ธ.ก.ส.แนะเกษตรกรตรวจสอบสิทธิ์ก่อนไปกดเงิน“ไร่ละพันบาท“

นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าจากกรณีที่เกษตรกรเดินทางไปกดเงินตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 หรือเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละพันบาทแต่ยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีตามที่คาดหวัง

ทาง ธ.ก.ส. ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ในพื้นที่ดังกล่าว มีแผนการจ่ายเงินในวันที่ 2 ธันวาคม 2566 แต่เกษตรกรไปกดเงินในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 จึงไม่สามารถกดเงินได้ ทั้งนี้ การโอนเงินในรอบที่ 1 ได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2566

โดยในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ถือเป็นการ Kick off การโอนเงินอย่างเป็นทางการวันแรก ธ.ก.ส.จึงประกาศโอนเงินไปยังจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด เพื่อสร้างการรับรู้ ประกอบด้วย จังหวัดในเขตภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ทุกสาขา ส่วนภาคอื่น ๆ โอนเฉพาะสาขาอำเภอเมืองหรือสาขาที่ร่วมกิจกรรมเปิดตัวโครงการฯ และได้ทยอยโอนเงินไปยังภาคต่าง ๆ ครบทุกภาค ตามรายชื่อเกษตรกรที่ ธ.ก.ส. ได้รับจากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5 วันติดต่อกัน

จำนวนยอดโอนทั้งสิ้น 3,817,901 ครัวเรือน จำนวนเงิน 44,433 ล้านบาท และเป็นการโอนเงินสำเร็จ3,817,640 ครัวเรือน จำนวนเงิน 44,430 ล้านบาท โดยมีรายชื่อที่โอนเงินไม่สำเร็จ 261 ครัวเรือนจำนวนเงินประมาณ 3 ล้านบาท สาเหตุที่โอนเงินไม่สำเร็จเนื่องจากบัญชีที่เกษตรกรแจ้งไว้ถูกปิดไปแล้วบางบัญชีถูกอายัดและบางบัญชีไม่มีความเคลื่อนไหวมานาน จึงถูกยกเลิกไปแล้ว

การโอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในครั้งนี้ มีเป้าหมายเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ 4.68 ล้านครัววเรือน วงเงิน 54,336 ล้านบาท โดยสนับสนุนในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่หรือ 20,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรอีกกว่า 8 แสนครัวเรือน ที่อยู่ในกระบวนการเตรียมโอนเงิน เนื่องจากธนาคารรอรับข้อมูลการลงทะเบียนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจากกรมส่งเสริมการเกษตรเพิ่มเติม และในการตรวจสอบบางกรณีพบว่า ชื่อที่ขึ้นทะเบียนไม่ตรงกับชื่อบัญชี หรือบัญชีเงินฝากที่แจ้งไว้ไม่มีความเคลื่อนไหว บัญชีถูกปิดหรือถูกอายัด รวมถึงสถานะผู้ได้รับสิทธิ์เมื่อตรวจสอบพบว่าเสียชีวิต ต้องมีการปรับเปลี่ยนผู้รับประโยชน์ เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจในการรับเงินตามสิทธิ์ ขอให้เกษตรกรโปรดตรวจสอบข้อมูลในการรับสิทธิ์ผ่าน https://chongkho.inbaac.com และตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่านบริการ BAAC Connect ทางLine: BAAC Family

ทั้งนี้ ในส่วนของเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว ธ.ก.ส. จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและทำการโอนเงินให้เกษตรกรในลำดับถัดไป โดยจะโอนเงินภายหลังจากที่ได้รับข้อมูลทะเบียนรายชื่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวภายใน 3 วันทำการ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงกันยายน 2567

กรณีที่เกษตรกรมีหนี้ค้างชำระและประสงค์ที่จะนำเงินมาชำระหนี้ เพื่อลดภาระหนี้ของตนเองและรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากธนาคารสามารถทำได้โดยสมัครใจ ซึ่ง ธ.ก.ส. ไม่มีนโยบายบังคับแต่อย่างใด โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือ Call Center 02 555 0555 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...