ตลอดเวลา 5 ปี ที่พาชุมชนรอบข้าง ธุรกิจรอบด้าน กิจการรอบตัว และประเทศไทย เติบโตไปด้วยกัน ในฐานะหัวเรือสำคัญของไอคอนสยาม “สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังความสำเร็จของ “ไอคอนสยาม” ในการแผ้วถางทางสู่ความเป็นโกลบอลเดสติเนชันอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก การันตี ฝีมือด้วย 25 รางวัลจากองค์กรชั้นนำระดับนานาชาติ
“ไอคอนสยามภูมิใจที่ได้ทำภารกิจสำคัญตามวิสัยทัศน์ของผู้ร่วมลงทุน ทั้งสยามพิวรรธน์, บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และบริษัทแม็กโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยสร้างแม่เหล็กดึงดูดให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลก จนปัจจุบันไอคอนสยามได้รับการยกย่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวไทย และนักท่องเที่ยวทุกมุมโลก ให้เป็น Global Destination แห่งใหม่ และสัญลักษณ์ประเทศไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแท้จริง”
อะไรคือพันธกิจใหญ่ของ “ไอคอนสยาม” ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ไอคอนสยามได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นผู้พลิกเกมครั้งใหญ่ และเป็นภาคส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้แข็งแกร่งขึ้นหลังวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา โดยสร้างศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ บนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรี ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองกระจายผลประโยชน์ในวงกว้างไปได้มาก โดยในปี 2567 ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อให้เกิดประโยชน์นานาประการแก่ชุมชนที่รายล้อมและบรรดาธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด
...
“ไอคอนสยาม” มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมากเพียงใด
เราสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานมากกว่า 300,000 อัตรา เพิ่มมูลค่าของที่ดินบริเวณถนนเจริญนครและใกล้เคียง จากตารางวาละ 150,000 บาท ในปี 2561 กลายเป็น 640,000 บาท ในปี 2566 ภาครัฐบาลยังเข้ามาสานต่อในการปรับโครงสร้างพื้นฐาน วางระบบขนส่งเชื่อมต่อคมนาคมขนาดใหญ่ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีทอง แผ่ขยายการเดินทางครอบคลุมทั้ง “รถ-ราง-เรือ” ช่วยให้ประชาชนและกลุ่มนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้หลากหลาย สร้างสีสันให้ธุรกิจการค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยากลับมาคึกคัก
อะไรทำให้ “ไอคอนสยาม” เป็นโครงการสุดยอดไอคอนิก
เรานำสิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก ภายใต้แนวคิด “The Best of Thailand Meets The Best of The World” เป็นการนำเสนอคุณงามความดีในทุกมิติของความเป็นไทย พร้อมความยิ่งใหญ่ของสิ่งมหัศจรรย์จากทุกมุมโลก รวมกันให้ปรากฏเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ไอคอนสยามถือเป็นต้นแบบการพัฒนาโครงการเมืองด้วยแนวคิดความยั่งยืน เติบโตและทำธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การร่วมกันรังสรรค์ (Co-Creation) และการสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Value) ทำให้เราเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนกับทุกภาคส่วน เกิดผลตอบรับเชิงบวกสู่สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนสำคัญที่นำไอคอนสยามก้าวสู่ความยิ่งใหญ่บนเวทีโลกได้สำเร็จ ชัยชนะครั้งนี้เกิดจากพลังความร่วมมือจากพันธมิตรทุกคนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชนโดยรอบที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด
...
ทำไมคนตัวใหญ่อย่าง “ไอคอนสยาม” เน้นสนับสนุน SMEs
เราภูมิใจที่การเติบโตทางธุรกิจของไอคอนสยาม ได้ส่งต่อความสำเร็จและความรุ่งเรืองไปยังพันธมิตรโดยรอบจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ที่อยู่ในเมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 12,700 ราย ได้เติบโตไปกับเรา และกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว และเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากในโซเชียลมีเดียทั่วโลก รวมถึงแบรนด์ไทยอีก 840 ราย บนพื้นที่ “ไอคอนคราฟต์” ชั้น 4-5 สามารถนำเสนอผลงานของช่างฝีมือไทย เพื่ออวดสายตานักเดินทางจากทั่วโลก
...
หลังวิกฤติโควิด “ไอคอนสยาม” กลับมาแกร่งกว่าเดิมหรือยัง
ผลประกอบการของไอคอนสยามยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้น 25% จากปี 2565 โดยประสบความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าประจำ ทั้งคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยกลยุทธ์การส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมาย การจัด World Class Event อย่างสม่ำเสมอ และการเป็นศูนย์รวมงานศิลปะไทยและศิลปะระดับโลก ภายใต้แนวคิดการทำงานแบบ Collaborate to Win ทำให้ไอคอนสยามประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ส่งผลให้ธุรกิจของคู่ค้าพันธมิตรภายในศูนย์การค้าเติบโตได้ดีไปพร้อมกัน
...
ฉลองครบรอบ 5 ปี “ไอคอนสยาม” มีอะไรมาเซอร์ไพรส์แฟนๆ
เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นเศรษฐกิจดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและทั่วโลก แคมเปญฉลองครบรอบ 5 ปีของไอคอนสยาม จึงทุ่มงบ 500 ล้านบาท จัดเตรียมแผนการตลาดคึกคักข้ามปี มีทั้งกิจกรรมมหาปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ World Class Event โปรโมชันเร้าใจ และกิจกรรมบันเทิงมากมาย โดยนำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในด้านต่างๆเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ทุกคนมาเยี่ยมชม รวมถึงร่วมมือกับ ททท. และ กทม. จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี เช่น การแสดงแสงสี วิจิตร เจ้าพระยา และงาน Amazing Thailand Countdown 2024 โดยแคมเปญจัดยาวต่อเนื่อง 5 เดือนไปถึงเดือน ก.พ.2567 มั่นใจไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 70% ไอคอนสยามยังร่วมกับบัตรเครดิตกสิกรไทย จัดแคมเปญโปรโมชันสุดพิเศษ “ICONSIAM-The 5th Anniversary of The ICON Unrivaled” วันที่ 9 พ.ย.2566 ถึง 14 ม.ค.2567 โดยมีรางวัลรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3, เครื่องเพชรจาก Jubilee, ไมล์เดินทางจากสายการบิน Qantas พร้อมของรางวัลอื่นๆมากมาย มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท พร้อมร่วมกับ Klook, Trip.com และ KKday จัดแคมเปญพิเศษให้นักท่องเที่ยวที่มาช็อปปิ้งในไอคอนสยาม และมอบ Exclusive Welcome Package ให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมพันธมิตร 14 โรงแรม เพื่อส่งมอบความสุข เติมเต็มประสบการณ์ช็อปที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกคน
ในโอกาสพิเศษครบรอบ 5 ปีไอคอนสยาม สำหรับเดือน พ.ย.นี้ กิจกรรมไฮไลต์อยู่ที่การจับมือฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท เปิดตัว “โอลาฟ” (Olaf) ตัวละครจากแอนิเมชันชื่อดัง “Frozen” ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อประเทศไทย โดยมีขนาดใหญ่สูง 10 เมตร ผสานความเป็นไทยด้วยการนั่งเอนพิงหมอนสามเหลี่ยมแบบไทยๆ สร้างสีสันให้พื้นที่ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G จนถึงสิ้นเดือนนี้ ส่วนต้นปีหน้าเตรียมพบกับการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลต้อนรับปีมังกร โดย “มิเกล เชอวาลิเยร์” ศิลปินฝรั่งเศสผู้โด่งดังไปทั่วโลกจากการบุกเบิกศิลปะดิจิทัล นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลประดับไฟตกแต่งอิลลูมิเนชันประจำปีที่งดงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเฉลิมฉลองบรรยากาศแห่งความสุขต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
คึกคักสมกับเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และต้นแบบการพัฒนาโครงการเมืองอย่างยั่งยืนจริงๆ.
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
