ถูกโฉลกแข้งปลาดิบ

หลังจากอกหักมา 2 ครั้งติดในเกมดึงนักเตะอย่างมอยเซส ไกเซโด และโรเมโอ ลาเวีย เข้ามาร่วมทีม เนื่องจากทั้งคู่ได้เลือกย้ายไปเล่นให้กับ “สิงห์บลู” เชลซี มากกว่าจะย้ายมาเล่นกับลิเวอร์พูล

แต่ล่าสุดทาง “หงส์แดง” ก็ได้ซุ่มเงียบปิดดีลคว้าตัวของวาตารุ เอ็นโดะ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่นจาก “ม้าขาว” สตุตการ์ต มาร่วมก๊วนเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าสาวก “สิงห์บลู” จะค่อนขอด “หงส์แดง” ว่าพลาดคว้าทั้งไกเซโด และลาเวียจนต้องไปหาโนเนมที่ไหนไม่รู้อย่างเอ็นโดะเข้ามาร่วมก๊วน

แต่อยากจะบอกว่านักเตะโนเนมที่สาวก “สิงห์บลู” ได้ออกมาแซวกันนั้นถือว่าฝีเท้า

ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ที่แน่ๆก็คือได้การยอมรับให้เป็นกัปตันทีมสตุตการ์ตมาก่อน

ลองคิดดูว่าในเวทียุโรปไม่ว่าจะเป็นลีกต่างๆ โดยเฉพาะ 5 ลีกท็อปของยุโรปมีนักเตะจากเอเชียซักกี่คนที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทีมได้ นอกจากเอ็นโดะแล้วเท่าที่เห็นก็คือ มาโกโตะ ฮาซาเบะ มิดฟิลด์ชาวปลาดิบที่เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมแฟรงก์เฟิร์ต และล่าสุดคือ ซน เฮือง มิน กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กัปตันทีมคนใหม่ของทอตแนม ฮอตสเปอร์ ในซีซันนี้

การมาของเอ็นโดะจะช่วยปิดรอยรั่วของ “หงส์แดง” ที่ปล่อยตัวของฟาบินโญ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกไปจากทีมพร้อมกันได้ดี เพราะตัวของกองกลางวัย 30 ปีนั้นลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 6 หรือมิดฟิลด์ตัวรับ แถมยังได้ความเก๋ามาช่วยทีมอีกด้วย

เพราะเรื่องประสบการณ์นั้นไม่ต้องพูดถึงแจ้งเกิดจากโชนัน เบลล์มาเล ก่อนย้ายมาเล่นให้ อูราวะ เรด ไดมอนด์ส จากนั้นในปี 2018 ก็ย้ายมาเล่นกับแซงต์ ทรุยดอง ทีมในลีกเบลเยียม ก่อนในปี 2019 จะถูกสตุตการ์ตยืมตัวมาใช้งาน 1 ปี ก่อนจะเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมที่พา “ม้าขาว” กลับมาเล่นบนบุนเดสลีกาอีกครั้ง

จนทำให้สตุตการ์ตซื้อขาดจากแซงต์ ทรุยดองทันที ซึ่งทางเอ็นโดะก็กลายเป็นตัวหลักมาตลอดจนในฤดูกาลที่ผ่านมาได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมและพา “ม้าขาว” รอดตกชั้นได้อย่างหวุดหวิด

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาในเวทีบุนเดสลีกา เอ็นโดะ เข้าแย่งบอล 1,274 ครั้งและสามารถแย่งบอลได้สำเร็จ 54.6 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ถ้าดูจากสถิติเข้าแย่งบอล 2 ครั้งเขาจะชนะอย่างน้อย 1 ครั้ง

ขณะที่ในฤดูกาลล่าสุดกองกลางวัย 30 ปีสามารถปะทะชนะจำนวน 227 ครั้งถือเป็นอันดับ 6 ของบุนเดสลีกา

สามารถตัดบอลคู่แข่งได้ 45 ครั้ง นอกจากเกมรับที่โดดเด่นแล้วเกมรุกก็ไม่ธรรมดาสามารถสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ถึง 46 ครั้งถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของบุนเดสลีกาซีซันก่อน

เท่านั้นยังไม่พอกัปตันทีมชาติญี่ปุ่นชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ยังมีทีเด็ดในการยิงประตูนอกกรอบเขตโทษอีกด้วย

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมิดฟิลด์ที่คุณภาพคับแก้วเด่นทั้งเกมรับและเกมรุก แม้ว่าสาวก “หงส์แดง” หลายคนก็ยังคลางแคลงใจว่า เอ็นโดะ จะเข้ากับทีมได้หรือไม่ เพราะตำแหน่งเบอร์ 6 นั้นถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากๆ

ช่วงแรกเอ็นโดะน่าจะต้องปรับตัวเล็กน้อย แต่เชื่อว่าการที่มีเพื่อนร่วมทีมที่พูดเยอรมันได้หลายคนรวมทั้งคลอปป์ก็น่าจะทำให้กองกลางชาวปลาดิบรายนี้ปรับตัวเข้ากับทีมได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ คลอปป์ยังถูกโฉลกกับนักเตะญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนคุม “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ มีชินจิ คากาวะก็สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ ตอนคุมลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้ในฤดูกาล

2019-2020 ดึงตัวทาคูมิ มินามิโนะ มาร่วมทีมก็สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เช่นกัน

หรือว่าการได้เอ็นโดะมาจะทำให้ “หงส์แดง” ก้าวไปถึงฝั่งฝัน (แชมป์พรีเมียร์ลีก) อีกครั้งในซีซันนี้!!

มะระหวาน