สธ.เดินหน้าฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้วกว่า 5 แสนโดส

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. (28 พฤศจิกายน 2566) มีมติรับทราบผลการดำเนินการมาตรการ Quick Win นโยบาย 30 บาทพลัส และข้อเสนอแนะมาตรการหารือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับกรณีการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิด โดยการยกระดับ 30 บาทพลัส ที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ ทั้งการส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีของคนไทย

ผ่านนโยบาย 12 ประเด็น โดย 1 ในนั้น คือนโยบายมะเร็งครบวงจร ซึ่งมะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตการเสียชีวิตอันดับ 1 ของหญิงไทย โดยมีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจาก 11:100,000 ประชากร เหลือเป็น 4 : 100,000 ประชากร ซึ่งการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก 1,000,000 โดสในหญิงอายุ 11-20 ปี เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยได้ปีละอย่างน้อย 4,000 คน ซึ่งตั้งแต่ 8 - 27 พฤศจิกายน 2566 เฉลี่ยวันละ 40,794 เข็ม ฉีดสะสมไปแล้ว 507,506 เข็ม โดย ครม. ยังมีมติรับทราบข้อเสนอแนะมาตรการหารือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับกรณีการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิด 2 มาตรการ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

มาตรการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดก่อนการตั้งครรภ์

  • ระยะสั้น ให้ สธ. สปสช. และ สปส. ปรับปรุงเพิ่มสิทธิการเข้าถึงบริการกรดโฟลิกของหญิงไทยที่เป็นผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคม รวมถึงการขยายสิทธิให้สามารถเข้ารับบริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์หรือบริการส่งวิตามินทางไกล
  • ระยะกลาง ขยายสิทธิไปยังแรงงานต่างด้าวที่เป็นผูประกันตน และดำเนินการเชิงรุก ผ่านการส่งเสริมการแจกกรกโฟลิกในสถานประกอบการขนาดใหญ่
  • ระยะยาว ขยายสิทธิไปยังกลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติและแรงงานต่างดาวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับประชาชนไทย

มาตรการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดระหว่างการตั้งครรภ์

  • ระยะสั้น ให้ สธ. สปสช. และ สปส. ปรับปรุงเพิ่มวงเงินถัวเฉลี่ยให้ครอบคลุมการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม รวมถึงเพิ่มตัวเลือกให้หญิงตั้งครรภ์เลือกตรวจคัดกรอง โดยเสียค่าใช้ส่วนต่างที่ไม่ครอบคลุม และขยายสิทธิไปยังแรงงานต่างด้าวที่เป็นผู้ประกันตน
  • ระยะกลาง ขยายสิทธิไปยังกลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติและแรงงานต่างดาวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับประชาชนไทย
  • ระระยาว เปลี่ยนแปลงการตรวจคัดกรองเบื้องต้นมาเป็นแบบ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทากในครรภ์จากเลือดมารดา) โดยเริ่มจากกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป เป็นประชาชนชาวไทยทั่วไป

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

อเมริกันดราม่า! กองเชียร์จี้ไบเดนลาออก เปิดทาง ‘ประธานาธิบดีแฮร์ริส’ สู่ทำเนียบขาว

เว็บไซต์ Times Now รายงานว่า แม้แฮร์ริสจะยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้วและขอให้ผู้สนับสนุน “สู้ต่อไป” แต่บร...

อีลอน มัสก์ หนุนทรัมป์แทรกแซง 'เฟด' ชูประเด็น #EndtheFed ให้ปธน.คุมแบงก์ชาติ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลาและสเปซเอ็กซ์ และเป็นเจ้าของแ...

การกลับมาของวัฒนธรรม Gothic ทางเลือกของ Gen Z ท่ามกลางป๊อปคัลเจอร์

วัฒนธรรมกอธิค หรือโกธิคที่มีรากฐานมาจาก Dark Romantic ความเข้มข้นทางอารมณ์ และการแสดงออกถึงตัวตนที่แ...

คาด 'วันคนโสดจีน' 11.11 ปีนี้ ยอดขายดีขึ้น แต่แบรนด์เนมหรูยังฟื้นยาก

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เทศกาลวันคนโสด 11.11 ซึ่งเป็นเทศกาลชอปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีของจีน แล...