มี 10,000 บาท ซื้อ Gadget อะไรดี? เมื่อรัฐบาลใหม่กำลังจะให้ "เงินดิจิทัล"

หลังประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นโยบายหนึ่งซึ่งคนไทยตั้งตารอคือการแจก เงินดิจิทัล ให้คนละ 10,000 บาท นอกจากข้าวปลาอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคที่ใช้ประทังชีวิต คนที่กำลังสนใจอุปกรณ์ไอทีหรือกำลังอยากได้ Gadget มาใช้ คงคิดแล้วว่าถ้าฉันได้ 10,000 บาท จะซื้ออะไรดี วันนี้ KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะมาแนะนำ

HUAWEI nova 11i สมาร์ทโฟนน้องเล็กสเปกแรง

ราคาค่าตัวของ HUAWEI nova 11i อยู่ที่ 9,990 บาท (ราคาเปิดตัว) เรียกได้ว่าหมื่นมีทอนของจริง แต่อย่าเพิ่งคิดว่าสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่นจะธรรมดา เพราะมือถือเครื่องนี้มาพร้อมสเปกที่ไม่ยอมน้อยหน้ามือถือเรือธงเลย

ตั้งแต่ดีไซน์ฝาหลังเงางามระยิบระยับพรีเมียมสุดอะไรสุด แถมยังเคลือบผิวป้องกันรอยนิ้วมือให้อีก หน้าจอของ nova 11i ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 90Hz ขอบจอบางเฉียบเพียง 1 มม. ส่วนกล้องอยู่บนโมดูลวงแหวนคู่ ให้มาทั้งกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล มีโหมดถ่ายภาพและวิดีโอครบครัน

ส่วนเรื่องความแรงไม่ต้องห่วงเพราะมาพร้อมชิป Snapdragon 680 4G คู่มากับความจุจุกๆ 8GB + 256GB ให้แบตเตอรี่มาที่ 5000 mAh รองรับระบบชาร์จไว HUAWEI SuperCharge Turbo สูงสุด 40W ชาร์จจาก 0 – 60 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาเพียง 30 นาที

Lenovo Tab M10 (3rd Gen) แท็บเล็ตฟังก์ชันครบรับจบทุกงาน

Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen เป็นแท็บเล็ตระดับกลางที่สเปกดี ใช้งานได้หลากหลาย อัดแน่นด้วยฟังก์ชันครบๆ แถมยังมีปากกามาให้ในกล่องด้วย ราคากลาง 6,990 บาท

แท็บเล็ตเครื่องนี้มีดีไซน์โดดเด่น ให้ความรู้สึกหรูหรา พรีเมียม โดยมีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 80.3 เปอร์เซ็นต์ ให้ภาพเต็มตามากขึ้น ขณะที่ตัวเครื่องบางเพียง 7.5 มม. ส่วนจอเป็นจอ IPS ที่คมชัดระดับ 2K ขับเสียงด้วย Dolby Atmos บนลําโพง 4 ตัว

จุดเด่นอีกอย่างคือ Lenovo Precision Pen 2 ปากกาสไตลัสที่ให้มาในกล่อง เป็นปากกาคุณภาพสูง รองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ ช่วยให้เขียนง่าย จดบันทึกและวาดภาพด้วยอารมณ์การเขียนแบบปากการาคาแพงได้เลยทีเดียว นี่เป็นแท็บเล็ตที่เหมาะกับคนทำงาน แต่ด้วยรีเฟรชเรท 60Hz จึงอาจไม่เหมาะกับคนที่อยากใช้เพื่อเล่นเกมนัก

Beyerdynamic Free Byrd True Wireless หูฟังตัวเด็ดเสียงดี

Beyerdynamic คือผู้เชี่ยวชาญด้านหูฟังมาอย่างยาวนาน และในวงการบันทึกเสียงถือว่าเป็นแบรนด์อันดับต้นๆเลยทีเดียว และ Beyerdynamic Free Byrd ก็คือหูฟังที่ทาง Beyerdynamic ตั้งใจให้เป็นหูฟัง True Wireless ที่เสียงดีที่สุดเท่าที่ Beyerdynamic เคยทำมาในราคา 9,990 บาท

และหูฟังรุ่นนี้ก็ออกมาเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะผู้ใช้หลายคนต่างชื่นชมในเรื่องคุณภาพเสียงที่ดีมาก เรนจ์เสียงกว้าง ให้เสียงแหลมที่นิ่งคมชัด แถมเบสยังแน่นๆ เป็นหนึ่งในหูฟังตัวเทพสไตล์ Studio เลย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์กันน้ำระดับ IPX4 ให้ใช้งานอย่างสบายใจแม้จะโดนเหงื่อ ไม่เพียงแค่นั้นยังมีไมโครโฟนที่คมชัดสุดๆ ใช้งานได้ทั้งฟังเพลงและคุยสายอย่างมีคุณภาพ และแบตเตอรี่อึดถึง 30 ชั่วโมง ที่สำคัญสวมใส่สบายกระชับเข้าหูมาก

Galaxy Watch6

Galaxy Watch6 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่จะมอบประสบการณ์สุขภาพที่ตรงตามความต้องการของทุกคนที่มาพร้อมการแสดงผลที่มากกว่าเดิมถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ขอบหน้าจอสีดำที่บางลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้นี่คือหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ที่สุดของ Galaxy Watch รวมถึงแสดงออกตัวตนได้มากขึ้นด้วยหน้าปัดนาฬิกาที่ปรับแต่งได้เอง ด้วยราคาของรุ่น Bluetooth ขนาด 40 มม. ที่ 9,900 บาท

Galaxy Watch6 ได้รับการออกแบบใหม่ให้บางลงเพื่อทำให้ง่ายขึ้นต่อการสวมใส่ ดีไซน์ทรงกลมที่ดูไร้รอยต่อและไร้กาลเวลา ทั้งการทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีน้ำหนักเบาจึงสวมใส่ได้อย่างสบายสุดๆ

เรื่องความทนทาน Galaxy Watch6 ผลิตจากกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทานมาก ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้จอแสดงผล ส่วนมาตรฐาน IP68 และ 5ATM ก็จะช่วยให้นาฬิกาเรือนนี้ทนทานในทุกการผจญภัย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์มากมายตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งระหว่างนอนหลับ ให้ทุกคนได้มีคู่หูเพื่อสุขภาพติดตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะติดตามขั้นตอนการนอนหลับ, คะแนนการนอนหลับ และความสม่ำเสมอของการนอนหลับในช่วงค่ำคืนได้เพื่อพัฒนาการนอนหลับโดยรวม หรือแพ็คเกจการติดตามหัวใจที่ทำให้คุณอุ่นใจได้ เซนเซอร์ PPG ในตัวจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจเป็นระยะๆ และจะแจ้งเตือนคุณหากอัตราการเต้นของหัวใจนั้นสูงหรือต่ำเกินไป ใช้เซนเซอร์ ECG เพื่อทำการวัดที่ละเอียดกว่าเดิม เป็นต้น

Bose Soundlink Revolve II Bluetooth Speaker ลำโพงพรีเมียมคุณภาพยอดเยี่ยม

Bose Soundlink Revolve II เป็นลำโพงพกพาไร้สายที่พกพาได้สะดวกด้วยขนาดที่ 15.2 x 8.2 x 8.2 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเบามากๆ เพียง 660 กรัมเท่านั้น ในราคา 8,990 บาท

สำหรับการเชื่อมต่อทำได้ทั้งมีสายและไร้สาย โดยไร้สายใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ที่ให้สัญญาณที่เสถียร คมชัด และให้ระยะการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 9 เมตร ส่วนการเชื่อมต่อมีสายนั้นใช้การเชื่อมต่อผ่าน AUX/3.5 mm. รวมถึงยังเชื่อมต่อเข้ากับลำโพง Bose รุ่นอื่นๆ แบบไร้สายด้วยเทคโนโลยี Bose SimpleSync™ ได้ด้วย

ลำโพงรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ทนทาน ไม่กลัวน้ำ ไม่กลัวฝน และไม่กลัวฝุ่น ด้วยมาตรฐานการกันน้ำ IP55 พกพาเอาไปใช้งานได้ทุกที่ นอกจากนี้ที่ด้านบนและด้านล่างตัวเครื่องยังมี Bumper เพื่อความทนทานต่อแรงกระแทก

ส่วนแบตเตอรี่ภายในใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 13 ชั่วโมง ชาร์จครั้งเดียวใช้งานได้เกินครึ่งวันสบายๆ เท่านั้นยังไม่พอ ลำโพงรุ่นนี้มาพร้อมไมโครโฟนที่รับเสียงได้คมชัดไม่ว่าจะใช้งานสนทนาโทรศัพท์ หรือใช้งานสั่งการผู้ช่วยเสียง Voice Assistant รวมถึงยังควบคุมได้ง่ายด้วยปุ่มบนตัวเครื่อง รวมถึงปุ่ม Multi-Function ที่ใช้ควบคุมการเล่นเพลงและเรียกใช้งานผู้ช่วยเสียงได้อีกด้วย

หมายเหตุ : ณ วันเวลาที่คอนเทนต์นี้เกิดขึ้น ยังไม่แน่ชัดว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะซื้ออุปกรณ์ไอทีได้หรือไม่ และมีเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องอย่างไร

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ