สงครามบิ๊กเทค Corporate AI Battle ศึกชี้อนาคต

จากจุดเริ่มต้นที่บอร์ดตัดสินใจ “ปลดฟ้าผ่า” CEO จนพนักงานพร้อมใจเตรียมลาออกไปซบบิ๊กเทคค่ายอื่นอย่างไมโครซอฟท์ จนถึงตอนจบที่สถานการณ์พลิกผันทำให้ CEO ได้กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมและตามมาด้วยการเปลี่ยนตัวบอร์ดบริหาร

เกมนี้อาจจะดูเหมือนจบสวยที่ผู้บริหารอย่าง Sam Altman ยังคงอำนาจควบคุมองค์กรได้ต่อไป แต่บรรดานักวิเคราะห์มองว่านี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ สงครามบิ๊กเทค Corporate AI Battle ที่จะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าในอนาคตอันใกล้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่า การตัดสินใจของบอร์ด OpenAI เป็นการตัดสินใจที่ทำให้องค์กร “ชนะศึกแต่อาจแพ้สงคราม”

การใช้อำนาจในมือแก้ปัญหาความไม่ลงรอยที่เป็นศึกภายในด้วยการปลดผู้นำ ได้ผลักให้องค์กรเข้าไปอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งขันในสงครามใหญ่เพื่อแย่งชิงความเป็นผู้นำในสมรภูมิ AI โลก

การเดินหน้าต่อของ Open AI ด้วยทีมเดิมและผู้นำคนเดิม อาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะรอยร้าวที่เกิดขึ้นแล้วน่าจะเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ

ปัญหาที่เกิดขึ้นภายใน OpenAI สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันอย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงทีมนักพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ระดับหัวกะทิ

ข้อมูลจาก McKinsey ระบุว่าปีที่ผ่านมามีการโพสต์หาคนเพื่อทำงานด้าน AI ถึงกว่า 1 ล้านตำแหน่งทั่วโลก และเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตำแหน่งงานรวมทั่วโลกลดลงถึง 15%

กรณี OpenAI เป็นตัวอย่างที่ทำให้ภาพชัดเจนถึงสภาวะการแข่งขัน ในห้วงเวลาที่เกิดความระส่ำระสาย เหล่าผู้นำบริษัทบิ๊กเทคต่างออกมาเสนอตัวเตรียมช้อนทีมงาน OpenAI กันอย่างโจ่งแจ้ง

นอกจากไมโครซอฟท์ที่ประกาศพร้อมรับพนักงานกว่า 95% จาก OpenAI ด้วยแพ็กเกจสุดดึงดูดใจแล้ว อีกหลายบิ๊กเทคก็ตั้งข้อเสนอเรียกคนอย่างน่าสนใจ

CEO ของ บริษัท Salesforce ประกาศบนโซเชียลมีเดียว่า พร้อมจะแมทช์แพ็กเกจเงินเดือนและหุ้นให้กับพนักงาน OpenAI ในทันทีที่ยื่นใบลาออก โดยต้องการดูดคนของ OpenAI ไปร่วมทีมวิจัยด้าน AI ของ Salesforce

ผู้บริหารระดับสูงของ Nvidia ผู้ผลิตการ์ดจอรายใหญ่ของโลกก็ประกาศบน X เช่นเดียวกันว่าพร้อมอ้าแขนรับพนักงานของ OpenAI

การแข่งขันด้าน AI ของบิ๊กเทคยักษ์ใหญ่ ถ้าแบ่งตามกลุ่มของผู้ใช้งานจะแบ่งได้ 3 กลุ่มหลัก

1.กลุ่ม Consumer AI ซึ่ง Google ยังถือว่าเป็นผู้นำด้วยฐานข้อมูลมหาศาลจากเสิร์ชเอนจิน อีเมลและเว็บบราวเซอร์ ที่รายใหม่อย่าง Open AI อาจยังวิ่งตามไม่ทัน

2. Government AI ซึ่งยักษ์ใหญ่อย่าง Palentir, Amazon, Microsoft, และ IBM ต่างแข่งขันกันเพื่อชิงโครงการ AI สำหรับหน่วยงานของภาครัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคง

3. Enterprise AI สำหรับการใช้งานในองค์กรที่ไมโครซอฟท์ยังคงเป็นผู้นำที่ทิ้งห่างคู่แข่งรายอื่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Amazon Cloud AI ที่กำลังเจาะองค์กรขนาดใหญ่ หรือ Google ที่สามารถเข้าถึงฐานลูกค้ารายเล็กและสตาร์ตอัป

อนาคตการแข่งขันเพื่อชี้อนาคตผู้นำในธุรกิจ AI สำหรับแต่ละเซ็กเมนต์ ตัวแปรสำคัญอยู่ที่ว่า ใครจะกวาด “คนเก่ง” ไปร่วมทีมได้ก่อนและรีบใช้ความได้เปรียบนั้นในการสร้างโปรดักต์เพื่อเจาะและขยายฐานลูกค้าให้ได้อย่างรวดเร็ว

เกมนี้คือเกมสำคัญ เพราะใครก็ตามที่เพลี่ยงพล้ำในเกมนี้อาจไม่เหลือที่ยืนในตลาดอีกต่อไป

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...