มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจี้'กสทช.'ค่าโทรต้องลด 12% หลัง'ทรู'ควบ'ดีแทค'

นับจากวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ลงมติเห็นชอบการควบรวม 2 เครือข่ายโทรคมนาคมใหญ่ระหว่างบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค ท่ามกลางเสียงคัดค้านอย่างหนักของทั้งองค์กรผู้บริโภค พรรคการเมือง ภาคประชาชน หรือแม้แต่ กสทช. 2 เสียงข้างเนื่องจากพบว่าทรู ดีแทค รวมไปถึงบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ได้ปรับขึ้นอัตราค่าบริการเท่ากัน

นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เสริมว่า กว่า 9 เดือนหลังควบรวมทรูและดีแทคเกิดปัญหาด้านราคาและคุณภาพบริการ ล้วนมีต้นเหตุจากความเพิกเฉยของ กสทช. อีกทั้งยังไม่เห็นการลดค่าบริการเฉลี่ย 12 % ตามเงื่อนไขมาตรการเฉพาะของผู้ประกอบการในการควบรวมธุรกิจ และยังพบเอไอเอสคิดค่าบริการที่ใกล้เคียงกัน จนเหมือนเป็นการผูกขาดทางราคา โดยยังไม่เห็นกระบวนการติดตามตรวจสอบของ กสทช. นอกจากการรอฟังรายงานของผู้ประกอบการ ดังนั้น หาก กสทช. มีความจริงใจปกป้องสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค ต้องออกมาตรการตรวจสอบ-บังคับให้ผู้ประกอบการมือถือทุกค่ายเปิดเผยโครงสร้างแพคเกจต่อผู้บริโภค แต่เวลานี้ยังถูกปิดกั้นการเข้าถึง

ทั้งนี้ จึงขอเสนอให้ กสทช. เปิดเผยข้อมูลแพ็คเกจค่าโทรบริการของค่ายมือถือทุกค่ายผ่านเว็บไซต์ กสทช. รวมถึงเงื่อนไขมาตรการเฉพาะที่ผู้ประกอบการจัดทำรายงานส่งให้ กสทช. และสร้างช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถเข้าไปตรวจสอบแพ็คเกจและเงื่อนไขการให้บริการของค่ายมือถือโดยง่าย และมีระบบการส่งข้อมูลความคิดเห็น และข้อร้องเรียนโดยตรงไปที่ กสทช. ที่นอกเหนือจากเบอร์ติดต่อ 1200 โดยที่ไม่ใช่ข้อมูลที่มาจากการรายงานของผู้ประกอบการแต่เพียงฝ่ายเดียว
 

เภสัชกรหญิงชโลม เกตุจินดา อุปนายกสมาคมผู้บริโภคสงขลา เสริมว่า ปัญหาเกิดจาก กสทช. ไม่ยอมรับฟังเสียงคัดค้านจาก องค์กรผู้บริโภค ที่ชี้ให้เห็นถึงการผูกขาดและฮั้วราคา รวมถึงคุณภาพการให้บริการเครือข่ายที่แย่ลง ทำให้ทรูและดีแทคควบรวมไปแบบเนียนๆ แต่หลังจากนั้น ได้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ต ของดีแทคแย่ลง ทั้งที่ยังอยู่ระหว่างแยกแบรนด์ 3 ปี ความเร็วถูกลด ทั้งที่ซื้อแพคเก็จราคาแพง แต่กลับหมดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีการกระตุ้นให้ลูกค้าไปใช้เครือข่ายของทรู และที่สำคัญยังมีประเด็นที่ผู้ประกอบการใช้วิธีการแบบ “ส่วนลดเฉลี่ย” หมายถึง เอาคนที่มีกำลังจ่าย มาหารเฉลี่ย ให้คนไม่มีกำลังจ่าย ทั้งที่ส่วนลดค่าบริการเฉลี่ย 12% ต้องมีแพคเก็จที่เป็นธรรมกับผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น

ดังนั้น กสทช. ควรต้องเร่งมือในการกำกับดูแลตามเงื่อนไขที่วางไว้ และต้องรายงานให้สังคมทราบด้วย เพราะความล่าช้าในการกำกับดูแล ไม่เพียงส่งผลต่อผู้บริโภคในกรณีทรูและดีแทคเท่านั้น แต่จะเป็นบรรทัดฐานไปสู่การอนุญาตควบรวมอื่นๆ เช่น เอไอเอสกับ 3บีบีในกิจการอินเทอร์เน็ตบ้าน ทำให้ผู้บริโภคตกอยู่ในสภาวะถูกลอยแพ

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ทูตยูเอ็นประจำเกาหลีเหนือ ยืนยัน โสมแดงไม่ได้ส่งกองทัพหนุนรัสเซีย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทูตยูเอ็นประจำเกาหลีเหนือกล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างการประชุมสมัชชาใ...

ใครกัน "เร ลิล แบล็ก" ดาราขวัญใจหนุ่มไทย โพสต์เดือดมีผู้ชายมาขอนอนด้วย-ทั้งๆ ที่มีเมียแล้ว

เร ลิล แบล็ก โพสต์ฉุน มีหนุ่มมาขอนอนด้วย แม้จะมีครอบครัวแล้ว ทำเอาแฟนๆ แห่คอมเมนต์ วันที่ 22 ตุลาคม ...

เร่งส่งออกสุดชีวิต! รถ EV จีนถาโถมยุโรป เดือนเดียวเกือบ 6 หมื่นคัน ก่อนภาษีใหม่มีผล

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จากจีนไปยังสหภาพยุโรปในเดือนกันยายนพุ่งสูงข...

"เป๊ป" ตัดสินใจแล้ว อนาคตกับ "แมนฯ ซิตี้" หลังยังไม่ต่อสัญญา อาจลากุนซือหลังจบฤดูกาล

มาแล้ว เป๊ป กวาร์ดิโอลา ตัดสินใจแล้ว อนาคตกับ แมนฯ ซิตี้ หลังยังไม่ต่อสัญญา มีแนวโน้มโบกมือลาหลังจบฤ...