ์เทพ” ชวนประชาชนรวมพลังเปิดประตูรื้อค่ายกล คสช. นายกฯปลุกทุกภาคส่วนออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ฝ่ายค้านดักคอรัฐบาลไม่จริงใจ “ชัยชนะ” น้อมรับฟังคำตำหนิ วอนสงบศึกใน ลืมอดีตก้าวสู่อนาคต เดินหน้าฟื้น ปชป. “เฉลิมชัย” พร้อมจับเข่าคุยทุกฝ่าย อ้อนศิษย์เก่ากลับคืนสู่รัง แทงกั๊กอนาคตเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล “ชวน” กรีดยับอย่าเอาพรรคไปหากิน เสียดายค่ายสีฟ้าเลือดไหลไม่หยุด ปลัดแรงงานตั้งแท่นเรียก “บอร์ดค่าจ้าง” ทบทวนค่าจ้างใหม่ตามดำรินายกฯ คาด 12 ธ.ค.ยังไม่เสนอเข้าที่ประชุม ครม. บอร์ดฝ่ายลูกจ้างเตือนนักการเมืองล้วงลูกระวังขัดกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

ศึกภายในพรรคประชาธิปัตย์ส่อบานปลาย หลังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9 พร้อมทีมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ล่าสุดมีสมาชิกหลายคนผู้ที่เคยสนับสนุนส่งสัญญาณลาออกจากพรรคตามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

...

ถวายบังคมรัชกาลที่ 7 วันรัฐธรรมนูญ

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ที่บริเวณชั้นเอ็มบี 1 อาคารัฐสภา มีการจัดพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค. โดยมีฝ่ายการเมือง บรรดาข้าราชการมาร่วมพิธีวางพานประดับพุ่มดอกไม้ ถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว อาทิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มอบหมายให้นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ ปรึกษานายกฯ เป็นตัวแทนวางพานประดับพุ่มดอกไม้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา น.ส.มาดี ธรรมสัจจกูล ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นผู้แทนประธานศาลฎีกา ว่าที่ ร.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาฯ น.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

“วันนอร์” สับคนยึดอำนาจทำลาย ปชต.

ต่อมาเวลา 13.30 น. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดกิจกรรมเสวนาทางวิชาการ “วันฉลองรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2566” ฝ่ายการเมืองเข้าร่วมคึกคัก อาทิ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. อดีตประธานรัฐสภา ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวเปิดงานว่า ตั้งแต่ปี 2475 ถึงปัจจุบัน ประเทศไทยฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ประกาศใช้ จนไม่อยากนับครั้ง เป็นปรากฏการณ์สะท้อนถึงการแย่งชิงอำนาจ สลายอำนาจ สืบทอดอำนาจ นัยสำคัญการเลิกรัฐธรรมนูญมักเกิดขึ้นจากปฏิวัติรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครอง ฉีกรัฐธรรมนูญบ่อยครั้งทำให้ศักดิ์ศรี ความเชื่อมั่น ศรัทธา ต่อรัฐธรรมนูญ ต่อระบบรัฐสภา เสื่อมถอยอย่างน่าเสียดาย ศักดิ์และอำนาจของหัวหน้าคณะปฏิวัติบางครั้งสูงกว่ารัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจด้วยกำลัง อาวุธปืนทำการปฏิวัติรัฐประหาร ผู้ร่วมกระทำยังเจริญในตำแหน่งหน้าที่และมีบริวารบารมีเพิ่มอย่างน่ากังขา ข้อกังขาเป็นเพียงตัวอย่าง ที่รัฐธรรมนูญเป็นเพียงกระดาษ เท่ากับว่าอำนาจอธิปไตยประชาชนไม่ได้มีอยู่จริง

หวัง รธน.ฉบับใหม่สร้างปรองดอง

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า วันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค. นอกจากเป็นวันรำลึกถึงเจตนารมณ์แห่งการโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญฉบับถาวรแล้ว ยังเป็นวันที่ไว้อาลัยการสูญเสียศักดิ์ศรีของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอีกด้วย วันที่ 10 ธ.ค.ปีนี้ขอให้เป็นวันรัฐธรรมนูญแห่งความหวังใหม่ เป็นวันสถาปนาระบบรัฐสภา เป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน หวังการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีขึ้นในอนาคต จะช่วยลดบรรยากาศของความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชน ระหว่างประชาชนกับประชาชน โดยให้กลไกระบบรัฐสภามีภารกิจคุ้มครองสิทธิของประชาชนอย่างสมดุลระหว่างอำนาจรัฐกับประชาชนสามารถพัฒนาอำนาจอธิปไตยของประชาชนจนไม่ตกอยู่ในอำนาจของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ตามพระประสงค์ที่พระราชทานไว้ก่อนสละราชสมบัติ

เปิดเวทีเขย่ารัฐธรรมนูญฉบับ คสช.

ต่อมามีการจัดกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “พัฒนาการของรัฐธรรมนูญ” มีผู้เข้าร่วมการเสวนา อาทิ นายนรนิติ เศรษฐบุตร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีต ส.ส.ร. นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต ส.ส.ร. นายปริญญา เทวนฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายนรนิติกล่าวว่า ความพยายามแก้ไขแต่ละครั้งวนไปวนมา จนถึงรัฐธรรมนูญ 40 ได้พัฒนาไปอีกขั้น รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นเพื่อแก้ไขเหตุการณ์การเมืองในขณะนั้น ไม่มีรัฐธรรมนูญที่ออกมาคนพอใจทั้งประเทศ คนร่างยังไม่พอใจ เพราะไม่ได้ยกร่างคนเดียว

นายปริญญา เทวนฤมิตรกุล กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 60 สว.มาจากรัฐประหาร สรรหาองค์กรอิสระ สว.เปรียบเสมือนรัฐประหารธิปัตย์ คือ อำนาจสูงสุดอยู่ที่คณะรัฐ ประหาร ดังนั้นหลักการที่มาฉลองรัฐธรรมนูญประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดของประเทศเป็นการปกครองตนเองของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ แต่เราเลือกพรรคการเมืองที่แตกต่างกันอย่างไร สุดท้ายจบที่การเลือกตั้ง หากมีประชามติก็จบที่บัตรประชามติเป็นสิ่งที่เราต้องทำอะไรกันอีกพอสมควร เพราะรัฐธรรมนูญปี 60 ไม่ใช่จิตวิญญาณของการฉลองรัฐธรรมนูญ

ชวน ปชช.รวมพลังเปิดประตูรื้อกติกา

นายโภคิน พลกุล กล่าวว่า ถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ต้องผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ศาลวินิจฉัยว่า การรัฐประหารเป็นกบฏ ศาลต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม ให้ถือเป็นระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุด แม้ไม่มีรัฐธรรมนูญ จะได้จบ อยากเห็นพัฒนาการตรงนี้ เพื่อให้การเมืองเดินต่อได้ ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ก็เละ อีก 100 ปีก็เหมือนเดิม

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 60 เป็นฉบับที่มักถูกยกมาอ้างกันว่าผ่านการทำประชามติ แต่ทุกคนคงจำกันได้ว่ามีโฆษณาชวนเชื่ออยู่ฝ่ายเดียวว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ฝ่ายที่เห็นต่างถูกดำเนินคดีปิดปาก ประชาชนอยู่ในสภาวะถูกบีบคั้นหากไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รัฐบาลชุดที่ผ่านมาจะอยู่ต่อไป อาจได้รัฐธรรมนูญที่แย่กว่านี้ รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 มีปัญหาหลายอย่างที่ทำให้กลไกการถ่วงดุลอำนาจเสียหาย การแก้รัฐธรรมนูญทีละมาตรา ไม่สามารถแก้ได้ เนื่องจากทุกอย่างถูกยึดโยงไว้ด้วยกันหมด จึงเป็นที่มาให้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ความจริงเนติบริกรไม่ได้เขียนไว้ให้แก้ แต่เขียนไว้ให้ฉีก แต่ถ้าเราโชคดีได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่ต้องฉีก ต้องมีการขับเคลื่อนโดยพลังของประชาชนมากพอสมควร

“นิกร” แย้มแนวประชามติสรุปก่อนสิ้นปี

นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภาว่า รับฟังความเห็นครบ 4 ภาคแล้ว ภาพรวมประชาชนอยากให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยตั้ง ส.ส.ร. ส่วนการขอความเห็นจากสมาชิกรัฐสภา ขณะนี้ทำจดหมายไปถึงประธานสภาฯ พร้อมส่งคำถามไปให้รัฐสภา เพื่อให้รับทราบถึงเนื้อหาการทำประชามติ ต้องการรับฟังว่าสมาชิกรัฐสภาต้องการทำประชามติก่อนดำเนินการใดหรือไม่ ส่วนนี้ทำก่อนทำประชามติครั้งที่ 1 วันที่ 22 ธ.ค.คณะอนุฯนัดประชุมสรุป และคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติฯ ที่มีนายวุฒิสาร ตันไชย เป็นประธาน ได้พิจารณาข้อกฎหมาย หากแก้ พ.ร.บ.ประชามติ โดยเฉพาะมาตรา 13 ที่เป็นประชามติ 2 ชั้น จะแก้อย่างไร ส่วนคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ประธาน ในวันที่ 25 ธ.ค. เรียกประชุมพิจารณาศึกษาแนวทางทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ หาข้อสรุปอย่างไรให้ได้ก่อนสิ้นปี ทั้งนี้ ต้องรอความเห็นของ สมาชิกรัฐสภา ที่ต้องตอบในฐานะผู้ที่ลงคะแนนในเรื่องนี้ โดย สว.ต้องได้เสียง 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง ถ้าไม่ได้คือไม่ผ่าน

“ชูศักดิ์” ชงโทษ ปว.ไม่มีอายุความ

จากนั้นเวลา 18.00 น. ที่รัฐสภา มีการเสวนาในหัวข้อ “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร” มีผู้ร่วมเสวนา อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคพท. และนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. นายชูศักดิ์กล่าวว่า ควรมี ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน ทำเพื่อประชาชน เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน เชื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นประชาธิปไตยแน่นอน หวังจะประสบความสำเร็จ ควรแก้ไขมาตรา 256 กำหนดให้มีเสียง สว.สนับสนุน 1 ใน 3 ต้องตัดตรงนี้ออก ทำให้เป็นรัฐธรรมนูญแก้ไขได้ง่าย แก้ไขได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับระบบถ่วงดุลอำนาจ ต้องให้องค์กรอิสระมาจากรัฐสภา กำหนดให้รัฐประหารมีความผิดไม่มีอายุความ ไม่มีการนิรโทษกรรม ศาลหรือกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถที่จะยอมรับการรัฐประหารได้

ก.ก.ชงสูตรทำประชามติ 3 รอบ

นายชัยธวัช ตุลาธน กล่าวว่า การร่างรัฐธรรมนูญต้องยึดหลักการอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน ตั้งแต่กระบวนการทำประชามติ มี ส.ส.ร. พรรค ก.ก.สนับสนุนทำประชามติ 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 รัฐบาลทำก่อนที่พรรคการเมืองเสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญเข้าสู่สภา เมื่อ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ ควรไปทำประชามติ แน่นอนเสียเวลา เสียงบมากพอสมควร 2. กระบวนการและเนื้อหาควรจะตอบโจทย์การเมืองไทยที่เป็นจริงในปัจจุบัน ต้องยอมรับที่ขัดแย้งกันมา สะท้อนปัญหาสังคมไทยไม่สามารถหาฉันทามติร่วมกันได้ว่า ระบบระเบียบการเมืองแบบไหนที่เรายอมรับจะอยู่ร่วมกัน แม้มีความเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้นกระบวนการจัดประชามติและกระบวนการสรรหา ส.ส.ร. ไม่ควรกีดกันคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกไปตั้งแต่ต้น ควรเป็นพื้นที่เปิดให้ทุกความคิดทุกคนรู้สึกว่าเขาได้รับการโอบรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ต้องไม่กีดกันเขาไปตั้งแต่แรก

ฉลองวันรัฐธรรมนูญรัฐสภาคึกคัก

ขณะที่ช่วงบ่าย คณะกรรมการจัดงานวันรัฐธรรมนูญ ประจำปี 66 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดงานวันฉลองรัฐธรรมนูญ มีทั้งกิจกรรมฉลองวันรัฐธรรมนูญ ที่ลานประชาชน รัฐสภา บรรยากาศ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชน ได้ทยอยมาร่วมงานชม ชิม ช้อป ร้านเด่นร้านดัง ฟังการแสดงดนตรีบนเวที มีหลายวงมาโชว์ อาทิ วงสามัญชน วงระบัดใบ วงพัชร์จุรี โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 น.ส.พรรณิการ์ วานิช เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม พรรคก้าวไกล เดินสังเกตการณ์

นายกฯปลุกทำ รธน.ฉบับประชาชน

เมื่อเวลา 09.36 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ทวีตข้อความผ่านX เนื่องในวันรัฐธรรมนูญว่า 10 ธ.ค. วันรัฐธรรมนูญของประเทศไทย รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นรัฐบาลมีหน้าที่ทำให้รัฐธรรมนูญมาจากประชาชน การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นภารกิจใหญ่ อาศัยเพียงพลังของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ แต่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องช่วยกันผลักดัน เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

ย้ำรัฐบาลมุ่งมั่นแก้กติกาใหญ่

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงวันรัฐธรรมนูญว่า ขอชวนให้ประชาชนมั่นใจในกระบวนการทำงานของรัฐบาล เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้ทุกคนมีส่วนร่วม ตอนนี้คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนครบ 4 ภาค แนวคำถามรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ให้คงเนื้อหาในหมวด 1 และ 2 ไว้ และพร้อมออกไปลงเสียงประชามติ

“ราเมศ” ดักคอรัฐบาลไม่จริงใจ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรค ปชป.มีเจตนารมณ์ชัดเจนต่อการแก้รัฐธรรมนูญ หัวใจสำคัญคือแก้มาตรา 256 เพื่อให้แก้รัฐธรรมนูญได้ง่ายขึ้น โดยตัดสัดส่วนของ สว.ให้เหมาะสม แล้วใช้เสียงส่วนใหญ่จากสภาฯ หากกำหนดให้ สว.เห็นชอบด้วยในวาระที่ 1 และที่ 3 เป็นจำนวน 1 ใน 3 ทำให้ต้องได้รับความเห็นชอบเป็นจำนวนมากถึง 84 คน เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในสาระสำคัญได้ และมีหลักการชัด ยกร่างใหม่หรือแก้ไขเพิ่มเติม ต้องไม่แตะหมวด 1 กับหมวด 2 รวมทั้งหมวดที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯระบุว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมกันผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้น ขอย้อนถามนายกฯว่า ทุกฝ่ายร่วมกันผลักดันนั้นความหมายคือ ยกเว้นรัฐบาลที่ยังไม่พร้อมใช่หรือไม่ เพราะคำพูดล้วนแล้วแต่สวนทางกับข้อเท็จจริง ที่ประชาชนมองออกรัฐบาลไม่จริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ

พลังบูรพาวอนคุยให้จบก่อนรื้อ

นายสุระ เตชะทัต เลขาธิการพรรคพลังบูรพา กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ก่อนแก้ไขอยากให้ทุกฝ่ายหารือให้ตกผลึก ควรแก้ในหมวดไหน มาตราไหนบ้าง เนื้อหาสาระเป็นอย่างไร อยากให้รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ไม่เช่นนั้นสังคมจะมองว่านักการเมืองจ้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ที่เป็นชนวนนำไปสู่วิกฤติของประเทศ รวมถึงการทำประชามติต้องพิจารณาให้ชัดเจนว่าต้องทำกี่ครั้ง เพื่อให้ประหยัดเวลา งบประมาณ ไม่ให้มีปัญหาถูกร้องเรียนตามมา

“แทน” เหน็บคนรัก ปชป.ต้องช่วยกู้พรรค

สำหรับความแตกแยกภายในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หลังเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรค ปชป. คนที่ 9 โดยมีสมาชิกพรรคทยอยลาออก มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.ประเดิมเป็นคนแรกนั้น ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค ปชป.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.วทันยา บุนนาค อดีตประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. และอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ระบุมีไลน์หลุดไม่ให้โหวตให้ตอนยกเว้นข้อบังคับ เข้าชิงหัวหน้าพรรค ปชป. ว่า ประเด็นไลน์หลุดไม่ทราบรายละเอียดเป็นมาอย่างไร เมื่อถามว่ามีสมาชิกเตรียมลาออกหลายคน หลังได้หัวหน้าพรรค ปชป.คนใหม่ นายชัยชนะตอบว่า ถ้ารักองค์กร ใครขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคต้องพร้อมทำงานให้ แต่บุคคลใดขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วเราลาออก เท่ากับไม่ได้รักองค์กร ต่อต้านผู้นำที่ขึ้นมา มันไม่ถูกต้อง รักพรรค ปชป.ต้องทำงานได้กับทุกผู้บริหาร ช่วยกันฟื้นฟูพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ทำไม่ดี ถึงเวลา 4 ปีก็เปลี่ยนแปลงได้

เคลียร์ใจผู้อาวุโส-ชวนศิษย์เก่ากลับรัง

นายชัยชนะกล่าวว่า พรรค ปชป.เข้าสู่ปีที่ 78 มีทั้งสูงสุดและต่ำสุด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. คนใหม่เข้ามาเพื่อแก้วิกฤติ แถลงชัดเจนว่าไม่ใช่พรรคอะไหล่ ทำงานหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง คำประกาศนี้ชัดเจนถึงการทำงานในอนาคต เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ของพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.หรือไม่ นายชัยชนะตอบว่า อย่าคิดเป็นฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ วันนี้ลืมความหลังพูดถึงอนาคต นายเฉลิมชัยและ กก.บห.พร้อมคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน หลังจากนี้จะเดินหน้าปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ทุกคน ไปเชิญชวนสมาชิกพรรคที่เคยลาออกไป ให้กลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค ปชป.

แทงกั๊กอนาคตเป็นค้านหรือรัฐบาล

เมื่อถามถึงจุดยืนพรรค ปชป.เป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวอาจเข้าร่วมรัฐบาล หลังจากมี สส.พรรค ปชป. 16 คน ยกมือโหวตเลือกนายกฯครั้งที่ผ่านมา นายชัยชนะตอบว่า เป็นการโหวตเพื่อหาทางออกให้ประเทศ ไม่ได้โหวตเพื่อเป็นรัฐบาล ในฐานะเป็น 1 ใน 16 คนที่โหวตให้นายกฯ วันนี้ก็ทำงานตรวจสอบนายกฯ “ที่มีข่าวว่าเป็นรัฐบาลนั้นคือใครพูด จุดประสงค์ดีกับพรรคหรือไม่ วันข้างหน้ายังไม่รู้ พรุ่งนี้ตื่นมาหายใจหรือไม่ ยังไม่รู้เลย ไม่ต้องพูดถึง 5-6 เดือนข้างหน้า วันนี้ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรุ่งนี้ยังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน สมมตินอนคืนนี้ตายไปทราบหรือครับว่าเป็นยังไง อนาคตอย่าไปคาดหวังว่าร่วมรัฐบาลหรือไม่”

น้อมฟังคำตำหนิเดินหน้าฟื้นพรรค

นายชัยชนะกล่าวถึงกรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ระบุถึงคนที่ไม่มีสัจจะ ไม่สามารถนำพรรคได้ นายชัยชนะตอบว่า นายสาธิตมีสิทธิ์ที่จะพูดได้ ยอมรับในคำพูดทุกคน ไม่ใช่เวลาโต้เถียง ใครตำหนิก็รับฟัง อดทนได้ แต่สิ่งสำคัญเหนือคำพูดคือเริ่มต้นฟื้นฟูพรรค ผลการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะนำพาได้จำนวน สส.มากกว่าเดิมหรือไม่ เมื่อถามว่า ถ้าสมาชิกต่อต้านหลายคนทำให้พรรค ปชป.ถึงขั้นแตกหรือไม่ นายชัยชนะตอบว่า สส. 22-23 คน ในจำนวน สส. 25 คน ชัดเจนว่ารับได้ แต่คนที่ลาออก ขอถามว่ารักพรรคหรือรักตัวเอง รักพรรคต้องทำงานได้กับผู้นำองค์กรนั้น

“ชวน ” เสียดายค่ายสีฟ้าเลือดไหลโจ๊ก

เมื่อเวลา 12.45 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมาชิกพรรค ปชป.ลาออกหลังได้หัวหน้าพรรคและกก.บห.ชุดใหม่ว่า ยังไม่รู้ลาออกกี่คน ยอมรับเสียดายบุคคลเหล่านั้น ส่วนกรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ลาออกจากสมาชิกพรรคนั้น ก็ไม่ทราบ ทราบเพียงว่าจะไม่มาประชุม จึงได้ถามว่า เป็นเพราะเหตุใด ได้รับคำตอบกลับมาว่า เขาล็อกไว้หมดแล้ว มาไม่มีประโยชน์ จึงขอร้องให้มาประชุม นายสาธิตถึงยอมมา มาแล้วก็ลาออก เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เสียดายคนที่เป็นกำลังสำคัญ ผู้ที่ไม่เกี่ยวกับ สส.หลายคนก็แจ้งลาออก คนที่เคยสนับสนุนพรรคก็ส่งไลน์มาขอลาออก เข้าใจและเห็นใจคนที่ห่วงใย

กรีดยับอย่าเอาพรรคไปหากิน

เมื่อถามว่าการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้มีการล็อบบี้เอาไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายชวนตอบว่า คงเป็นอย่างนั้น ความจริงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรค ปชป. ที่เป็นผู้ใหญ่ พูดตรงไปตรงมาในที่ประชุมว่า การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้แล้วแต่เลขาธิการพรรคสั่งมา เพราะดูแลมา 4 ปี แต่เมื่อนายเฉลิมชัยยอมผิดคำพูดแล้วมาเป็นหัวหน้าพรรคเอง ตนจึงพูดว่าอย่าให้พรรค ปชป.เป็นพรรคอะไหล่ ความคิดที่ดิ้นรนอยากเป็นรัฐบาล ไปร่วมกับเขาไม่ควรเกิดขึ้น ที่เป็นห่วงคือ อุดมการณ์ของพรรค หัวหน้าพรรคทุกคนทำหน้าที่ด้วยความซื่อตรง สุจริต ดังนั้นต้องรักษาสิ่งนี้ไว้ โดยหัวหน้าพรรคคนใหม่ยืนยันเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตในที่ประชุม ขอฝาก กก.บห.พรรคให้ช่วยกันดูแล เพราะที่ผ่านมามีข่าวลือเรื่องที่พรรค ปชป.เข้าไปดูแลในรัฐบาลมีอยู่ไม่น้อย ในอนาคตต้องฝากว่า ขอให้ยึดอุดมการณ์พรรคเอาไว้ แม้ไว้วางใจได้ ไม่เต็มที่ก็ตาม ขอฝาก กก.บห.บางคนที่ยังรักและหวงพรรคอยู่ให้ช่วยกันดูแล อย่าให้เอาพรรคไปหากิน

“มาร์ค” ยังมีโอกาส-เชียร์ “เดียร์” ลุยต่อ

เมื่อถามว่าวางบทบาทในพรรค ปชป.ต่อจากนี้อย่างไร นายชวนตอบว่า พยายามช่วยประคับประคองพรรค ส่วนที่ตัดสินใจสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะสถานการณ์เป็นช่วงเวลาที่จำเป็น ต้องเป็นคนที่สังคมยอมรับพอสมควร หัวหน้าพรรคการเมืองในประเทศไทยที่มี ถ้าขี้โม้ก็บอกว่าเหนือกว่าคนอื่น ไม่ด้อยกว่าใครแล้วยังมีประสบการณ์ แต่ปรากฏผลออกมาคิดว่าแค่ไม่รับตำแหน่ง ไม่คิดว่าจะลาออกจากสมาชิกพรรค เมื่อเป็นเช่นนี้ขอให้กำลังใจอย่าเพิ่งวางมือ ยังมีเวลาอยู่ เช่นเดียวกับ น.ส.วทันยา บุนนาค ที่เสียดาย ชื่นชมในความพยายาม แต่เมื่อเห็นโพยที่ล็อกเอาไว้ จึงมีความรู้สึกว่าทำไมไปกลัว หัวหน้าพรรคควรได้มาด้วยการแข่งขัน ไม่ใช่ได้มาตามโพย หัวหน้าพรรคตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์ มาด้วยระบบแข่งขัน ตนก็ยังต้องแข่งขันกับนายมารุต บุนนาค การแข่งขันไม่ได้แตกแยกเสมอไป ดังนั้นคนดีๆ เราอยากเอาไว้ อยากเห็นคนใหม่ที่จะเข้ามา อยากเห็น น.ส.วทันยาที่อายุยังน้อย ยังมีอนาคตอยู่ต่อไป

ลั่นไม่ทิ้งบ้านหลังนี้อยู่ใช้หนี้บุญคุณ

เมื่อถามว่า กก.บห.ที่มาตามโพยทำให้อึดอัดในการร่วมงานหรือไม่ นายชวนตอบว่า ในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง เมื่อเห็นมีการฝืนมติพรรค ทั้งที่เวลา 77 ปีของพรรค ปชป.ไม่เคยมีมาก่อน ที่สมาชิกไปฝืนมติพรรคกลางสภา ไปรับรองนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ กก.บห.ชุดต่อไปจึงต้องพิจารณาด้วย เมื่อถามว่ายืนยันยังอยู่กับพรรค ปชป.ใช่หรือไม่ นายชวนตอบว่า “ไม่ไปไหนหรอกครับ ยังไงก็ต้องอยู่ เป็นหนี้บุญคุณพรรค ผมเป็นชาวบ้านคนหนึ่ง เป็นอะไรก็ได้ เพราะมีโอกาสได้อยู่พรรค ถ้าไม่อยู่ที่พรรคก็ยากพรรคนี้ให้โอกาส โดยไม่สนใจฐานะ ตระกูลมาอย่างไร ถ้าแสดงตัวว่าคนนี้ดีพอเป็นหัวหน้าพรรคได้ เขาก็เลือก นี่คือสิ่งที่ผ่านมา บุญคุณอันนี้ใช้ไม่หมด ต้องตอบแทนบุญคุณในช่วงปลายชีวิตการเมือง”

“สรรเพชญ” ยก “สัจจะ” นักการเมือง

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคปชป. โพสต์เฟซบุ๊กว่า สจฺจํ เว อมตาวาจา คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย คำขวัญที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป. ได้พิสูจน์ให้ชาวพรรค ปชป.เห็นแล้วว่า คำว่าสัจจะมีความหมายเพียงใด ไม่เพียงแค่พูด แต่ได้แสดงให้เห็น วันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวันที่ชาวพรรค ปชป.หลายๆคน รวมถึงตัวเองด้วย ต้องคิดทบทวนบทบาทอีกครั้งหนึ่ง ขอให้พี่น้องมั่นใจตนจะยังคงทุ่มเททำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป

“พร้อมพงศ์”ตามขย่มซ้ำพรรคคู่แข่ง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษารองนายก รัฐมนตรี อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป.ว่า อยากให้มองเป็นเรื่องของเวรกรรมตามทันชาตินี้ไม่ต้องรอชาติหน้า การขึ้นเป็นนายกฯของนายอภิสิทธิ์ เป็นเรื่องเล่าเกิดขึ้นในค่ายทหาร พอเป็นนายกฯเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมเลือด บอยคอตเลือกตั้ง นำไปสู่รัฐประหาร 22 พ.ค.57 หลังจากนั้นพรรคปชป.กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลหลังกลิ่นดินปืนทุกครั้ง การกระทำตลอดเกือบ 20 ปี สวนทางกับอุดมการณ์ที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทหาร ดีแต่พูดจนเป็นสมญานาม ความนิยมผ่านการเลือกตั้งจากพรรคใหญ่ กลายเป็นพรรคขนาดกลางจนถึงพรรคเล็ก ผ่านอะไรมามากมาย ไม่เคยทบทวนตัวเอง สุดท้ายไม่เหลือที่ยืนให้นายอภิสิทธิ์ พรรคปชป.จะกลับมาฟื้นฟูก็ดูสายเกินไป ไม่มีพลังอะไรทำให้สมาชิกพรรคศรัทธา ขอแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ไปถือศีล นั่งสมาธิ ทบทวนตัวเอง เช่นเดียวกับแกนนำพรรค ปชป.คนอื่น ควรทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่ใช่ตะบันค้านทุกเรื่องที่รัฐบาลเพื่อไทยทำ เรื่องเกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ ค้านปนแค้นจนหลักลอย

สธ.ปลื้มฉีดวัคซีนเอชพีวีทะลุเป้า

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข แจ้งให้ทราบว่าขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขสามารถฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ป้องกันมะเร็งปากมดลูกทะลุ 1 ล้านโดส ก่อนครบเวลา 100 วัน ตามที่ได้กำหนด เป้าหมาย นับเป็นการทำงานอย่างหนักของบุคลากรกระทรวงตามนโยบายของรัฐบาลได้เกินความคาดหมาย อีกทั้งเป็นนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงที่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคีเครือข่ายต่างๆที่ร่วมลงนามความร่วมมือกันไว้ กระทรวงฯยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าฉีดวัคซีน HPV ให้มากที่สุดในเวลาที่ยังเหลืออยู่ ยิ่งฉีดได้มากโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงก็ลดลงเท่านั้น ดังนั้น ขอเชิญชวนให้ผู้หญิงในระบบโรงเรียนหรือนอกระบบโรงเรียนรีบติดต่อรับการฉีดวัคซีน กระทรวงห่วงใยสุขภาพผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะเด็ก เยาวชนวัยสาว อายุ 11-20 ปี ไม่ต้องการให้ใครป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก

“ไพโรจน์” ตั้งแท่นถก “บอร์ดค่าจ้าง”

สำหรับกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ติงมติการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 67 ของคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ที่ปรับขึ้นรายจังหวัด โดยมี 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ได้ปรับขึ้นแค่ 2 บาท ว่าน้อยเกินไป สวนทางกับนโยบายรัฐบาล อาจให้ทบทวนใหม่นั้น วันเดียวกัน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานคณะกรรมการค่าจ้างฯ กล่าวว่า จะเรียกประชุมบอร์ดค่าจ้างเพื่อหารือในเรื่องนี้ เดิมจะนำเสนอ ครม.ในวันที่ 12 ธ.ค. คงต้องรอคุยกับบอร์ดค่าจ้างว่าจะทบทวนใหม่หรือไม่ เพราะการพิจารณาปรับค่าจ้างเป็นไปตามขั้นตอนและมีสูตรปรับรายจังหวัด เริ่มตั้งแต่คณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดเสนอตัวเลขเข้ามา จะมีคณะกรรมการวิชาการและกลั่นกรองสรุปตัวเลขที่เหมาะสม ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดค่าจ้างชุดใหญ่

ฝ่ายลูกจ้างเตือนล้วงลูกระวังขัด ก.ม.

ด้านนายวีรสุข แก้วบุญปัน คณะกรรมการค่าจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง กล่าวว่า การทบทวนการปรับค่าจ้างที่มีมติออกไปแล้ว ต้องไปดูกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่ นายกฯมีอำนาจสั่งการได้ตามกฎหมายหรือขัดต่อกฎหมายต้องดูให้ชัดเจน เพราะกฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดให้การปรับค่าจ้างเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการไตรภาคี ต้องเป็นอิสระ ไม่มีการแทรกแซง ถ้าสั่งการให้กลับมาทบทวนใหม่แล้วขัดต่อกฎหมายก็เสี่ยงกับการถูกร้องเรียน บอร์ดค่าจ้างต้องระมัดระวัง ถ้ามีคำสั่งในกรอบของกฎหมายก็ทำได้ แต่ถ้าใช้อำนาจทางการเมืองต้องระวัง บอร์ดก็ทำได้ด้วยการยืนยันไปตามมติเดิม แต่ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งอะไร มีเพียงแต่เป็นข่าวว่าจะให้ทบทวน อาจจะเป็นเพียงการบ่นว่าน้อยเกินไปก็ได้

“เป็นครั้งแรกที่นายกฯให้ทบทวนค่าจ้างเพราะปรับน้อยเกินไป อย่าลืมว่าถ้าปรับขึ้นสูงถึง 400 บาท คนที่ได้อานิสงส์คือแรงงานต่างด้าว 5 ล้านคน ส่วนคนไทยมีลูกจ้างเข้าใหม่ได้ประโยชน์ประมาณ 4แสนคนส่วนใหญ่ได้ค่าจ้างเกินขั้นต่ำไปแล้ว ในขณะที่คนไทย 70 ล้านคน ต้องแบกรับภาระค่าครองชีพสูงขึ้น”

แรงงานยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทยออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯและรัฐบาล เรียกร้องให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำอย่างเป็นธรรม โดยค่าจ้างต้องเลี้ยงคนในครอบครัวได้ตามหลักสากลต้องเท่ากันทั้งประเทศ โดยระบุว่ารัฐบาลเพื่อไทยในช่วงหาเสียงดูเหมือนเข้าใจสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ปัญหาหนี้สิน ความยากจน จึงได้เสนอนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ให้ประชาชนและนโยบายค่าจ้างวันละ 600 บาท จ้างงานวุฒิปริญญาตรี 2.5 หมื่นบาท โดยเฉพาะค่าจ้างขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 400 บาท แต่วันนี้ปรับสูงสุดแค่ 370 บาท และต่ำสุด 330 บาท อย่าให้ประชาชนเห็นว่าเป็นเพียงนโยบายหาเสียง เพราะราคาสินค้าขึ้นนำหน้าไปก่อนแล้ว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่