“นายกฯนิด” ขอ 10 วันชง ครม.เคาะเลขาฯ สมช.คนใหม่ ยันจะคนในหรือคนนอกข้ามห้วยไร้ปัญหา นัดถกบอร์ดชุดใหญ่ลุยเงินดิจิทัลวอลเล็ตสัปดาห์หน้า สำรวจโรงอาหาร ทำเนียบฯ เจอแม่ค้าโวยไข่ไก่แพง น้ำตาลทรายขึ้น รัฐบาลตีปี๊บปั่นผลงานผุดศูนย์แก้อาชญากรรมออนไลน์หรือเอโอซี 1441 “ชัย” ฟุ้งลดภัยออนไลน์ได้ใน 3 เดือน “ก้าวไกล” ระส่ำ สส.-สก.ไล่บี้ สส.ฉาวกามพ้นพรรค เปลี่ยนโปรไฟล์สีดำประท้วงมติพรรคเสียงไม่พอขับ “ไชยามพวาน” “ไอซ์ รักชนก” รับไม่ได้ เว้นวรรคกิจกรรมพรรค ลั่นขอลาป่วยรักษาบาดเจ็บในหลักการ จนกว่าผู้ก่อเหตุจะแถลงรับผิดและขอโทษเหยื่ออย่างจริงใจ “ช่อ-ปิยบุตร” ออกโรงกดดัน “ปูอัด” ไขก๊อก “โรม” แนะ 2 สส.ชายโชว์สปิริต “วุฒิพงศ์” ไม่ลาออก โอดพิษการเมืองในพรรคเล่นงาน “ไอติม” แจงครหาป้องพวกพ้อง ยันชูมือขับ สส.ไม่มีเด็กเส้น
จากกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะมีการโอนย้าย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร.ที่เคยรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุต้องใช้เวลาอีกประมาณ 10 วัน จึงจะสามารถเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแต่งตั้งเลขาธิการ สมช.คนใหม่ได้
นายกฯขอ 10 วันตั้งเลขาฯ สมช.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 พ.ย. ที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เป็นประธานประชุม สมช.ครั้งแรก มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการ สมช.ในฐานะรักษาการเลขาธิการ สมช.เข้าร่วม
จากนั้นเวลา 09.30 น. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งเลขาธิการ สมช.คนใหม่ว่า ตอนนี้ยังไม่แต่งตั้ง ต้องรอขั้นตอนกฎหมาย คงอีกประมาณ 10 วัน จึงจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ เมื่อถามว่าข้อกฎหมายคือการโอนย้ายใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เอาไว้ก่อนแล้วกัน อย่าเพิ่งเลย เอาความเหมาะสมดีกว่า ยังไม่เหมาะสมที่จะพูด แต่ยืนยันไม่มีปัญหาอะไร สมช.ปฏิบัติงานได้เต็มสมรรถภาพอยู่แล้ว ไม่มีตกหล่น จะเป็นคนนอกคนใน ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า ต้องให้กำลังใจคนในหรือไม่ ที่ยังไม่สามารถขึ้นได้เลย อาจต้องนำคนนอกมานายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น รักษาการเลขาธิการ สมช.พูดอยู่แล้ว วันนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความสุข เดี๋ยวสัมภาษณ์ท่านอีกทีก็ได้ ถ้าไม่เชื่อถามท่านดู
...
สัปดาห์หน้าถก คกก.เงินดิจิทัลฯ
เมื่อถามถึงการนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอตเล็ต นายเศรษฐากล่าวว่า “ครับ ใกล้แล้วครับ ทันสัปดาห์หน้า” เมื่อถามว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอตเล็ตระบุว่าสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตชุดใหญ่ใช่หรือไม่ นายกฯตอบรับเพียงว่า“ครับ”
แม่ค้าทำเนียบฯโอดไข่ไก่แพง
ต่อมาภายหลังการประชุม สมช.นายกฯได้เดินเท้าเพื่อกลับห้องทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยได้แวะเยี่ยมชมและทักทายพูดคุยบรรดาร้านค้าที่ขายอาหารภายในทำเนียบรัฐบาลถึงภาวะค่าครองชีพ โดยแม่ค้าบอกว่า ตอนนี้ราคาค่อนข้างแพง อย่างไข่ไก่ฟองละ 4.50 บาท น้ำตาลทรายก็แพง โดยนายกฯกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้นำน้ำตาลทรายเข้าเป็นสินค้าควบคุมแล้ว นอกจากนี้นายกฯยังสอบถามราคาน้ำมันพืช เป็นสินค้าควบคุมราคาใช่หรือไม่ แม่ค้ากล่าวว่า ราคาน้ำมันพืชขายส่งอยู่ที่ขวดละ 43-45 บาท
เผยทำไอเอฟรักษาสุขภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นบรรดาแม่ค้าได้เชิญชวนให้นายกฯรับประทานอาหารเช้าที่ร้าน นายเศรษฐากล่าวขอบคุณพร้อมระบุว่า อาหารน่าทานแต่ตอนนี้ทานไม่ได้ งดอาหารเช้าเพื่อรักษาสุขภาพ จะได้พักลำไส้บ้าง ช่วงเช้าจะดื่มน้ำและกาแฟไม่ใส่น้ำตาลอย่างเดียว เมื่อถามว่าเป็นลักษณะการทำไอเอฟใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ประมาณนั้น ใช้สูตร 16 ต่อ 8 เมื่อถามว่าทำมานานแล้วหรือยัง นายกฯกล่าวว่า ทำได้ก็ทำ เนื่องจากเวลาออกกำลังกายมีน้อย ทำเท่าที่ทำได้ตอนนี้ทำได้เพียงอดอาหารเช้า จากนั้นนายกฯเข้าเยี่ยมชมร้านกาแฟซิตี้พลัส ร้านกาแฟที่เปิดสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯที่เปิดโอกาสให้ผู้พิการประกอบอาชีพ โดยนายกฯสอบถามถึงการเข้ามาทำงาน พร้อมสั่งกาแฟอเมริกาโน่เย็นไม่ใส่น้ำตาล พร้อมเค้กช็อกโกแลต โดยควักกระเป๋าสตางค์หยิบเงินส่วนตัวหยอดลงในกล่องทิป 1,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมสั่งให้คณะทำงานสั่งไอศกรีมวานิลา เค้กช็อกโกแลต มารับประทานช่วงเที่ยงด้วย
ถก “สุริยะ–ปลัด คค.” ลุยแลนด์บริดจ์
จากนั้นเวลา 10.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำนายซุง อุย ซึน ประธานบริหารฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป และคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกฯเพื่อแสดงเจตนารมณ์และความเชื่อมั่นในการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ในไทย จากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯได้เรียกนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า หารือโครงการแลนด์บริดจ์ จากนั้นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.คลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เข้าหารือ
ต่อมานายกฯได้ทวีตภาพและข้อความผ่าน X ว่า มื้อเที่ยงวันนี้ เชิญ รมว.คมนาคม ปลัดกระทรวงคมนาคมพร้อมทีมงานมาทานข้าวเที่ยง พร้อมประชุมเตรียมข้อมูลโครงการแลนด์บริดจ์ สำหรับการประชุม เอเปกที่กำลังจะเกิดขึ้น เชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถดึงดูดนักลงทุน และยกระดับการพัฒนาประเทศไทยไปข้างหน้าอีกขั้นหนึ่ง
จ่อนั่งรถไฟลุยงานชลบุรี–ระยอง
ต่อมาเวลา 13.05 น. นายเศรษฐาเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล แหล่งข่าวคนใกล้ชิดเปิดเผยเพียงว่านายกฯไปประชุมข้างนอก ขณะที่ช่วงเย็นนายกฯใช้เวลานอกราชการเตะฟุตบอลออกกำลังกาย ที่โปโลคลับ ย่านบ่อนไก่ เป็นการส่วนตัว เพื่อผ่อนคลายหลังโหมงานหนักมาตลอด 2 เดือนหลังเข้ามารับตำแหน่งนายกฯ ขณะที่วันที่ 4 พ.ย. นายกฯมีกำหนดลงพื้นที่ จ.ชลบุรี-ระยอง ออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงไปยังสถานีรถไฟแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมท่าเรือแหลมฉบัง และเดินทางไปอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และเยี่ยมชมศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จากนั้นนายกฯจะเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
“เศรษฐา” ปัดไม่ใช่หุ่นเชิดของใคร
ช่วงค่ำ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ชี้แจงประเด็นไม่ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่สื่อบางสำนักโจมตีว่าเป็นหุ่นเชิดของพรรค พท.หรือตระกูลชินวัตรว่า พรรค พท.ไม่มีนโยบายยุบ กอ.รมน.ในการหาเสียง และไม่อยู่ในนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา แต่พรรค พท. และรัฐบาลที่นำโดยพรรค พท.มีความประสงค์ที่จะทำกองทัพให้ทันสมัย สอดคล้องกับความเป็นประชาธิปไตย มากขึ้น ในส่วนของ กอ.รมน.เราตระหนักดีว่าบทบาทปราบปรามศัตรูของรัฐ ในยุคสงครามเย็น บัดนี้ในยุครัฐบาลพลเรือน จะทำให้ กอ.รมน.มีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงทางประชาธิปไตย ปกป้องสิทธิ เสรีภาพของประชาชน และในยามวิกฤติพร้อมช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประชาชนด้วย พรรค พท.และรัฐบาลนี้เชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาเกือบ 20 ปี เรายืนยันไม่เลือกหนทางที่จะหักโค่นทำลายกันและกัน แต่จะเลือกวิธีประสานแนวคิด วิธีการทำงานให้เป็นคุณต่อประชาชน เพราะตระหนักดีว่าความต่อเนื่องของการเมืองในระบอบการเลือกตั้งคือหัวใจของประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและสันติที่สุด ตนเป็นนายกฯที่เป็นแคนดิเดตของพรรค พท. หาเสียงและขอฉันทามติจากเสียงของประชาชนและรัฐสภา ไม่ใช่หุ่นเชิดของใคร โปรดอย่าดูหมิ่นประชาชน
ประสานเมียนมาช่วย 162 คนไทย
ต่อมานายเศรษฐาทวีตข้อความผ่าน X ว่าได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาที่มีคนไทยและชาติอื่น ๆ ติดอยู่ในเมืองเล่าก์ก่ายจากการสู้รบ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ประสานทางการเมียนมาให้ช่วยเหลือคนไทยจำนวน 162 คน และจัดให้พักในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตกำลังหารือกับทางการเมียนมา เพื่อช่วยให้คนไทยทั้งหมดกลับไทยโดยเร็ว
“สุทิน” โต้ ก.ก.จะพูดอะไรก็ได้
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เรียกร้องให้ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า คนไม่ได้เป็นรัฐบาลก็พูดได้ แต่การจะยุบต้องประเมินปัจจัยหลายอย่าง การปรับโครงสร้างกำลังพลของกองทัพ คณะทำงานกำลังสรุปมาให้เป็นระยะๆ ยังไม่เห็นแนวทางปรับลดอย่างเป็นรูปธรรม ตามแผนเดิมกองทัพทำมาคาดว่าปี 2570 จะปรับกำลังพลได้มาก และจะเพิ่มมาตรการเกษียณอายุราชการ ก่อนกำหนดแบบใหม่ จะเป็นแรงจูงใจให้พลทหารที่ไม่ใช่สายหลักเข้าสู่ระบบเยอะ และจะทำให้กำลังพลลดลงมาก ตัวเลขยังไม่ชัดเจน แต่ยืนยันลดลงเยอะในปี 2570 โดยเฉพาะระดับนายพลจะลดลงไม่น้อยกว่า 20-30% ภารกิจของกองทัพก็ต้องปรับ โดยเฉพาะภัยคุกคามใหม่
ปรับทหารเกณฑ์จบพร้อมเพื่อน
เมื่อถามถึงนโยบายการเกณฑ์ทหาร หรือการรับสมัครทหารทางออนไลน์ นายสุทินกล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.รายงานตัวรอบแรกของทหารที่สมัครใจ เปรียบเทียบกับปีที่แล้วมีการสมัครมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดี ขอฝากลูกหลานเยาวชนเดิมคิดว่า 2 ปีที่เข้ามาเป็นทหารเกณฑ์จะเสียโอกาส ชีวิตสะดุด เรากำลังทำให้เป็น 2 ปีแห่งการเพิ่มโอกาสของชีวิต เมื่อทุกคนเข้ามาเป็นทหารเกณฑ์จะได้รับโอกาสใหม่ๆดีๆ กองทัพกำลังเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากที่เอาคนมาฝึกทหาร มาเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เติมการพัฒนาทุกมิติ สามารถเรียนต่อได้ และจบพร้อมกับผู้อื่นที่ไม่ได้มาเป็นทหาร มีระบบเรียนออนไลน์ที่ใช้เทียบวุฒิได้ ใครกำลังศึกษาอยู่เรียนต่อได้เลย แม้ต้องเกณฑ์ทหาร กองทัพได้ประสานกับมหาวิทยาลัยไว้แล้ว และจะทําเอ็มโอยูกับทบวงมหาวิทยาลัย จะเริ่มนำร่องบางแห่งก่อน และจะพยายามให้ครอบคลุมทั้งหมด
รบ.ผุดศูนย์แก้อาชญากรรมออนไลน์
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) หรือ AOC 1441 เป็นศูนย์ One Stop Service ให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาภัยออนไลน์ สำหรับประชาชน เพื่อยกระดับการทำงานให้บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ บูรณาการการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ รูปแบบ One Stop Service 24 ชั่วโมง เพราะปัญหาอาชญากรรมออนไลน์สร้างความเสียหายต่อประชาชน เศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง มีคดีกว่า 330,000 คดี ความเสียหายสูงกว่า 45,000 ล้านบาท ระยะ 1 ปี 7 เดือน (1 มี.ค.65-30 ก.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เน้นย้ำการทำงานเชิงรุก เพื่ออำนวยความสะดวก ช่วยเหลือประชาชนทุกคน เชื่อมั่นว่าการจัดตั้งศูนย์ AOC สายด่วน 1441 เป็นการประยุกต์การทำงานให้แก้ไขปัญหาภัยออนไลน์ให้ประชาชน เมื่อมีการใช้เทคโนโลยีที่ดี ระบบส่งข้อมูลทันเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้บังคับใช้กฎหมายจะดำเนินคดีหาตัวผู้กระทำความผิดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำงานตอบโจทย์รวดเร็วและเบ็ดเสร็จ เชื่อมั่นว่าลดปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เป็นรูปธรรมได้ภายใน 3 เดือน
ผู้มีรายได้น้อยค้างค่าไฟได้ 3 เดือน
นายชาติชาย ภุมรินทร์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยความคืบหน้านโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในการอนุญาตให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถค้างค่าไฟได้ในจำนวนเดือนที่มากขึ้น เพื่อเป็นการบรรเทาภาระประชาชนว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับทราบนโยบายดังกล่าวแล้ว และได้เร่งดำเนินการทันที โดยวันที่ 3 พ.ย. จะประชุมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเดินหน้าเป็นรูปธรรม คาดว่าทำได้ในเดือน ธ.ค.เลย เป็นไปตามแนวคิดของ รมว.มหาดไทย เรื่องการช่วยเหลือประชาชน ยิ่งทำเร็ว ยิ่งเป็นผลดี เบื้องต้นที่กำหนดไว้คือจะต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน ค้างค่าไฟได้ 3 เดือน แน่นอนว่าหน่วยงาน พร้อมสนองนโยบายและช่วยเหลือประชาชน ทุกฝ่ายต่างเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ กำลังเร่งมือสู่การปฏิบัติจริงให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นโยบายดังกล่าวมาจากแนวคิดของนายอนุทินเมื่อครั้งไปตรวจเยี่ยมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ นอกจากจะสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดในหน่วยงานราชการแล้ว ยังมุ่งเน้นลดภาระกับประชาชน รวมถึงการอนุญาตให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยค้างจ่ายค่าไฟได้ในจำนวนเดือนที่มากขึ้น เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชนด้วย
ปชป.พร้อมร่วมมือแก้ รธน.
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะพรรคฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับผลประโยชน์ของประชาชน ตั้งแต่สิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภค สิทธิในที่ดินทำกิน การกระจายอำนาจ การป้องกันการทุจริต รวมถึงการประกาศที่จะแก้ไขในหมวดของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้เสียงของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นกรอบกำหนดตายตัว และให้ใช้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ที่สำคัญมีหนึ่งฉบับที่ประสบความสำเร็จที่แก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งในปี 2566 ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แม้พรรคยังไม่ได้มีมติมอบหมายใครคนใดคนหนึ่งไปเข้าร่วมในคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้น แต่พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่ต้องไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ยืนยันอีกครั้งว่าการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมทำงานในรัฐสภาได้ แต่เรื่องใดที่อุดมการณ์แตกต่างกัน เราจะไม่ไปร่วม โดยเฉพาะหากแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของหมวด 1 และหมวด 2 คงต้องเดินกันคนละทาง
อนุประชามติ ถก.กมธ.พัฒนาการเมือง
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายนิกร จำนง เป็นประธานเข้าร่วมประชุมกับคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. เป็นประธานกมธ. หารือการออกแบบคำถามในการทำประชามติ แบบใด ครอบคลุมทุกประเด็น จากนั้นเวลา 15.15 น. นายพริษฐ์กล่าวว่า คณะอนุฯแจ้งว่าต้องการจะทำแบบฟอร์มสอบถามความเห็น สส.ทั้ง 500 คน เห็นด้วย หรือไม่กับการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือเห็นอย่างไรกับการทำสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงปัญหาที่ สส.มองว่ารัฐธรรมนูญปี 60 สมควรแก้ไข
ตั้งอนุ กมธ.ศึกษากรอบตั้ง ส.ส.ร.
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า กมธ.ได้ตั้งอนุกรรมาธิการ 1 ชุด 10 คน ประกอบด้วยฝ่ายการเมือง 4 คน แบ่งเป็น 2 คน จากฝ่ายค้านรวมตนด้วย และอีก
2 คน จากฝ่ายรัฐบาล อีก 3 คน เป็นนักวิชาการ และอีก 3 คนเป็นตัวแทนภาคประชาชน 3 กลุ่มที่ขับเคลื่อนเรื่องรัฐธรรมนูญ จะเริ่มประชุมนัดแรกวันที่ 3 พ.ย. อนุกรรมาธิการฯจะมาศึกษาระบบเลือกตั้ง ส.ส.ร. หากอยู่ภายใต้กรอบ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เราออกแบบระบบเลือกตั้ง และทางเลือกอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้เป็นระบบเลือกตั้งตอบโจทย์ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าความนิยมของประชาชน ความหลากหลายทางวิชาชีพ กลุ่มสังคม รวมถึงมีพื้นที่ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เมื่ออนุฯศึกษาระบบเลือกตั้งเสร็จทั้งหมดจะนำรายงานและข้อเสนอส่งไปให้กับคณะกรรมการของรัฐบาล
“นิกร” ฝากการบ้านแก้ ก.ม.ประชามติ
ด้านนายนิกรกล่าวว่า กมธ.ให้ความเห็นดีประเด็นต้องปรับปรุงหลายส่วน อาจเป็นคำถามเฉพาะของ สส.ก่อน เพราะเป็นโหวตเตอร์ เช่น เดิมเรามีการตั้งคำถามว่าตามนโยบายของรัฐบาล การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยเว้นหมวด 1 หมวด 2 แต่คณะ กมธ.ให้ความเห็นว่าถ้าไม่เว้นหมวด 1 หมวด 2 จะมีคำถามหรือไม่ เรารับไปคุยอีกครั้ง อาจต้องมีคำถามมากขึ้น มีเรื่องที่เห็นแย้งคือ ส.ส.ร.ได้ข้อสรุปว่าจะถามว่ามี ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งหรือไม่ และให้มีหรือไม่ จะมีรายละเอียดอย่างไร อาจให้คณะกมธ.ที่ตั้งโดยสภาฯในอนาคตเป็นผู้พิจารณาว่าจะทำอย่างไร เรายังคุยถึงแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรแก้ คณะอนุฯและชุดที่ศึกษาเห็นว่าเราจะแก้ไปก่อนโดยใช้กฎหมายปัจจุบัน เดี๋ยวจะหาว่าเตะถ่วง แต่เห็นด้วยที่จะให้กมธ.พัฒนาการเมืองฯไปยกร่าง อาจต้องปรับปรุงกฎหมายประชามติ เช่น ต้องถามกี่ครั้ง เพราะครั้งหนึ่งต้องใช้งบฯถึง 3 พันล้านบาท ซึ่งการทำประชามติ อาจจะมีเรื่องอิเล็กทรอนิกส์มาด้วยหรือไม่ อาจต้องฝาก กมธ.พัฒนาการเมืองไปพิจารณาด้วย
สส.–สก.ไล่บี้ สส.ฉาวพ้นก้าวไกล
อีกเรื่อง หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และ สส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง ก่อนลงมติว่านายวุฒิพงศ์ ทองเหลา หรือ “แจ้” สส.ปราจีนบุรี และนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ “ปูอัด” สส.กทม.มีพฤติการณ์คุกคามทางเพศ โดยลงโทษขับนายวุฒิพงศ์ออกจากพรรค ส่วนนายไชยามพวาน ไม่สามารถขับออกได้เนื่องจากมติให้ขับออกเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของที่ประชุม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ทราบผลมติขับนายไชยามพวานพ้นพรรคไม่ได้ บรรดา สส.และ สก.หญิงและอดีตแกนนำพรรคบางส่วน ได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์แพลต ฟอร์มส่วนตัวเป็นสีดำ เป็นเชิงสัญลักษณ์กรณีเสียงของมติที่ประชุมพรรค ก.ก.เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ไม่เพียงพอต่อการขับนายไชยามพวาน ออกจาก พรรค อาทิ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิธินันท์ สส.กทม. น.ส.ภัสรินทร์ รามวงศ์ สส. กทม.และ น.ส.ภัสราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย สก.กทม.โพสต์ว่า หน้าด้าน ไม่มีความละอายแก่ใจ เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนประชาชน และเเท็กไปบัญชีทวิตเตอร์@chaiyampar waan ของนายไชยามพวานด้วย ขณะที่ สส.ชายพรรค ก.ก. อาทิ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อโพสต์รูปสีดำพร้อมขึ้นแคปชันว่า ไชยามพวาน คุณควรลาออก
“ไอซ์” ขอเว้นวรรคสังฆกรรมพรรค
ด้าน น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก.ก.โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า โหวตให้ขับออกทั้ง 2 กรณี และก่อนหน้านี้ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ เมาแล้วขับ ถูกจับประกาศลาออกทันที สร้างมาตรฐานไว้สูงลิ่ววันนี้น่าผิดหวังมาตรฐานรับผิดชอบต่อสังคมของเพื่อนสมาชิกที่กระทำผิดในกรณีอื่นๆร้ายแรง ยิ่งกว่านั้นคือยังไม่ยอมรับในความผิดของตนในที่ประชุมมีข้อตกลงว่ากรณีที่มีมติไม่ขับ ต้องให้ผู้กระทำสำนึกผิด ขอโทษสังคม ขอโทษเหยื่อ เยียวยาเหยื่อและระหว่างรอ ผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและเหยื่อ ไอซ์จะขอหยุดร่วมกิจกรรมกับพรรค หยุดร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมาชิกในพรรค กิจการในโควตาและขอลาป่วย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในหลักการ จนกว่าจะมีการแถลงรับผิดและขอโทษเหยื่ออย่างจริงใจของผู้กระทำ
“ปิยบุตร–ช่อ” ร่วมกดดัน
ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาเคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์ เรียกร้องให้นายไชยามพวาน แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเช่นกัน
“โรม”แนะ 2 สส.ชายโชว์สปิริต
นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก.ก.กล่าวกรณีมติพรรคที่ลงโทษ 2 สส. มีพฤติ การณ์คุกคามทางเพศว่า หาก สส.ที่ถูกตรวจสอบรับผิดชอบแสดงสปิริตด้วยการลาออกจะเป็นผลดีที่สุดกับทุกฝ่าย ส่วนกรณีที่พรรคมีมติต่างกันใน 2 กรณี ไม่ใช่ช่วยเหลือกันหรือใช้เส้นสาย เพราะ 2 กรณีไม่สามารถนำข้อเท็จจริงเทียบกันได้ หลัง พิจารณารายงานของคณะกรรมการวินัยพรรคและที่ประชุม สส.ที่รับฟังนานกว่า 5 ชั่วโมง สส.พรรคได้ตัดสินตามดุลพินิจ ไม่ใช่การช่วยกัน และไม่มีการเมืองภายในพรรค ทุกคนใช้ดุลพินิจพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ แม้หลังมติพรรคที่ออกมาจะมี สส.บางคนไม่เห็นด้วยด้วยใช้สัญลักษณ์ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นสีดำ ถือเป็นสิทธิที่แสดงออกได้ พรรค ก.ก.เป็นพรรคที่มีความหลากหลาย จึงไม่ห่วงว่าจะเป็นประเด็นในระยะยาว ที่ต้องทำความเข้าใจ และรณรงค์เรื่องความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นทั้งภายในพรรคและสังคมภายนอก
“แจ้” คาใจ กก.สอบ–ไม่ไขก๊อก สส.
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์กรณีถูกขับออกจากพรรค ก.ก.ว่า เสียหายทั้งส่วนตัว ครอบครัว ผิดหวังที่มีมติรุนแรงที่สุด มีกรรมการวินัยบางคนแถลง 2 ครั้งก่อนพรรคมีมติ เป็นการชี้นำหรือไม่ ตนเคารพการตัดสินใจของพรรคแต่เป็นธรรมหรือไม่ การที่ สส.เป็นกรรมการเหมาะสมหรือไม่ การสอบสวนควรเป็นแพทย์ จิตแพทย์ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ตนเป็น สส.ภูธร ไม่มีเพื่อนการเมือง เคยเสนอให้ใช้กระบวนการความยุติธรรมภายนอก แต่พรรคใช้กระบวนการภายใน เมื่อถามต่อว่ามีข้อเรียกร้องให้ลาออกจากการเป็น สส. นายวุฒิพงศ์ตอบว่า เหตุการณ์ยังพิพากษาไม่ถึงที่สุด ขณะที่เราไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ แต่เราตั้งตัวเป็นศาลเพื่อตัดสิน เมื่อถามว่าพร้อมจะลาออก สส.ให้เลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายวุฒิพงศ์ตอบว่า การแก้ปัญหาในพื้นที่ยังค้างคาอยู่ ถ้าเราก้าวถอยหลายคนจะยิ้มรอ มันมีเรื่องการเมืองหลายอย่างอยู่
โวยโดนพิษการเมืองในพรรค
นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับพรรคไหนเอาไว้ ส่วนเรื่องครอบครัวให้ดูข้อความในไลน์ตลอด คนที่ตนคบด้วยคือเพื่อน สถานะตนเป็นโสด ไม่มีปิดบังใคร ผู้ช่วยทีมงานรู้หมด เมื่อถามว่ามองว่าตัวเองไม่ได้ผิดกับทุกข้อกล่าวหา นายวุฒิพงศ์ตอบว่า ยอมรับว่ามีการพูดคุยเป็นความผิดในบางส่วน แต่เรื่องคุกคามทางเพศ เหตุเกิดขึ้นกลางปีที่แล้วแต่มาร้องตอนตนมีตำแหน่งคนพามาร้องอยู่ในพรรค อยากให้ลองไปดูช่วงไทม์ไลน์เลือกตั้ง เพจก้าวไกลปราจีนบุรี ช่วงเลือกตั้งไม่เคยมีรูปในนั้น แม้วันที่ชนะเลือกตั้งการแสดงความยินดีไม่เกิดขึ้น ถ้าผู้เสียหายไปดำเนินคดีอาญาหลังจากนี้ยินดีจะได้พิสูจน์ เมื่อถามว่าแสดงว่าจะดำเนินคดีอาญาเรื่องหมิ่นประมาท นายวุฒิพงศ์ตอบว่า “ใช่ครับ”
“ไอติม” ยันยกมือขับ “ไชยามพวาน”
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค ก.ก.ทวีตข้อความว่า ใน 2 กรณี กก.บห. พิจารณาข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าทั้ง 2 กรณี มีพฤติการณ์ที่คุกคามทางเพศจริง และผิดวินัยร้ายแรงของพรรค โดยเสนอให้ขับพ้นจากสมาชิกพรรค มีบางเพจที่กล่าวหาว่า เป็น 1 ใน สส.ที่ลงมติไม่เห็นชอบกับการขับออกนายไชยามพวาน รวมถึงกล่าวหาว่า ตนรวบรวมเสียงให้คนโหวตไม่เห็นด้วยกับการขับออกเพื่อปกป้องพวกพ้อง เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง จำเป็นต้องชี้แจงความจริง 1.ยืนยันจุดยืนการทำงานบนหลักการ และข้อเท็จจริงเท่านั้นในทุกกรณีไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคนที่รู้จัก หรือเคยร่วมงานกันมา 2.เมื่อทราบว่ามีเรื่องร้องเรียนต่อคุณไชยามพวาน ได้ระมัดระวัง เว้นระยะห่างเป็นพิเศษจากกระบวนการทั้งหมด และหลีกเลี่ยงแสดงความเห็นนอกรอบ 3.ในที่ประชุมพรรคได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่มีความผิดชัดเจนทางออกควรจะเป็นคือ การที่ผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง โดยไม่ต้องรอให้มีกระบวนการวินิจฉัยลงโทษอย่างเป็นทางการ 4.ตนเป็น 1 คนที่ลงมติเห็นด้วยกับการขับออกคุณไชยามพวาน 5.ขออภัยเพื่อนๆ สส.ที่จำเป็นต้องเปิดเผยการลงมติของตนต่อสาธารณะ
กมธ.ตำรวจลุยสางปัญหาชายแดน
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร นำคณะลงพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้าเยี่ยมสภ.แม่สายรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนแนวทางการป้องกันและปราบการพนันออนไลน์ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ค้ามนุษย์ การลักลอบเข้า-ออกประเทศทางเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดน นายชัยชนะเปิดเผยว่า พื้นที่ อ.แม่สาย เป็นพื้นที่ต้นตอปัญหาการเปิดเว็บพนันออนไลน์ การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ การค้ายาเสพติด โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ มีขบวน การหลอกชาวไทยเข้าไปประเทศพม่า เพื่อส่งต่อไปทำงานที่เมืองห่างไกลติดต่อไม่ได้ มีค่าใช้จ่ายต่อหัวกว่า 30,000 หยวน หรือ 150,000 บาท วิธีช่วยเหลือต้องไปไถ่ตัวมาจากกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มนั้นๆที่หลอกไป และจะนำทุกปัญหาที่พบไปเสนอต่อสภาฯ และรัฐบาลเพื่อแก้ไข
แกนนำก้าวหน้ามอบตัวคดีปลุกปั่น
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สน.พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า พร้อมทีมทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมสอบคำให้การเพิ่มเติมในคดีที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษว่าทั้ง 3 คน โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อปลายปี 2563 ข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ ตามป.อาญามาตรา 83 และมาตรา 116 (2)(3) ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักประกัน คดีนี้ชั้นพนักงานอัยการเคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เห็นแย้งส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดชี้ขาด โดยอัยการสูงสุดให้สั่งฟ้องทั้ง 3 คน และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตาม ป.อาญา มาตรา 116 (2) (3)