เอกชนจี้รัฐบาลฟื้นเชื่อมั่นเหตุกราดยิง กระทบ ‘จีนเที่ยวไทย’ หาย 2 แสนคน
วันที่ส่ง: 10/10/2023 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
หลังเกิดเหตุกราดยิงในห้างสยามพารากอนเมื่อวันที่ 3 ต.ค. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นชาวจีน และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ผู้ประกอบการบริษัททัวร์จีนระบุว่า จากการติดตามผลกระทบตลาดนักท่องเที่ยวจีนร่วม 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกการเดินทางเป็นส่วนน้อย โดยเฉพาะกลุ่มเดินทางส่วนตัว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) บางส่วนเริ่มลังเลว่าจะเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงนี้ดีหรือไม่ ขณะที่ยอดจองการเดินทางใหม่พบว่าชะลอการจองเข้ามาช้าลง
แหล่งข่าวจากวงการบริษัททัวร์ตลาดนักท่องเที่ยวจีน กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในระยะสั้น 1-2 เดือนแรก ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปหลักหมื่นคนหรือมากสุด 1 แสนคนต่อเดือน
จากเดิมเดือน พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะเป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาเที่ยวไทยจำนวนมาก มีจำนวนเดินทางเข้าไทยเกิน 6 แสนคน น่าจะลดลงเหลือ 5 แสนคน ขณะที่เดือน ธ.ค. เดิมคาดว่าจะเข้ามาเกิน 7 แสนคน น่าจะลดลงเหลือ 6 แสนคน รวมแล้วในช่วง 2 เดือนดังกล่าว (พ.ย.-ธ.ค.) นักท่องเที่ยวจีนน่าจะหายไปประมาณ 2 แสนคน สูญรายได้ 10,000 ล้านบาท คิดจากค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 50,000 บาทต่อคนต่อทริป
“เดิมประเมินว่าในเดือน พ.ย.นี้จะเริ่มมีนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทยจำนวนมากเป็นกอบเป็นกำ และมั่นใจมากว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือน ธ.ค. จากปัจจัยบวกรัฐบาลออกมาตรการยกเว้นการขอวีซ่า (วีซ่า-ฟรี) แก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานเป็นการชั่วคราว ระยะเวลากว่า 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 – 29 ก.พ. 2567 แต่พอเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทำให้ต้องประเมินตลาดใหม่ คาดส่งผลกระทบต่อตลาดนักท่องเที่ยวจีนระยะสั้น 1-2 เดือนนี้ และน่าจะกลับมาเป็นปกติได้ในเดือน ม.ค. 2567 ต่อเนื่องไปถึงโกลเด้นวีคหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนเดือน ก.พ. 2567 โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”
หวัง ‘เศรษฐา’ เร่งฟื้นเชื่อมั่นรัฐบาลจีน
แหล่งข่าวจากบริษัททัวร์รายดังกล่าว ระบุด้วยว่า ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเร่งฟื้นความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดการเดินทางไปเยือนประเทศจีนเร็วๆ นี้ หากมีโอกาสได้เข้าพบนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ต้องตอกย้ำว่าเมืองไทยปลอดภัย เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย และจะดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ให้รัฐบาลจีนสบายใจ ไม่มีนโยบายกีดกันคนจีนเดินทางมาเที่ยวไทย นอกจากนี้อยากให้เร่งประชาสัมพันธ์บนโลกโซเชียลมีเดียของจีน ให้ชาวจีนที่มาเที่ยวไทยเป็นผู้บอกต่อข่าวสารเชิงบวกว่ามาเที่ยวไทยได้อย่างมั่นใจ ดีกว่าฝั่งไทยเป็นคนพูดเอง
นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งออกมาตรการด้านต่างๆ ให้ชัดเจน โดยเฉพาะมาตรการดูแลความปลอดภัย แหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สาธารณะที่มีคนรวมกันหมู่มากต้องมีมาตรการตรวจค้นอาวุธ ติดตั้งกล้องวงจรปิด มีเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำจุดต่างๆ รวมถึงระบบข้อความเตือนภัย (SMS Alert) การใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุให้เป็นที่ยอมรับของสังคม และรู้สึกว่าผู้เสียหายได้รับการดูแลอย่างยุติธรรม นี่คือประเด็นที่สำคัญมากๆ
“หากนายกฯ เศรษฐา มีกำหนดการเดินทางไปเยือนประเทศจีน สิ่งที่อยากให้ย้ำกับรัฐบาลจีนคือมาตรการดูแลความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อเดินทางมาประเทศไทย พร้อมแสดงความจริงใจแก่รัฐบาลจีนว่าประเทศไทยพร้อมดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ยอมรับในผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก และที่สำคัญต้องดูแลผู้เสียหายอย่างดีที่สุด ครอบครัวเขาจะได้พูดถึงประเทศไทยในเชิงบวก”
โกลเด้นวีค ต.ค. ทัวริสต์จีนพุ่ง 1.5 หมื่นคนต่อวัน
นายอดิษฐ์ เลขาธิการ แอตต้า กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยก่อนหน้านี้หลังจากรัฐบาลออกมาตรการวีซ่า-ฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีน ทางผู้ประกอบการทัวร์จีนต่างตอบรับดีมาก ตื่นเต้นพอสมควร และคิดว่าเป็นความหวังในการทำตลาด โดยจากสถิติการเดินทางช่วงสัปดาห์แรกของมาตรการวีซ่า-ฟรี ซึ่งตรงกับโกลเด้นวีควันชาติจีน (1 ต.ค.) มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 15,000-17,000 คนต่อวัน เติบโต 2 เท่าเทียบกับช่วงก่อนมีมาตรการวีซ่า-ฟรี ซึ่งมีจำนวนเดินทางเข้าไทย 7,000 คนต่อวัน
“เดิมคาดหวังว่าหากหมดโกลเด้นวีควันชาติจีนไปแล้ว ถ้ายังยืนอยู่ในระดับนี้ได้จนถึงเดือน พ.ย. ก็คาดว่าตลาดจีนเที่ยวไทยจะดีขึ้นอย่างมากในเดือน ธ.ค. 2566 ไปจนถึงเทศกาลตรุษจีนเดือน ม.ค.2567 แต่กลับมาเจอเหตุการณ์นี้ที่ตอกย้ำว่าประเทศไทยยังมีข้อบกพร่องเรื่องความปลอดภัย”
ทั้งนี้ อาจต้องเลื่อนกำหนดการจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายของแอตต้าที่ประเทศจีนไปเป็นหลังเทศกาลปีใหม่ช่วงต้นเดือน ม.ค. 2567 เมื่อสถานการณ์เรื่องนี้ดีขึ้น เพื่อเตรียมกระตุ้นการเดินทางช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน จากเดิมแอตต้ามีแผนจัดโรดโชว์ในปลายเดือน พ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค. ปีนี้
จี้รัฐบาลเจรจาสิทธิการบิน-ให้วีซ่าฟรี ‘อินเดีย’
ล่าสุด แอตต้าเพิ่งจัดโรดโชว์ที่นครมุมไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการเงินของประเทศอินเดียเมื่อต้นเดือน ต.ค. เพื่อกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียให้เดินทางเข้าไทยมากขึ้น จากปัจจุบันมีจำนวนสะสมช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มากกว่า 1 ล้านคน โดยพฤติกรรมของชาวอินเดียเดินทางเฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง ใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งคนละประมาณ 70,000 บาท
“อุปสรรคที่รัฐบาลไทยต้องเร่งแก้ไข คือการเจรจากับทางการอินเดียเรื่องเพิ่มสิทธิการบิน ขยายจำนวนเที่ยวบินเส้นทางไทย-อินเดีย ให้สายการบินสามารถทำการบินตรงจากเมืองใหญ่ของอินเดียเข้าไทยได้มากขึ้น นอกจากนี้ทางเอเยนต์และลูกค้าตลาดอินเดียได้สอบถามมาทางแอตต้าว่าประเทศไทยจะออกมาตรการยกเว้นวีซ่า หรือ วีซ่า-ฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดียได้เมื่อไร ในเมื่ออินเดียก็เป็นตลาดสำคัญและนิยมมาเที่ยวไทยอย่างมากเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าตลาดอินเดียต้องการมาตรการนี้สูง และหวังว่ารัฐบาลไทยจะพิจารณายกเว้นวีซ่าให้โดยเร็ว”
ททท. รุกสื่อสาร ‘Thais Always Care’
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นและสื่อสารให้โลกรู้ว่าสถานการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่อยากโทษใคร สิ่งที่ต้องทำคือเร่งยกระดับความปลอดภัยในทุกพื้นที่ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับไปดูแลแล้ว
“ททท.ต้องปรับการสื่อสารไปทั่วโลกว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และจะมีแคมเปญสื่อสารไปในโลกออนไลน์ ภายใต้ข้อความ Thais Always Care หรือ คนไทยใส่ใจเสมอ เพื่อต้องการบอกว่าคนไทยแคร์เรื่องที่เกิดขึ้น และเป็นห่วงความรู้สึกของทุกคน ไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นกับทุกคน และไม่ใช่แค่กับนักท่องเที่ยวชาวจีนเท่านั้น แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย และคนไทยด้วย”
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ททท.มีแผนจัดโรดโชว์ที่ประเทศจีน นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการฝั่งจีนอยู่แล้วในช่วงกลางเดือน ต.ค.นี้ โดย ททท.เตรียมลงนามบันทึกความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation : MOC) กับเอกชนท่องเที่ยวจีน เพื่อขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวตามแผนเดิม
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
คำเดียวสั้นๆ "แฟนสาวจาค็อบ" พูดต่อหน้า "รถถัง" หลังชวดแชมป์โลก
เผยคำพูด แฟนสาวของ จาค็อบ สมิธ ที่พูดต่อหน้า รถถัง จิตรเมืองนนท์ หลังฟาดปากกันในศึกมวยไทย รุ่นฟลายเว...
กรมวิชาการเกษตร ระดมแผนเตรียมพร้อม ส่งลำไยเจาะตลาดจีน
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรเร่งขับเคลื่อนนโยบายผัก ผลไ...
ผลบอล "บาเยิร์น มิวนิก" ไม่พลาด บุกเชือด "ซังต์ เพาลี" รั้งจ่าฝูงบุนเดสลีกา
"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ทำได้ตามเป้า บุกมาเอาชนะ ซังต์ เพาลี เก็บ 3 คะแนนสำคัญ รั้งจ่าฝูง บุนเดสลี...
ส่องขุมทรัพย์ที่ดิน 'รถไฟ' 9.6 หมื่นล้าน จ่อประมูลสร้างรายได้เชิงพาณิชย์
การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นับเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มีทรัพย์สินที่ดินทั่วประเทศจำนวนมาก และยังเป็น...
ยอดวิว