'แผนพลังงาน' ยามสงคราม ใช้กลไก 'กองทุน' ดูแลราคา

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังหารือกับหน่วยงานในสังกัด เพื่อรับมือสถานการณ์ราคาพลังงานจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ว่า กระทรวงพลังงาน ได้ประเมินสถานการณ์ราคาพลังงานจากผลกระทบการสู้รบของอิสราเอลและฮามาสช่วงที่ผ่านมา โดยราคามีการขึ้นลงแกว่งในกรอบไม่น่ากังวล

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะเฝ้าระวังราคาน้ำมันและราคาเชื้อเพลิงประเภทต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารราคาและดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ดังนั้น ขอประชาชนไม่ต้องกังวลว่าน้ำมันขาดแคลนเพราะปัจจุบันไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 70 วัน แบ่งเป็นสำรองในประเทศ 45 วัน ปริมาณ 3,910 ล้านลิตร และปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอีก 25 วัน ปริมาณ 2,180 ล้านลิตร

“ส่วนตัวไม่ได้ห่วงมาก แต่ก็จะติดตามสถานการณ์ ซึ่งตอนนี้เห็นว่าอาจจะรุนแรงขึ้น แต่การรุนแรงอาจจะไม่ทำให้ยืดเยื้อก็ได้ อีกทั้ง โชคดีที่ช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว ราคาตกต่อเนื่องราว 15 ดอลลาร์ พอมีสงคราม ราคาขยับขึ้นมาราว 4 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินบาทราว 60-80 สตางค์ ถือเป็นราคาที่ไม่กระโดด”

อย่างไรก็ตาม บริษัท บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ประเมิณสถานการณ์โดยเรียกผลกระทบว่า war premium หรือ ราคาพรีเมียมที่เกิดจากสงคราม ที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันกระโดดขึ้นไป แต่เป็นในช่วงสั้น ไม่เหมือนสงครามรัสเซียกับยูเครน ซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมัน แต่อิสราเอลถือเป็นประเทศนำเข้า 90% อาจจะมีส่งออกบ้างในประเทศใกล้เคียงแต่ก็ไม่มาก ส่วนประเด็นการปิดเส้นทางการเดินเรือยังไม่น่าเป็นห่วงมากเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยตรง

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศกลุ่มตะวันออกกลางประมาณ 57% และในส่วนของ LNG นำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 33% จากหลากหลายแหล่ง

“ตลอด 6 วัน ตลาดน้ำมันแทบไม่ได้ขยับมาก ขึ้นมานิดหน่อยถือว่ารับได้ โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ราคาพลังงาน ก็ได้ห่วงใยและให้เตรียมรับมือในทุกสถานการณ์ ดังนั้น แม้ราคาจะขยับขึ้นมาบ้าง กระทรวงพลังงานจะยังคงใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลราคา โดยการชดเชยในช่วงนี้ก็ถือว่าลดลง จาก 6 บาทต่อลิตร เหลือ 4 บาทต่อลิตร เป็นต้น”

นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับแผนรับมือราคาพลังงานปี 2567 สิ่งที่จะทำคือ หารือกับกรมสรรพสามิต เพื่อขอให้ขยายระยะเวลาลดการจัดเก็บภาษีลงไปอีก จากเดิมที่ลดการจัดเก็บลง 2.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 31 ธ.ค.2566 อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น กองทุนน้ำมันฯ อยู่ระหว่างการกู้เงินที่ยังเหลืออีก 50,333 ล้านบาท เข้าบัญชีเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันในประเทศ ตามพระราชกำหนดผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565

ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันฯ ได้ทยอยกู้ยืมเงินโดยสอดคล้องกับแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี 2566 โดยลงนามในสัญญากู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินรวม 105,333 ล้านบาท จากวงเงิน 150,000 ล้านบาท ปัจจุบัน เบิกเงินกู้ยืมแล้ว 55,000 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 8 ต.ค. 2566 ติดลบ 68,327 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 23,322 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,005 ล้านบาท

กระทรวงพลังงานจึงอยากให้ความมั่นใจถึงการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงพลังงานในทุกด้าน โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ เป็นเครื่องมือหลักในการบริหารจัดการราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้เหมาะสม โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ที่ปัจจุบันราคาลดลงมาอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตร และก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กก. ส่วนมาตรการช่วยเหลือน้ำมันเบนซินเฉพาะกลุ่มนั้น ขณะนี้ ได้เสนอแผนช่วยเหลือต่อนายพีระพันธุ์ เรียบร้อยแล้ว”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...