สธ. คิกออฟฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก 1 ล้านโดส

วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2566) ที่โรงเรียนไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิดกิจกรรมความร่วมมือขับเคลื่อนนโยบายมะเร็งครบวงจร Kick Off การรณรงค์สร้างภูมิ HPV นักเรียนไทยสุขภาพดี ปลอดมะเร็ง "Save Our Children by 1 Million HPV Vaccines"

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2567 กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบาย มะเร็งครบวงจร ที่ครอบคลุมทั้งด้านการส่งเสริม ป้องกัน คัดกรอง วินิจฉัย รักษา และดูแลฟื้นฟูกายใจ

โดยเฉพาะมะเร็งที่เป็นปัญหาสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันและตรวจคัดกรองความเสี่ยงได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น

  • การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง
  • การตรวจปัสสาวะเพื่อคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับ
  • การอัลตราซาวด์คัดกรองมะเร็งท่อน้ำดี
  • การตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งตับ เป็นต้น

โดยการขับเคลื่อน Quick Win 100 วันแรก จะมีการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ในหญิงไทยอายุ 11-20 ปี จำนวน 1 ล้านโดส เริ่มคิกออฟสำหรับนักเรียนหญิงในสถานศึกษาพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนในกลุ่มนักเรียน ให้มีภูมิคุ้มกัน ลดอาการป่วย และการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกในอนาคต สำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไปสามารถรับวัคซีน HPV ได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เพื่อป้องกันมะเร็งในสตรีไทย ตามสโลแกน สวย เริด เชิด สู้มะเร็ง หรือ Women Power No Cancer

ขอเชิญชวนหญิงไทยอายุตั้งแต่ 11 – 20 ปีทุกคน เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV และประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง เข้ารับการตรวจคัดกรอง เช่น คัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองในประชาชนอายุ 30 ปีขึ้นไป การตรวจปัสสาวะหรืออัลตราซาวน์คัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีในประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งหากพบว่าป่วยจะได้รับการรักษาทันท่วงที ช่วยลดการเสียชีวิต รวมถึงเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกคนและปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  กล่าวว่า จากนโยบายมะเร็งครบวงจรนี้ สปสช. ได้สนับสนุนการจัดบริการมะเร็งปากมดลูก ภายใต้สิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ประกอบด้วย บริการวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ลดโอกาสเสี่ยงต่อโรค ในส่วนของสปสช.มีส่วนในการสนับสนุน 2 ส่วน คือ การเตรียมวัคซีนHPV ไว้ 1.9 ล้านเข็ม และ การเตรียมค่าใช้จ่ายให้หน่วยบริการแล้วซึ่งมีความพร้อม

นอกจากนี้ สปสช.จะมีการขยายเพิ่ม 1 ล้านเข็มเราได้มีการเตรียมแผนซื้ออีก 1.7 ล้านเข็ม โดย1ล้านเข็มแรกเราเตรียมให้กับกลุ่มเป้าหมายคือเด็กอายุ 11 ปี หรือป.5 ในส่วนที่เรามีการเก็บตกก็ สามารถใช้วัคซีนของสปสช.ได้เลย ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขได้มาก็สามารถนำมาบูรณาการฉีดเพิ่มเติมได้เลย เชื่อว่าเพียงพอกับการรณรงค์ 100 วันแรก หลังจาก 100 วันแรก สปสช.ก็จะเริ่มเข้าสู่วาระปกติ หากไม่มีการขยายอายุเพิ่มขึ้นก็จะเข้าสู่วาระปกติ ปีหน้า เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ก็จะได้รับวัคซีนครบทุกคน สิทธิประโยชน์ของสปสช.กลุ่มเป้าหมายเด็ก ป. 5 ที่มีจำนวน 400,000 คนทุกปีจะได้รับวัคซีนครบทุกคน

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...